หากพูดถึงเนื้อวัวที่มีชื่อเสียงอย่างมาก และได้รับความนิยมไม่น้อยเลยหลายๆ คนก็จะต้องนึกถึงเนื้อวากิวอย่างแน่นอน เพราะถึงแม้ว่าจะมีราคาสูง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องความหอม อร่อย และรสอูมามินั้นเกินที่ใครจะต้านทานไหวจริงๆ แต่หลายๆ คนก็อาจจะสงสัยว่าแล้วเนื้อวากิวแต่ละระดับนั้นแตกต่างกันยังไง เพราะมีทั้ง A1 A2 A3 ฯลฯ เยอะแยะไปหมด หรือจะมีวิธีการเลือกเนื้อวากิวสันนอกอย่างไรบ้าง ในบทความนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้ทุกคนกัน
เนื้อวากิวสันนอกแต่ละระดับแตกต่างกันยังไง?
หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินว่าร้านนู้นร้านนี้มีเนื้อระดับ A3 A4 A5 ฯลฯ ขาย แต่สำหรับใครที่อาจจะไม่ได้คลุกคลีอยู่ในวงการเนื้อวากิว แค่เป็นผู้บริโภคที่ชอบทานของอร่อยเฉยๆ ก็อาจจะมีคำถามในหัวว่าแล้วเนื้อวากิวสันนอกแต่ละระดับเนี่ยแตกต่างกันยังไง อธิบายง่ายๆ ว่าเนื้อวากิวนั้นจะมีระดับ A, B, C ซึ่งหมายถึง A จะมีเกรดปริมาณสูงสุด และ C จะมีเกรดปริมาณต่ำสุด ในขณะที่ตัวเลข 1-5 จะแสดงถึงเกรดคุณภาพของเนื้อ ซึ่งเลข 5 จะมีคุณภาพสูงสุด และเลข 1 จะมีคุณภาพต่ำสุด ซึ่งหมายความว่าใครอยากได้เนื้อเทพๆ ก็ต้องเป็นเนื้อ A5 นั่นเอง
เลือกเนื้อวากิวสันนอกยังไงให้ได้เนื้อคุณภาพ?
นอกจากจะเลือกจากระดับแล้ว ก็ยังมีเทคนนิคเล็กๆ น้อยๆ อีกเช่นกันที่จะทำให้คุณได้เนื้อคุณภาพกลับไปทาน โดยวิธีสังเกตสามารถทได้ดังต่อไปนี้
- เนื้อวัวควรมีสีแดงสด
โดยเนื้อวากิวสันนอกที่ดีนั้นก็ควรจะมีสีแดงสด และมีเนื้อแน่น นอกจากนี้ก็ควรจะมีลายเส้นที่ไม่หยาบจนเกินไป
- กดแล้วไม่มีรอบบุ๋ม
เช่นเดียวกับการเลือกเนื้อประเภทอื่นๆ เนื้อวากิวสันนอกนั้นเมื่อกดแล้วควรจะยืดหยุ่น หรือกดแล้วไม่บุ๋มลงไปนั่นเอง เพราะนั่นอาจหมายความว่าเนื้อนั้นๆ ไม่มีคุณภาพ หรือเก็บมานานแล้ว
- ไม่มีเม็ดสีขาวใสคล้ายเม็ดสาคู
เนื้อวากิวนั้นขึ้นชื่อเรื่องของคุณภาพอยู่แล้ว แต่ก็อาจจะมีบางเจ้าที่นำเนื้อประเภทอื่นๆ มาหลอกขาย ซึ่งคุณควรดูด้วยว่าเนื้อนั้นๆ มีเม็ดสีขาวใสคล้ายเม็ดสาคูหรือไม่ เพราะหากมีอยู่ก็อาจเป็นไปได้ว่าเป็นตัวอ่อนของพยาธิ
รู้แบบนี้แล้วซื้อเนื้อวากิวสันนอกครั้งหน้าก็จะได้เลือกเนื้อที่มีคุณภาพกันได้อย่างถูกต้อง เพราะไม่ใช่ว่าเนื้อวากิวจากทุกร้านนั้นจะมีคุณภาพดีเสมอไป เพราะหากเก็บรักษาไม่ดี ก็อาจทำให้คุณภาพลดลงได้ ดังนั้นการคำนึงถึงวิธีการเลือกที่เราได้แนะนำไป ก็จะช่วยให้คุณเลือกเนื้อที่มีคุณภาพได้อย่างแน่นอน
Tag:
เนื้อวากิว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น