หลังจากเราได้เห็นการกลับมาได้รับความนิยมของอาหารไทยหลากหลายสไตล์ ทั้งอาหารไทยดั้งเดิม ขนมไทยที่หากินยาก ไปจนถึงอาหารไทยพื้นถิ่นที่หลายคนคุ้นเคยกันมากขึ้นในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ “อาหารว่างไทย” คือเมนูสุดเก๋น่ากินที่คนเริ่มพูดถึงและถูกหยิบยกมานำเสนอในร้านอาหารและคาเฟ่ต่างๆ นอกจากจะสวยงามน่าถ่ายรูปอวดในโลกโซเชียลแล้ว เราอยากให้เหล่านัก (ชอบ) กินได้ทำความรู้จักและสัมผัสความอร่อยแสนน่ากินนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นไปด้วยกัน
Story of Thai Light Meal : มื้อเบาๆ ของคนไทยในวันวาน
เหล่านักชิมในยุคนี้อาจคุ้นเคยกับ “Afternoon Tea” หรือ “การจิบน้ำชายามบ่าย” ซึ่งเป็นรูปแบบของมื้ออาหารที่เน้นดื่มชาและกินของว่างเบาๆ อาทิ สคอน คุกกี้ หรือแซนด์วิชชิ้นเล็กๆ ในช่วงเวลาประมาณ 16.00-18.00 น. ตามวัฒนธรรมของชาวอังกฤษ แต่หากย้อนกลับไปในสมัยอยุธยาตอนปลายจนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น (หรือปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17) เราก็ค้นพบว่าคนไทยมีการกินมื้ออาหารเบาๆ คั่นระหว่างมื้อกลางวันและมื้อเย็นแล้วเช่นกัน
อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ นักโบราณคดีผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์และผ้าไทย ล่าให้เราฟังว่า ในสมัยนั้นคนไทยตื่นแต่เช้ามืดเพื่อออกไปทำงานในไร่นา และกินข้าวมื้อเย็นค่อนข้างหัววัน เพราะยังไม่มีไฟฟ้าใช้เหมือนทุกวันนี้ สำหรับพระมหากษัตริย์และเจ้านายในวังมีหลักฐานบันทึกถึงมื้อพระกระยาหารว่างยามดึกของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ซึ่งมีการจัดสำรับถวายในยามที่ทรงงานดึก หลังจากเสวยพระกระยาหารเย็นที่ปรุงถวายโดยสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี สมเด็จพระอัครมเหสี ในเวลาประมาณ 16.00 น. นอกจากนี้ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานในพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร (เจ้าฟ้ากุ้ง) ในสมัยอยุธยาตอนปลาย ยังกล่าวถึงอาหารที่จัดไว้เป็นหมวดของว่างหลายเมนู อันที่จริงแล้วคนในยุคปัจจุบันหากคิดถึงของว่างก็มักคุ้นเคยกับของว่างยามบ่ายสไตล์ฝรั่ง แต่ในอดีตอาจหมายถึงของว่างยามดึกหรือ (Supper) ก็ได้
ในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อคณะราชทูตตะวันตกและพ่อค้าชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาอาศัยในเมืองไทยมากขึ้น พร้อมทั้งนำพาธรรมเนียมการกินอาหารว่างยามบ่ายมาเผยแพร่ จึงโปรดให้สร้างถนนเจริญกรุง ถนนบำรุงเมือง และถนนเฟื่องนคร ซึ่งเป็นถนนสายแรกๆ ที่สร้างตามมาตรฐานสากล เพื่อใช้สำหรับนั่งรถม้าชมวิวและเดินเล่นหลังจากกินของว่างยามบ่าย เป็นการย่อยอาหารก่อนเข้าสู่มื้อค่ำ (Dinner) ในเวลาประมาณ 19.00-20.00 น. ซึ่งนี่คือหลักฐานสำคัญที่แสดงถึงจุดเริ่มต้นของมื้ออาหารยามบ่ายในประเทศไทย
หากแต่การกินอาหารว่างยามบ่ายได้รับความนิยมเฟื่องฟูจนแพร่หลายไปทั่วนั้นเห็นได้ชัดเจนในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งเสวยพระกระยาหารเย็นค่อนข้างค่ำเป็นประจำทุกวัน จึงมีการถวายของว่างมื้อเบาๆ ในช่วงบ่าย โดยตำรากับข้าวในรัชสมัยนี้มีการผสมผสานอาหารจากหลากหลายประเทศ อาทิ พระรามลงสรง ที่ใช้ผักบุ้งจีน ตัวน้ำราดทำจากเครื่องแกงใส่กะทิ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของชาวอินโดฯ มาเลย์ และพม่า หรือของว่างอย่างโครเกตต์ (Croquette) ที่ฝรั่งมักกินเป็นอาหารเช้า อาจจะนำมาเสวยเป็นเครื่องว่างในยุคนั้น แต่มีการดัดแปลงใช้ปลาช่อนบดผสมกับมันฝรั่งต้ม บดละเอียด เติมนมและเนย ให้เหมือนมันบด (Mashed Potato) ปรุงรสด้วยเกลือพริกไทย ปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ชุบไข่และผงขนมปังป่นแล้วจึงนำไปทอด เรียกว่าเป็นของกินเล่นที่หนักขึ้นมาอีกนิด
นอกจากนี้คนไทยในยุคนั้นยังมีการจัดระเบียบของว่างว่าเมนูไหนควรกินยามบ่ายหรือยามดึก สำหรับมื้อบ่ายมักเป็นอาหารว่างที่มีรสเปรี้ยว รสจัดจ้าน เพื่อให้เกิดความอยากอาหารยิ่งขึ้น เพราะไทยเป็นเมืองร้อนที่อากาศอบอ้าวเกือบตลอดทั้งปี ส่วนมื้อดึกจะเน้นเมนูที่ย่อยง่ายและไม่มีกะทิ เพื่อไม่ให้หนักท้องก่อนเข้านอนมากเกินไป และเมื่อการกินอาหารว่างระหว่างมื้อเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูงในวัง เหล่าข้าราชบริพารจึงเริ่มทำตามและแพร่หลายสู่ประชาชนคนทั่วไปสืบต่อมา
The Local Thai Light Meal : อาหารว่างแบบไทยแท้
หากพูดถึงเมนูอาหารว่างหรืออาหารกินเล่นแบบไทยที่แท้จริง ยำ, พล่า และเมี่ยงคือเมนูเรียกน้ำย่อยแบบไทยโบราณที่มีรสเปรี้ยวรสเค็ม กินแล้วสดชื่น ช่วยเจริญอาหาร อาทิ ยำวุ้นเส้น เมี่ยงคำ เมี่ยงปลาทู เมี่ยงคะน้า ฯลฯ โดยเฉพาะเมนูเมี่ยงต่างๆ ที่มี “น้ำเมี่ยง” เป็นตัวชูรส หรือเมนูเมี่ยงลาวซึ่งเป็นเมี่ยงแห้ง กินกับข้าวตังทอดก็ช่วยให้อิ่มท้องมากขึ้น ชาวบ้านทั่วไปในสมัยก่อนจะเน้นกินเพื่อให้อิ่ม และทำอาหารประเภทสดและต้มที่ทำง่ายไม่ซับซ้อนเป็นหลัก ยำต่างๆ จึงจัดว่าเป็นเมนูของกินเล่นดั้งเดิมของคนไทยที่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
อาหารว่างไทยยอดนิยมแห่งปี 2021
ไม่เพียงแค่เมนูอาหารไทยที่มีชื่อเสียงเลื่องลือและได้รับการยอมรับไปทั่วโลก อาทิ ต้มยำกุ้ง ผัดไทย แกงมัสมั่น หรือส้มตำเท่านั้น แต่อาหารว่างแบบไทยๆ ก็ยังได้รับความนิยมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยเว็บไซต์ tasteatlas.com ได้จัดอันดับ 10 อาหารว่างไทยยอดนิยม หรือ Top 10 Most Popular Thai Appetizers แห่งปี 2021 ดังนี้
- ปลาหมึกย่าง
- กล้วยทอด
- เมี่ยงคำ
- ทอดมันกุ้ง
- ไก่ห่อใบเตย
- ยำเนื้อย่าง
- ยำกุนเชียง
- ทอดมันข้าวโพด
- ยำแหนมสด
- กระทงทอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : Delicious & Elegant Thai Appitizers เสน่ห์อาหารว่างไทย
Tag:
Cover story, อาหารว่าง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น