ถ้าจินตนาการถึงคนคนหนึ่งที่อยากเลิกกินเนื้อสัตว์แล้วหันมากินพืชไปตลอดชีวิต จะมีอะไรที่จูงใจได้บ้าง? อาจจะเป็นเรื่องของศีลธรรม ไม่อยากเอาเปรียบเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แต่สำหรับคุณปูเป้-ปิยะรัตน์ มุกุระ ลูกสาวของเชฟวิชิต มุกุระ หนึ่งในตำนานผู้สร้างชื่อเสียงให้กับอาหารไทยมาแล้วทั่วโลก การหันมากินพืชอย่างจริงจังในวัยสามสิบคือการมอบความรักที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง
เริ่มต้นจากคนในครอบครัว
คุณแม่ของคุณปูเป้เป็นคนแรกในบ้านที่หันมากินอาหารจากพืชตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว และชักชวนให้คุณปูเป้เข้าวงการนี้มาก่อนที่อาหารจากพืชจะเป็นเทรนด์ในไทยเสียอีก
“เราเป็นคนชอบกินปลา ในตอนนั้นนับว่าทำใจได้ยาก หากจะต้องหยุดกินปลาไปตลอดชีวิต แต่เราก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะพยายามเลิกกินเนื้อสัตว์ให้ได้ภายในอายุ 30 ปี ประกอบกับได้เข้ามาทำรายการยอดเชฟไทยกับคุณพ่อ และโจทย์ของเราคือการสร้างสรรค์เมนูจากพืช จึงนับเป็นจังหวะที่เหมาะเจาะกับการเลิกกินเนื้อสัตว์ ณ ตอนนั้นอายุ 30 ปีพอดีกับที่เราได้ตั้งใจไว้”
หลังจากที่ได้คลุกคลีกับอาหารจากพืชอย่างจริงจัง คุณปูเป้จึงลงเรียนคอร์ส The Plant Fed Gut เกี่ยวกับการกินอาหารเพื่อลำไส้โดยคุณหมอ Will Bulsiewicz ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารและโภชนาการชาวอเมริกัน “เราอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้คนทั่วโลกหันมาสนใจการกินอาหารจากพืช สุดท้ายก็เปิดโลกเลยว่าทุกอย่างนั้นเกี่ยวเนื่องกับลำไส้เราทั้งหมด”
ทุกอย่างอยู่ที่ลำไส้
ระบบภูมิคุ้มกัน การหลั่งฮอร์โมน ระบบเผาผลาญ ระบบย่อยอาหาร ระบบสมอง ทุกๆ อย่างที่กล่าวมานี้ส่วนหนึ่งถูกควบคุมโดย “จุลินทรีย์” ซึ่งภายในร่างกายของมนุษย์มีจุลินทรีย์หลักร้อยล้านตัว และเกือบ 40 ล้านตัวที่อาศัยอยู่ในลำไส้ทั้งหมดนั้น “ไม่กินเนื้อสัตว์”
“เราจึงรู้แล้วว่าอาหารที่จะดูแลร่างกายของเราได้จริงๆ ตามหลักทางวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบในยุคปัจจุบันก็คือความหลากหลายของพืช ผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ โดยหลักการแล้วต้องกินพืชให้ได้ 30-40 ชนิดต่อสัปดาห์ อาจจะเยอะ แต่ถ้านับกันจริงๆ พริกแต่ละชนิด กระเทียม กะหล่ำม่วง หรือกะหล่ำสีเขียวก็นับเป็นอย่างละ 1 ชนิด เพราะสีที่ต่างกันของพืชนั้นหมายถึงสารอาหารที่แตกต่างกัน”
อาหารไทยกับ Plant-Based
“จุดหนึ่งที่เราสังเกตได้ในอาหารไทยคือไม่ค่อยมีถั่ว เราพึ่งโปรตีนจากเนื้อสัตว์ตลอด ถั่วกลายเป็นวัตถุดิบที่อยู่ในของหวานแทบทั้งหมด เวลาที่ทำอาหารไทยบางเมนูเราแค่กลับมาคิดใหม่ว่าเมนูที่เราคุ้นเคยนั้นสามารถใช้อะไรทดแทนเนื้อสัตว์ได้บ้าง เช่น นำเห็ดมาทำเป็นข้าวยำแหนมเห็ด ใส่ถั่วลิสงทอดในแกงส้ม หรือนำเต้าหู้มายีทำเป็นผัดกะเพรา บ้านของเราจะกินอาหารจากพืชที่เรียกว่า Whole Food Plant-Based เราพยายามไม่ใช้เนื้อสัตว์จำแลงเพราะครอบครัวเราก็ยังมองว่าเนื้อจากพืชเหล่านี้ยังเป็น Processed Food ยกเว้นวันไหนอยากกินจังก์ฟู้ดก็จะหยิบมาปรุงอาหารบ้าง เพราะเมื่อเทียบกันแล้วเนื้อจากพืชก็ยังดีกว่าเนื้อสัตว์ เพราะไม่มีไขมันอิ่มตัว”
ความเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้จากตัวเอง
“ปูเป้มีปัญหาท้องอืดตั้งแต่เด็กๆ เรอตลอดเวลา แต่หลังจากที่หันมากินอาหารจากพืชอย่างเต็มรูปแบบ อาการที่เคยเป็นก็ค่อยๆ หายไป ช่วยให้เราขับถ่ายได้สม่ำเสมอขึ้น อาการปวดประจำเดือนน้อยลง มีแรงออกกำลังกาย นอนหลับได้ดีขึ้น”
จะเริ่มต้นกินพืช ไม่ยาก ทุกอย่างอยู่ที่ใจ
“ตอบคำถามของตัวเองให้ได้ว่า ‘ทำไม’ ถึงอยากเลิกกินเนื้อสัตว์ หาเหตุผลให้เจอ อยู่ที่เราว่าจะใจแข็งพอไหมหากจะเริ่มต้นกินอาหารจากพืช ครอบครัวของปูเป้เริ่มต้นกินอาหารจากพืชด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพจึงทำให้เราเดินออกมาได้ง่ายมาก
“จริงๆ แล้วคำว่า Plant-Based นั้นไม่ใช่การกินพืช 100% แต่มันคือการกินเนื้อสัตว์เพียง 5% จากอาหารแต่ละมื้อ เพิ่มพืช ผัก ธัญญาหาร ผลไม้ และตัดอาหารพวกนม เนย ชีสออกไป การเริ่มต้นปรับตัวด้วยการเลือกกินร้านอาหารทั่วไปก็ทำได้ แค่สั่งเมนูที่มีผักเยอะที่สุด มีเนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุด ค่อยๆ ปรับตัว หรือถ้าทำอาหารกินเอง เนื้อสัตว์จำแลงก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะให้รสชาติที่ใกล้เคียงเนื้อสัตว์ ทำให้หายคิดถึงได้”
Kina Kind Cuisine ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต จะเป็นร้านอาหาร Plant-Based ซึ่งเกิดจากน้ำพักน้ำแรงของครอบครัวเพื่อให้ได้อาหารที่ดีต่อสุขภาพ เน้นใช้วัตถุดิบจากพืชเป็นหลัก มาพร้อมกับบาร์จินโทนิกให้เอนจอยไปกับมื้ออาหารจากพืช ที่จะเปลี่ยนภาพจำแห่งความจืดชืดให้กลายเป็นอาหารที่มีรสชาติและน่าตื่นเต้นแม้จะไร้เนื้อสัตว์
Tag:
Interview
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
hunain I got too much interesting stuff on your blog. I guess I am not the only one having all the enjoyment here! Keep up the good work. situs judi
5 วันก่อน