ด้วยราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นไม่เว้นในแต่ละวันประกอบกับการที่รัฐบาลของหลายประเทศทั่วโลกเริ่มหันมาใช้นโยบายสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกแทนการใช้รถยนต์ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงเพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจอะไรที่เราจะเห็นใครหลายคนรอบตัวเริ่มหันมาสนใจทางเลือกใหม่อย่าง E-mobility solution หรือระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีให้หลัง
ถึงแม้ชื่อของนวัตกรรมดังกล่าวจะเป็นที่คุ้นหูของใครหลายคน แต่เราเชื่อว่าในปัจจุบันยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่อาจจะสงสัยว่า E-mobility solution คืออะไร? และจุดเด่นของการใช้เคลื่อนยนต์พลังงานไฟฟ้าแทนการใช้เครื่องยนต์สันดาปมีอะไรบ้าง? โดยในวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับนวัตกรรมดังกล่าวตามกันแบบเจาะลึกรายละเอียดด้านล่าง ดังนี้
จริงๆ แล้ว E-mobility solution คืออะไรกันแน่?
ก่อนที่จะพาทุกคนไปหาคำตอบว่าอะไรคือจุดเด่นของนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เราอยากจะขอพูดถึงความหมายของ E-mobility กันก่อนเป็นอันดับแรก โดย E-mobility มีความหมายเท่ากับ “การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า” ในภาษาไทย ในขณะที่ Solution หมายถึงทางออก ซึ่งพอเอาทั้งสองคำนี้มารวมกัน เราจึงสามารถกล่าวได้ว่าจริงๆ แล้ว E-Mobility solution ก็คือการนำระบบพลังงานไฟฟ้ามาใช้เป็นทางออกในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์แทนการใช้พลังงานเชื้อเพลิงที่มีราคาสูง และไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยตัวอย่างของสินค้าที่มีการนำระบบดังกล่าวมาปรับใช้ไม่ได้มีแค่สินค้าในกลุ่มยานพาหนะเพียงอย่างที่เราเข้าใจเท่านั้น เพราะในปัจจุบันหลายอุตสาหกรรมก็ได้เริ่มนำระบบพลังงานไฟฟ้ามาปรับใช้กับเครื่องจักรและระบบพื้นฐานอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
จุดเด่นของนวัตกรรมดังกล่าวมีอะไรบ้าง?
ราคาถูกกว่าน้ำมัน
เนื่องจากระบบ E-mobility solution ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ดังนั้นจึงช่วยให้คุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของการเดินทางได้ดีกว่าการเลือกใช้รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงแบบเดิมที่ราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นสูงขึ้นในอนาคต
เข้าถึงง่ายกว่า
นอกจากจะมีราคาสูงแล้ว ผู้ขับขี่รถยนต์ยังจะต้องใช้เวลาไปเติมน้ำมันเป็นประจำอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่หากใครก็ตามที่เลือกใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ต้องบอกเลยว่าปัญหาดังกล่าวจะหมดไป เพราะเราสามารถชาร์จรถยนต์ได้ง่ายๆ ที่บ้าน และพร้อมขับรถคู่ใจออกไปข้างนอกได้ทันทีหลังจากชาร์จเสร็จ
ประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษารถยนต์
สำหรับใครที่ใช้รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง แน่นอนว่าการดูแลรักษาเครื่องยนต์ภายในด้วยการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องหรือการตรวจเช็กชิ้นส่วนที่สึกหรอนั้นเป็นเรื่องที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต่างกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ E-mobility solution ที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาน้อยกว่า เพราะไม่มีเครื่องยนต์ภายใน อีกทั้งยังไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเป็นประจำ
ประสิทธิภาพจัดเต็ม
ถึงแม้จะนำระบบไฟฟ้ามาปรับใช้กับรถยนต์ แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าประสิทธิภาพรวมไปถึงสมรรถนะในการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้านั้นไม่ได้เป็นรองรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงเลย และที่เด็ดไปกว่านั้นก็คือตัวรถยนต์ไฟฟ้าเองยังไม่ส่งเสียงรบกวนในขณะขับขี่ แถมการเร่งก็ยังสามารถทำได้ดั่งใจโดยไม่จำเป็นต้องทดเกียร์ก่อนเหมือนกับการขับรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงอีกด้วย
Tag:
น้ำมัน, รถยนต์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น