หลังจากที่โควิด-19 ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนไปเป็นเวลากว่า 2 ปีเต็ม ทำให้กิจวัตรประจำวันและไลฟ์สไตล์ของผู้คนเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย สิ่งที่เห็นได้ชัดคือเราออกจากบ้านน้อยลงกว่าเดิม บ้านในยุคนี้จึงเป็นมากกว่าบ้านที่กลับมาล้มตัวนอนหลังเลิกงานหรือพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่กลายเป็นที่อยู่อาศัย 24 ชั่วโมง 7 วัน ไม่แปลกเลยที่เทรนด์ยุคใหม่จะเริ่มเห็นคนหันมาทำอาหารกินที่บ้านมากขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงการยกเครื่องแปลงโฉมบ้านตัวเองเสียใหม่ให้มีสีสันและมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม
How it goes
ต้องยอมรับว่าอีคอมเมิร์ซนั้นเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา จนการซื้อของออนไลน์นั้นแทบจะเป็นเรื่องปกติพอๆ กับการซื้อของหน้าร้าน ตามซูเปอร์มาร์เก็ต หรือแม้แต่ในตลาดนัด จากผลการสำรวจหัวข้อ Global Digital Stat 2021 ของ We Are Social ได้รายงานไว้ว่าคนไทยมีอัตราการซื้อของออนไลน์เป็นอันดับต้นๆ ของโลกในช่วงปี ค.ศ. 2021 ที่ผ่านมา โดยจัดอยู่ในอันดับที่ 3 ของประเทศที่มีการซื้อของออนไลน์มากที่สุดในโลก เป็นรองเพียงอินโดนีเซียและสหราชอาณาจักร และอยู่ในอันดับที่ 2 ของประเทศที่มีการซื้อของออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือมากที่สุด โดยมีอินโดนีเซียครองอันดับ 1
คนทั่วโลกซื้อของประเภทไหนมากที่สุด? ที่มาเป็นอันดับ 1 คืออาหารและของใช้ส่วนตัว รองลงมาคือเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านก็เป็นหนึ่งสินค้าที่มียอดขายเติบโตขึ้นด้วยในปีนี้ ซึ่งแทบไม่มีข้อแตกต่างอะไรกับเทรนด์ในไทยเลยแม้แต่น้อย จากรายงานของ My Cloud Fulfillment หนึ่งในผู้บริการคลังสินค้าออนไลน์ระบุว่า นอกจากสินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันโควิด-19 แล้ว ของกินและเครื่องครัวก็เป็นสินค้าที่มาแรงที่สุดในยุคนี้ ส่วนเว็บไซต์ขายเฟอร์นิเจอร์ออนไลน์อย่าง nocnoc.com ก็มียอดขายพุ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2563 รวมถึงแบรนด์ดังอย่าง IKEA ก็เปิดเผยว่ามียอดขายเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในช่วงที่มีมาตรการควบคุมโรคระบาดอย่างเข้มงวดสูงสุด
จากเทรนด์การซื้อของออนไลน์ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา จึงพอจะเห็นไลฟ์สไตล์คร่าวๆ ของคนไทยได้ว่าคนส่วนใหญ่รับประทานอาหารที่บ้านมากขึ้น ทำอาหารกินเองมากขึ้น และเริ่มหันมาตกแต่งที่อยู่อาศัยของตัวเองมากขึ้น
Make it happen
ในเมื่ออุปกรณ์ทำอาหารรวมถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านต่างหาซื้อได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะหันมาแปลงโฉมบ้านของตัวเองให้มีสักหนึ่งมุมเอาไว้พักผ่อนหย่อนใจราวกับนั่งอยู่ในคาเฟ่ เราขอลิสต์ที่จัดว่า “ไม่มีไม่ได้แล้ว” มารวมกันตรงนี้เลย
1. เครื่องชงกาแฟ
เครื่องชงกาแฟที่แตกต่างกันส่งผลให้รสชาติของกาแฟนั้นแตกต่างกันไปด้วย เดี๋ยวนี้เครื่องทำกาแฟมีให้เลือกทั้งเครื่องทำเอสเปรสโซแบบอัตโนมัติ และเครื่องทำกาแฟแบบทำมือหรือที่ร้านกาแฟแนวนี้มักจะเรียกกันว่าสโลว์บาร์ (เพราะกินเวลาใช่เรื่อง) เช่น เฟรนช์เพรส ดริป กาแฟเวียดนาม โมก้าพอต แอโร่เพรส และไซฟอน เป็นต้น
2. เมล็ดกาแฟ
มีเครื่องชงกาแฟแล้ว ไอเทมต่อมาคือเมล็ดกาแฟที่ทุกวันนี้มีให้เลือกหลายแบบหลากรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดที่ปลูกในไทยหรือนำเข้าจากต่างประเทศก็มีคุณภาพดีไม่ต่างกัน ในเมื่อคิดจะเริ่มสร้างบรรยากาศของบ้านเป็นคาเฟ่ ก็ลองเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยเมนูกาแฟหลายๆ แบบ เช่น ผสมกับน้ำผลไม้ ไซรัป โทนิก หรือนมทางเลือกใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนเดิม
3. แก้วน้ำ จาน ชาม
อีกหนึ่งวิธีแสนง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสการรับประทานอาหารในมุมคาเฟ่เล็กๆ ในบ้านของเราให้เหมือนกับคาเฟ่นั้นก็คือ แก้วน้ำ จาน ชาม ที่มาพร้อมสีสันและดีไซน์น่ารักสวยงาม ลองไปมองหาตามร้านค้าในอินสตาแกรมหรือตามร้านขายสินค้ามือสองก็จะได้ข้าวของที่ดูแปลกหูแปลกตา ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับมื้ออาหารได้อย่างแน่นอน
4. ไข่ ไข่ และไข่
ขอยกให้ไข่เป็นเมนูครอบจักรวาลที่นำมาทำอาหารได้สารพัดรูปแบบ นอกจากจะเอาไปต้ม ตุ๋น หรือทอด ก็ยังมีเมนูอีกมากมายที่สร้างสรรค์ได้ไม่รู้เบื่อ เช่น ไข่เบเนดิกต์หรือไข่ดาวน้ำ กินคู่กับอิงลิชมัฟฟิน หรือจะเป็นเมนูสไตล์เอเชียอย่างออมไรซ์ หรือข้าวห่อไข่สไตล์ญี่ปุ่นก็ให้บรรยากาศแบบคาเฟ่ได้เช่นกัน
5. บรรยากาศ
หามุมสักมุมของบ้านหรือในห้องที่แสงแดดส่องถึง มองหาโต๊ะเรียบง่ายกับเก้าอี้มาตั้งไว้ พร้อมกระถางต้นไม้ขนาดกะทัดรัดสักหนึ่งต้น แขวนภาพโปรดบนฝาผนัง แค่นี้ก็จะได้บรรยากาศที่อบอุ่นราวกับอยู่ในคาเฟ่ เป็นมุมเล็กๆ ที่เอาไว้นั่งเล่นก็ได้ ถ่ายรูปก็ดี ยิ่งมีลำโพงเล็กๆ สักตัวมาเปิดเพลงแนวบอสซาโนวาก็จะยิ่งได้บรรยากาศที่เหมือนกับอยู่คาเฟ่จริงๆ เลยล่ะ
Tag:
Cover story
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น