ในจานอาหารทุกจานมักจะมีสิ่งที่ดึงดูดสายตาของเรา โดยเฉพาะ “สีสันของอาหาร” ที่เชิญชวนให้เราอยากลิ้มลอง เนื่องจากสีมีอิทธิพลต่อความรู้สึกทำให้เราอยากอาหารมากขึ้นนั่นเอง การใช้สีผสมอาหารจึงเป็นเรื่องปกติและนิยมมาก แต่สีที่ดีต่อสุขภาพคือ “สีผสมอาหารจากธรรมชาติ” ที่ได้จากการสกัดหรือแปรรูปวัตถุดิบทั้งพืชผักและผลไม้
นอกจากจะช่วยเติมสีสันให้อาหารดูมีชีวิตชีวามากขึ้นแล้ว สีผสมอาหารจากธรรมชาติยังมีคุณค่าทางโภชนาการ เพราะส่วนประกอบหลักเป็นผักหรือผลไม้ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงยังช่วยชูเอกลักษณ์ของกลิ่นและรสชาติจากวัตถุดิบนั้นในจานอาหารด้วย
แหล่งที่มาของสีผสมอาหารจากธรรมชาติ
- สีชมพู จาก สตรอว์เบอร์รี ราสป์เบอร์รี
- สีแดง จาก บีตรูต มะเขือเทศ พริกแดง กระเจี๊ยบ
- สีส้ม จาก แครอต ปาปริกา มันเทศ
- สีเหลือง จาก หญ้าฝรั่น ดอกคำฝอย ขมิ้น ฟักทอง
- สีเขียว จาก ใบตะไคร้ พริกเขียว มัตฉะ ผักโขม ผักชีฝรั่ง ใบเตย
- สีน้ำเงิน จาก ดอกอัญชัน กะหล่ำปลีแดงผสมกับ Baking Soda
- สีม่วง จาก บลูเบอร์รี มันเทศสีม่วง ดอกอัญชัน
- สีน้ำตาล จาก กาแฟ ชา โกโก้
- สีดำ จาก ถ่านกาบมะพร้าว ถั่วดำ หมึกดำของปลาหมึก
ยกตัวอย่าง การนำน้ำบีตรูตที่กรองแล้วมานวดกับแป้งสาลี นำมารีดทำพาสตาให้เส้นมีสีแดงชวนกิน หรือถ้าหากอยากได้ครีมสีม่วงสามารถใช้บลูเบอร์รีบดกับวิปปิงครีม ทำเป็นวิปครีมบลูเบอรีไว้แต่งหน้าขนมหรือเค้กได้
อย่างไรก็ตาม หากโดนความร้อนมากไปอาจทำให้สีที่ได้นั้นเปลี่ยนไป เช่น สีแดงเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ส่วนสีเหลืองก็จะจางลงเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าเราจะใช้สีสังเคราะห์แทนได้ แต่ก็สามารถหลีกเลี่ยง โดยหันมาใช้สีผสมอาหารจากธรรมชาติน่าจะดีต่อสุขภาพมากกว่านะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
Tag:
สีผสมอาหาร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น