บทความและภาพประกอบโดย : กวี จงกิจถาวร
พูดถึงเกาะโอกินาวา คนส่วนใหญ่มักคิดถึงฐานทัพของสหรัฐอเมริกา หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาได้ครอบครองเกาะแห่งนี้เพื่อใช้เป็นฐานที่มั่นทางด้านยุทธศาสตร์ความมั่นคงในภูมิภาคนี้...คงไม่มีเรื่องอาหารในใจ
เมื่อเร็วๆ นี้ผู้เขียนได้รับมอบหมายให้เขียนถึงอนาคตฐานทัพของสหรัฐอเมริกาที่นี่ เนื่องจากมีข่าวพาดหัวอยู่เสมอว่าคนท้องถิ่นยังมีความรู้สึกเป็นอคติต่อทหารสหรัฐอเมริกาและฐานทัพทั่วเกาะอย่างมาก แต่พอมาถึงเกาะแห่งนี้กลับมาติดใจกับอาหารพื้นเมืองที่ชาวโอกินาวาชอบกิน ถือว่าเป็นอาหารพิเศษ นั่นคือ "ขาหมู" ซึ่งคนที่นี่เหมือนคนไทยตรงที่กินทุกๆ ส่วนของหมูครับ โดยเฉพาะกระเพาะหมู
ไกด์คนพื้นเมืองถามว่าจะกินอาหารอร่อยของคนที่นี่ไหม? ตอนแรกก็คิดว่าน่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่นประเภทปลาดิบ ซูชิแบบเดิมๆ อะไรทำนองนั้น แต่ปรากฎว่าผิดคาด เพราะร้านอาหารที่ไกด์พาไปมีเมนูขาหมูรวมอยู่ด้วย ก่อนมาเกาะโอกินาวาไม่เคยคิดมาก่อนว่าอาหารญี่ปุ่นจะมีประเภทขาหมูรวมอยู่ด้วย แถมเป็นอาหารพื้นบ้านดังที่ทุกคนต้องลอง
ตามสถานที่ท่องเที่ยว รวมทั้งตลาดสดและซูเปอร์มาร์เก็ตจะพบขาหมูสำเร็จรูปหลายชนิดวางให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ ที่น่าสนใจที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวจากอาเซียนคือหัวหมูพะโล้สำเร็จรูป (ดูจากรูปภาพ) ห่อพลาสติกอย่างดีสำหรับพกพากลับบ้าน ในตลาดบ้านเราคงจะไม่เห็นหัวหมูพร้อมกินแบบนี้วางขายในลักษณะนี้เด็ดขาด โดยเฉพาะในซูเปอร์มาร์เก็ต แต่อาจจะมีบ้างตามตลาดสดในเยาวราช หรือตลาดต่างจังหวัด หรือในบริเวณที่มีภัตตาคารเสิร์ฟอาหารกับแกล้ม
ในตลาดสดมีกระเพาะหมูที่ต้มสุกหั่นเป็นชิ้นๆ แช่น้ำแข็งวางขาย กิโลกรัมละประมาณ 400 บาท เดินทั่วตลาดสดเพื่อสำรวจดูว่านอกจากกระเพาะหมูแล้วยังมีประเภทสมองหมู เลือดหมู เซ่งจี๊ หัวใจ ไส้ใหญ่ ขายหรือเปล่า ปรากฎว่าไม่เจอ แต่ในซูเปอร์มาร์เก็ตมีขาหมูดิบขายเป็นท่อนๆ
นึกคิดในใจว่าคนที่นี่ต้องเชิญมาเมืองไทย ลองมาแวะตลาดบางรักหน่อยแล้วจะติดใจสั่งขาหมูมากิน “เอาขาหมู 1 จาน หนังเพิ่ม เนื้อน้อย ไม่ราดน้ำเยอะ ขอกระเทียมสดด้วย”
การท่องเที่ยวไทยน่าจะทำโปรโมชันชวนคนโอกินาวามากินขาหมูและเที่ยวเมืองไทยไปด้วยจะได้ลืมเรื่องฐานทัพ ดีกว่าทัวร์ศูนย์เหรียญแน่นอน สตาร์ทอัพไทยทั้งหลายก็น่าจะลองทำหัวหมูพะโล้สำเร็จรูปออกมาขายบ้าง แต่ต้องเอาหน้าหมูหล่อๆ หน้าตาดีๆ นะ อย่าเอาหน้าคล้ายกับนักการเมือง เดี๋ยวจะไม่มีคนซื้อ
ผู้เขียนได้ลองกิน Tonsoku Ramen หรือบะหมี่ขาหมู น่าแปลกใจ รสชาติเหมือนกับราเมงทั่วไปที่ขายกันในบ้านเรา เพียงแต่ว่ามีคากิมาแทนหมูสามชั้นพะโล้ชิ้นบางๆ ขาหมูนิ่มพอดีกินแต่ไม่มีรสชาติ ไม่เป็นสีน้ำตาลหรือสีพะโล้แบบที่ตั้งใจวาดภาพไว้ก่อนมากิน คือขาหมูต้องมีสีน้ำตาลหน่อยๆ มีรสหวานแบบซีอิ๊วญี่ปุ่นนิดๆ ถามคนเสิร์ฟว่าทำไมมีรสชาติแบบนี้ ได้คำตอบว่าคนที่นี่กินกันแบบรสชาติธรรมชาติ
เมนูประเภทหมูๆ ที่คนที่นี่และนักท่องเที่ยวชอบสั่งมากินคือ Rafute หรือหมูสามชั้นอบกับซีอิ๊วญี่ปุ่น รสชาติจืดเช่นกัน ซึ่งไม่เข้มข้นเหมือนหมูสามชั้นพะโล้ที่คนไทยชอบกินกันอย่างแค่วหยุ่ง (Kiew-Youk ภาษาฮากกา) ที่นี่เขาสั่งกินกับราเมงหรือราดกับข้าว
อาหารพิเศษอีกชนิดที่นิยมคือมะระผัดไข่แบบบ้านเรา เรียกว่า Goya Champuru ชาวบ้านเกาะโอกินาวาถือว่ามะระเป็นผักที่มีคุณค่า ทำให้อายุยืนยาว ว่ากันว่าคนชราในเกาะนี้มีเป็นจำนวนมาก เพราะอายุยืนจากการกินมะระนี่เอง นอกจากจะเป็นอาหารจานเก่งแล้วยังมีสลัดมะระให้ลอง เราลองกินดูแล้วไม่อร่อยเลย ขมมากๆ ขนาดบีบมะนาว 1 ลูกใส่ลงไปเพื่อตัดรสขมก็ยังไม่สำเร็จ เชฟญี่ปุ่นอธิบายว่าคนญี่ปุ่นไม่นิยมนำมะระมาแช่ล้างกับเกลือก่อนเพื่อลดความขม กลับบอกว่ายิ่งขมยิ่งมีประโยชน์ นอกจากนี้ยังมีมะระอบแห้งทำเป็นชิปให้นักท่องเที่ยวได้ชิมอีก ชิปมะระอร่อยดีเพราะมีรสเค็มๆ มันๆ
ใครมีโอกาสมาเที่ยวโอกินาวาก็มาลองกินอาหารจานเด็ดที่นี่ และควรพกพริกน้ำส้มมาด้วย เพราะญี่ปุ่นมีแต่พริกที่เรียกว่า Rayu หรือน้ำมันพริกนั่นเอง
Tag:
, World Food, ขาหมู, โอกินาวา,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น