ประวัติศาสตร์ของเชียงใหม่มีความเป็นมายาวนานแค่ไหน เรื่องราวของอำเภอฝางก็ไม่ได้แตกต่างกัน แต่แน่นอนว่า “ฝาง” ไม่ใช่จุดหมายปลายทางแรกที่นักท่องเที่ยวนึกถึงเมื่อมาเยือนเชียงใหม่ เส้นทางอันยาวไกลจากตัวเมืองทำให้เขตแดนนี้ยังแสนบริสุทธิ์ราวกับไม่เคยถูกแตะต้องด้วยมือมนุษย์

ความรุ่มรวยทางทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมของผู้คนล้วนประกอบรวมเป็นเสน่ห์ที่ซุกซ่อนภายใต้เงาของเทือกเขาสูง สามารถเติมเต็มการเดินทางได้ในหลากหลายแง่มุม ทั้งแง่ของการเรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาในพื้นที่ กิจกรรมผจญภัยเล็กๆ น้อยๆ อาหารท้องถิ่นรสเด็ดไม่เหมือนใคร และการพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ

Museum
“บ้านยาง” หมู่บ้านเล็กๆ บริเวณเชิงดอยอ่างขางที่เป็นบ้านของชาวจีนอพยพลงมาจากมณฑลยูนนานด้วยปัญหาการเมืองเมื่อ พ.ศ. 2479 ศาสนสถานในพื้นที่ของหมู่บ้านซึ่งมีทั้งวัดจีน มัสยิด และโบสถ์คริสต์บ่งบอกว่าหมู่บ้านแห่งนี้เป็นการรวมตัวกันอย่างกลมกลืนและกลมเกลียวของผู้คนจากหลากหลายความเชื่อ ริมทางบนถนนสายแคบประดับประดาไปด้วยสตรีทอาร์ตมากสีสันในระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ ๑ (ฝาง) ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นสถานที่ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ดอยคำที่เราต่างคุ้นเคยกันดี

สถานีเกษตรหลวงอ่างขางนับเป็นโครงการหลวงแห่งแรกสุด และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมา ตั้งแต่การริเริ่มแก้ไขปัญหาการปลูกฝิ่นและไร่เลื่อนลอยของชาวไทยภูเขา (ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นคนต่างด้าว) ให้กลายเป็นพื้นที่ทำเกษตรกรรมปลูกพืชเมืองหนาวในปี พ.ศ. 2512 ไล่เรียงมาเรื่อยๆ จนถึงการสร้างโรงงานเพื่อแปรรูปผลิตผลของเกษตรกร สร้างอาชีพและรายได้ให้กับคนในชุมชน ข้าวของที่เคยใช้จริงเมื่อวันวานไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์สำนักงาน อุปกรณ์โรงงานในยุคเริ่มต้น ภาพถ่ายภายในโรงงาน ภาพถ่ายผู้คนในชุมชน ไปจนถึงรถโฟล์คสวาเกน รุ่น 181 ขนาด 1,500 ซีซีที่เคยใช้งานจริงเมื่อแรกก่อตั้ง ก็มาอวดโฉมสุดคลาสสิกให้ได้ชมในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ด้วยเช่นกัน

ครั้งหนึ่งบ้านยางเคยประสบกับอุทกภัยขั้นร้ายแรงจากน้ำบนเทือกเขาที่เข้าซัดอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้พื้นที่ของโรงงานหลวงที่ ๑ (ฝาง) ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และได้รับความเสียหายไปมาก ร่องรอยของโศกนาฏกรรมเมื่อปี พ.ศ. 2549 ก็ได้นำมาจัดแสดงในพื้นที่ด้วย ทั้งในรูปแบบของภาพถ่ายเก่าเก็บ ซากไม้น้ำป่า รวมทั้งซากเครื่องจักรโรงงาน เช่น รถโฟร์กลิฟต์ เครื่องชั่ง 50 ตัน และอีกมากมายที่บันทึกร่องรอยความรุนแรงของน้ำป่าเอาไว้อย่างดีผ่านพื้นผิวของมัน

Adventure
ติดกับพื้นที่ทางด้านซ้ายมือของโรงงานหลวงที่ ๑ (ฝาง) ลำธารสายเล็กที่ทอดผ่านขนาบข้างด้วยดอกไม้หลากสีสัน มีฉากหลังเป็นท้องฟ้าสีหม่นในวันฝนปรอยช่างดูแสนโรแมนติก แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นจุดเริ่มต้นของกิจกรรมแอดเวนเจอร์เล็กๆ กับการเดินเท้าเข้าไปชมน้ำตกบ้านยาง หนึ่งในไฮไลต์เล็กๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ในชุมชนแห่งนี้

เส้นทางดื่มด่ำธรรมชาติสู่น้ำตกบ้านยางที่เราเกริ่นว่าเป็นแอดเวนเจอร์เล็กๆ นั้น หนึ่งเป็นเพราะใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึงที่หมาย และเหตุผลที่สองคือเส้นทางไม่วิบากเลยแม้แต่น้อย มีเพียงก้อนหินและน้ำตื้นๆ ระดับตาตุ่ม ซึ่งถ้าเตรียมรองเท้าสำหรับเดินป่ามาดีๆ ก็สามารถลุยน้ำไปข้างหน้าได้อย่างไม่ยากเย็น ถ้าอยากสูดอากาศสดชื่น พักสายตาไปกับสีเขียวสดชื่นของแมกไม้ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำอย่างมาก

Local Recipe
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าบ้านยางเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานอพยพ บรรดาอาหารการกินต่างๆ จึงมีเอกลักษณ์เฉพาะที่พวกเขาเหล่านี้ได้นำติดตัวมาด้วย หนึ่งในเมนูที่ขึ้นชื่ออย่างมากคือ สุกี้ยูนนาน ครั้งนี้เราเดินทางมาชิมเจ้าแรกสูตรออริจินอลที่ร้านเจ้เหมย สุกี้ยูนนาน

จุดเด่นของสุกี้ยูนนานอยู่ที่ความยิ่งใหญ่ จัดเต็ม! เสิร์ฟมาในหม้อไฟขนาดใหญ่ มีส่วนประกอบทั้งหมด 9 ชั้น เรียงตั้งแต่ก้นหม้อขึ้นมาจนถึงปากหม้อ เริ่มต้นด้วยชั้นล่างสุด ผักกาดเจ้าหม่อม เพื่อไม่ให้วัตถุดิบต่างๆ ติดก้นหม้อ ชั้นต่อมาไก่กระดูกดำเป็นตัวช่วยบำรุงสุขภาพ ซ้อนทับด้วยชั้นของหน่อไม้จีน เผือก ฟองเต้าหู้ แฮมยูนนานนำเข้าจากจีน หมูชุบแป้งสมุนไพร ลูกชิ้นปั้น ชั้นบนสุดคือไข่ม้วนทรงเครื่อง ต้มจนร้อนระอุในน้ำซุปที่เลือกได้ 2 รูปแบบคือซุปสูตรดั้งเดิมและซุปหม่าล่า เคียงมาพร้อมบุฟเฟต์ผักสดตามฤดูกาล

Folks
พื้นที่ทางทิศเหนือของอำเภอฝางนั้นมีเขตติดต่อกับประเทศเมียนมาร์ ณ หมู่บ้านนอแล จัดเป็นพิกัดที่ดีที่สุดในการชมทัศนียภาพบนทิวเขาภายในรั้วบ้านของเราไกลไปจนถึงประเทศเพื่อนบ้าน แต่นั่นไม่ใช่ไฮไลต์ที่สุดของบ้านนอแล

อีกฝั่งหนึ่งของเทือกเขาแห่งบ้านนอแลคือบ้านของชาวไทยภูเขาเผ่าปะหล่อง ส่วนหนึ่งของพื้นที่โครงการหลวงดอยอ่างขางที่ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นไร่สตรอว์เบอร์รีกว้างใหญ่ เรียงเป็นขั้นบันไดลดหลั่นไปตามความสูงชัน จากมุมสูงไม่ไกลกันนั้นเรามองเห็นภาพของชาวบ้านในชุดทอพื้นเมืองอยู่ 3-4 คนกำลังก้มหน้าก้มตาเก็บผลสตรอว์เบอร์รีอย่างขะมักเขม้น

ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงจุดชมวิวหรือแหล่งซื้อผลไม้เมืองหนาวเท่านั้น ณ ตอนที่เราเดินทางไปเยือนช่วงต้นเดือนมีนาคม อากาศกำลังเย็นสบาย ชาวบ้านที่ทำงานอยู่นั้นชักชวนให้เราเก็บผลสตรอว์เบอร์รีสดๆ ด้วยตัวเอง คาดว่าเป็นการเพิ่มสีสันของการมาเยือน ด้วยข้อมูลการท่องเที่ยวในช่วงก่อนหน้านี้ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เด็ดผลสตรอว์เบอร์รีออกไปทั้งนั้น แถมยังปรับอีกลูกละ100 บาท

Wellness
อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกเป็นหนึ่งในพื้นที่ธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในเขตของอำเภอฝาง ภายในอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลนี้ประกอบไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติหลากหลายที่คอยเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมเยือน เช่น ดอยผ้าห่มปกซึ่งมีความสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย หนึ่งในจุดหมายปลายทางของเหล่านักเดินป่าที่ขึ้นชื่อว่ามีจุดชมทะเลหมอก และชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้างดงามไม่เป็นสองรองใคร

หนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจไม่แพ้กันนั้นอยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนฝาง ความมหัศจรรย์ใต้พื้นพิภพ เนื่องจากพื้นที่กว่า 10 ไร่บริเวณนี้ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนฝาง-แม่จัน ที่ส่งผลให้น้ำร้อนจากรอยเลื่อนนั้นไหลขึ้นมาสะสมบนชั้นหิน เมื่อไหลมาผสมกับน้ำเย็นด้านบนจึงทำให้อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 125-180 องศาเซลเซียล เกิดเป็นน้ำพุร้อนและแอ่งน้ำอุ่นท่ามกลางลานหญ้ากว้างที่ประดับไปด้วยก้อนหินน้อยใหญ่ เบื้องหลังเป็นภาพความตื่นตาของน้ำพุร้อนที่พุ่งตัวขึ้นสูงกว่า 30 เมตรในทุกๆ ครึ่งชั่วโมง

นอกเหนือไปจากกิจกรรมเดินชมธรรมชาติและต้มไข่ในบ่อน้ำร้อน ที่นี่ยังมีบริการแช่ตัว แช่เท้าในห้องอาบน้ำ ห้องอบไอน้ำ และบ่อน้ำร้อนที่เป็นส่วนตัว เพื่อบำรุงร่างกายด้วยแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำร้อน ได้แก่ แคลเซียม โซเดียม ซัลเฟอร์ ที่ว่ากันว่าสามารถเยียวยาอาการโรคผิวหนัง โรคไขข้อ และกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตได้ดี

ฝางสร้างความทรงจำแห่งการเดินทางไว้มากมาย ด้วยความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวที่อัดแน่นอยู่ภายใน 1 อำเภอนี้ หากได้ไปเยือนในช่วงลมหนาวมาก็จะยิ่งได้บรรยากาศของเมืองหนาวที่สร้างความประทับใจได้อย่างไม่ยากเย็นเลย

การเดินทางไปอำเภอฝาง สามารถนั่งเครื่องบินไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ และขับรถต่อไปถึงอำเภอฝาง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง หรือไปที่ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และขับรถต่อไปจะใช้เวลาน้อยกว่า เพียง 2 ชั่วโมง 10 นาทีโดยประมาณ

Tag: travel