'ไอศกรีม' ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจจนกลายเป็นของหวานที่คนทั่วโลกหลงรัก

วันที่ 27 เมษายน 2565  2,162 Views
นิตยสาร Gourmet & Cuisine ฉบับที่ 261 เดือนเมษายน 2565

แน่นอนว่าชนชาติอเมริกันไม่ใช่ผู้คิดค้นไอศกรีมเป็นรายแรกของโลก ด้วยอิทธิพลจากการย้ายถิ่นฐานของชาวยุโรปมาสู่ทวีปใหม่ พวกเขาได้นำวัฒนธรรมการกินเจลาโต รวมถึงไอศกรีมทั้งจากฝรั่งเศสและอังกฤษเข้ามาด้วย และไอศกรีมสไตล์อเมริกันก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามไม่แพ้ไอศกรีมสัญชาติอื่น

อกูตัก อะลาสกา

มีการค้นพบหลักฐานว่าร้านไอศกรีมแห่งแรกในอเมริกาเปิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1776 ในนิวยอร์กซิตี้ แต่กว่าไอศกรีมจะเป็นของหวานสำหรับคนทุกคนแทนที่จะเป็นของหรูหราสำหรับคนรวยก็ย่างเข้าสู่ช่วงกลางของศตวรรษที่ 19 เข้าไปแล้ว และในภายหลังไอศกรีมกลายเป็นสัญลักษณ์ขวัญกำลังใจในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ของหวานชนิดนี้เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น และผู้ผลิตไอศกรีมรายใหญ่ที่สุดในอเมริกาในปี ค.ศ. 1943 ก็คือกองทัพสหรัฐฯ นั่นเอง แม้หลังจากผ่านพ้นยุคสงครามไปแล้วไอศกรีมก็ยังเป็นส่วนสำคัญในชีวิต

ไอศกรีมสไตล์อเมริกันนั้นใช้กรรมวิธีการทำแบบฟิลาเดลเฟีย อิงจากชื่อเมืองที่อุดมไปด้วยนมคุณภาพดี ส่วนผสมพื้นฐานจึงมักจะเป็นครีม นม น้ำตาล วัตถุดิบเพิ่มรสชาติ และบางครั้งอาจเพิ่มไข่แดงเข้าไปด้วย จุดเด่นของไอศกรีมอเมริกันคือไม่ต้องใช้เวลานานและไม่ซับซ้อนเท่าการทำเจลาโต แต่ก็ทำให้เนื้อสัมผัสของไอศกรีมไม่เนียน ไม่เหนียว และไม่ประณีตเท่าเจลาโตด้วยเช่นกัน

ไอศกรีมซันเด

เมื่อพูดถึงเมนูไอศกรีมอเมริกันที่โด่งดังที่สุดก็คงต้องยกให้กับ “ไอศกรีมซันเด” ไอศกรีมหลายๆ ลูกเสิร์ฟในถ้วยทรงสูง ราดด้วยน้ำเชื่อมรสต่างๆ และมีเชอร์รีออนท็อป ที่มากไปกว่านั้นยังมาพร้อมกับทฤษฎีที่มาอันหลากหลาย โดยเมืองอีทากา (Ithaca) ในนิวยอร์กเป็นแห่งแรกที่พบหลักฐานการโฆษณาขายไอศกรีมซันเดใน Ithaca Daily Journal ฉบับวันที่ 5 ตุลาคม 1892 ภายหลังมีนักประวัติศาสตร์อธิบายเรื่องราวไอศกรีมซันเดไว้ว่าในบ่ายวันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 1892 สาธุคุณจากโบสถ์ Unitarian Church เดินทางไปยังร้านดรักสโตร์ชื่อว่า Platt & Colt ของ Chester Platt แต่แทนที่เขาจะเสิร์ฟวานิลลาธรรมดา Platt เพิ่มสีสันด้วยน้ำเชื่อมเชอร์รีและเชอร์รีเชื่อมจนกลายเป็นเมนู Cherry Sunday ในเวลาต่อมา

'ไอศกรีม' ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจจนกลายเป็นของหวานที่คนทั่วโลกหลงรัก

ในขณะที่อีกทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่าไอศกรีมซันเดเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในตัวเมืองทูริเวอร์ส (Two Rivers) แห่งรัฐวิสคอนซิน ณ ร้านน้ำพุโซดา (Soda Fountain) ของ Ed Berners ในปี ค.ศ. 1881 เมื่อลูกค้าของ Berners ได้สั่งเมนูไอศกรีมราดด้วยน้ำเชื่อมช็อกโกแลต หลังจากนั้นเมนูดังกล่าวได้ขึ้นมาอยู่บนเมนูสำหรับวันอาทิตย์

ในเมืองเอแวนสตัน (Evanston) รัฐอิลลินอยส์ ก็มีเรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับไอศกรีมซันเดเช่นกัน เมืองเคร่งศาสนาแห่งนี้ได้ออกกฎหมายห้ามขายโซดาในวันอาทิตย์ ร้านน้ำพุโซดาชื่อว่า Garwoods' Drugstore จึงเริ่มขายไอศกรีมโซดาแบบไม่มีโซดาในวันอาทิตย์ เหลือเพียงไอศกรีมและน้ำเชื่อม อย่างไรก็ตามพวกเขายอมรับว่าไม่ใช่ผู้คิดค้นไอศกรีมที่ใส่เชอร์รีเชื่อม แต่ชื่อ “ซันเด” นั้นมาจากพวกเขาอย่างแน่นอน

อกูตัก อะลาสกา

ไอศกรีมจากทั่วโลก
แม้ว่าแบรนด์ไอศกรีมสัญชาติอเมริกันโด่งดัง มีร้านค้าและสาขากระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก ในหลายๆ ประเทศก็มีวัฒนธรรมการกินไอศกรีม การสร้างสรรค์และพัฒนาเมนูไอศกรีมที่โดดเด่นไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน

โมจิไอศกรีม ญี่ปุ่น
โมจิหรือเค้กข้าวตำเป็นขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมและเป็นขนมมงคลในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่ ได้เดินทางมาสู่ยุคของขนมฟิวชัน หนึ่งในนั้นคือการจับคู่กับไอศกรีมเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1980 ในลักษณะของไอศกรีมห่อด้วยแป้งโมจิบางๆ มีทั้งรสชาติแบบดั้งเดิม ได้แก่ ถั่วแดงและชาเขียว รวมถึงรสชาติสมัยใหม่ เช่น ช็อกโกแลต สตรอว์เบอร์รี คุกกี้แอนด์ครีม วานิลลา และรสมินต์

'ไอศกรีม' ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจจนกลายเป็นของหวานที่คนทั่วโลกหลงรัก

ดอนดูร์มา ตุรกี
ไอศกรีมตุรกีมีไฮไลต์ที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะลีลาการขาย ด้วยเนื้อไอศกรีมที่เหนียวจนเกือบเหมือนทอฟฟี่ สามารถยืด ดึง ทำรูปทรงอย่างไรก็ได้ เพราะทำด้วยแป้งซาเลป (Salep) ที่ได้จากหัวกล้วยไม้เฉพาะถิ่นและยางไม้แมสติก (Mastic) ซึ่งสามารถพบได้ในหมากฝรั่ง ดอนดูร์มามีให้เลือกหลากหลายรสชาติ แต่รสชาติที่ได้รับความนิยมสูงคือ พิสตาชิโอและโกโก้

กุลฟี่ อินเดีย
กุลฟี่เป็นของหวานแช่แข็งที่มีต้นกำเนิดมาจากอินเดียตอนเหนือ ทุกวันนี้เป็นที่นิยมในอินเดีย เมียนมาร์ ปากีสถาน บังคลาเทศ รวมถึงตะวันออกกลาง รสชาตินั้นมีความเข้มข้นของครีมจนคล้ายกับคัสตาร์ดแช่แข็งในอเมริกาเหนือ กุลฟี่แบบดั้งเดิมมีส่วนผสมของนม กระวาน พิสตาชิโอ และน้ำผึ้ง มักเสิร์ฟแบบแท่ง ปัจจุบันนี้มีการปรับสูตรไปบ้างโดยการใช้เฮฟวีครีมหรือนมข้นหวาน เกล็ดขนมปังหรือแป้งที่ทำจากน้ำและแป้งข้าวโพดเพื่อประหยัดเวลา

อกูตัก อะลาสกา

ไอศกรีมสปาเกตตี เยอรมนี
Spaghettieis เป็นอีกรูปแบบของไอศกรีมซันเดที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับเมนูสปาเกตตีซอสมะเขือเทศ โดยการนำไอศกรีมวานิลลาใส่เครื่องทำเส้นพาสตาให้เนื้อไอศกรีมมีรูปร่างเป็นเส้น แล้วราดด้วยซอสสตรอว์เบอร์รี โรยหน้าด้วยไวต์ช็อกโกแลตที่ดูเหมือนกับการโรยชีสพาร์เมซาน

ปาเลตาส เม็กซิโก
อาจจะมีหน้าตาเหมือนไอศกรีมทั่วๆ ไป แต่ของหวานนี้มีกุญแจสำคัญอยู่ที่ความเรียบง่าย ผสมผลไม้ธรรมชาติหรือไม่ก็เป็นครีมรสชาติต่างๆ สิ่งที่โดดเด่นคือรสผลไม้ที่ผสมเนื้อผลไม้สดเข้าไปเยอะมากจนสามารถรับรู้ได้ในทุกๆ คำที่กัด เช่น สตรอว์เบอร์รี มะม่วง สับปะรด มะนาว หรือจะเป็นรสชาติครีม เช่น ช็อกโกแลตและพิสตาชิโอ ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน

อกูตัก อะลาสกา

อกูตัก อะลาสกา
แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บตลอดปี แต่ชนพื้นเมืองอะลาสกาก็ยังมีไอศกรีมกินเหมือนกัน ตามตำรับดั้งเดิมนั้นทำจากไขมันสัตว์อย่างกวางคาริบู กวางมูส หรือไขวอลรัส หรือน้ำมันแมวน้ำ ไปจนถึงไขมันจากปลา นำมาผสมผสานกับเบอร์รีหลากหลายชนิด


Tag: Cover story, ไอศกรีม

เรื่องโดย

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed