แม้จะผ่านวิกฤติการณ์มากมายขนาดไหน แต่เมืองหลวงแห่งอาหารการกินอย่าง “กรุงเทพมหานคร” ก็ไม่เคยหลับใหล (ได้นาน) หากยิ่งทวีความน่าสนใจและความหลากหลายดึงดูดเหล่านักชิมตลอดมา ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ สตรีทฟู้ดริมทาง ไปจนถึงร้านดังจากต่างประเทศที่ทยอยตบเท้าเข้ามาเปิดสาขาใหม่อย่างไม่หยุดหย่อน

ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือการเติบโตของย่านต่างๆ ในกรุงเทพฯ นอกจากพื้นที่ใจกลางเมืองอย่างสุขุมวิท สยาม หรือสาทรแล้วยังมี “4 ย่านนักกิน” แห่งใหม่ที่น่าจับตามองและน่าไปลิ้มลองความอร่อย เราหมายถึง 2 ย่านเก่าแก่สุดคลาสสิกอย่าง “ท่าเตียน” และ “เจริญกรุง” รวมทั้ง 2 ย่านใหม่สุดคึกคักอย่าง “นาคนิวาส” และ “ปรีดี พนมยงค์” ที่บอกได้เลยว่า “อร่อยครบจบใน 4 ย่าน” ของจริง

Old But Gold ย่านเก่าที่เรารัก
หากพูดถึงย่านการค้าเก่าแก่ในประวัติศาสตร์ของกรุงเทพมหานคร “ท่าเตียน” และ “เจริญกรุง” ในเขตพระนครคือย่านสุดคลาสสิกที่ก้าวผ่านความรุ่งเรืองในอดีตและยังคงเติบโตข้ามกาลเวลาต่อไปในฐานะแหล่งชุมชนและพื้นที่ร่วมสมัยแห่งศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งดึงดูดเหล่าหนุ่มสาวยุคใหม่ให้ก้าวเข้ามาใช้ชีวิต พัฒนาต่อยอดธุรกิจ และสร้างไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ โดยเฉพาะในแวดวงอาหารการกินที่พร้อมโอบรับความหลากหลายและการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยหยุดนิ่งของวิถีชีวิตผู้คนในเมืองหลวงแห่งนี้

ท่าเตียน ชุมชน (อร่อย) เข้มแข็ง
ย่านชุมชนเก่าแก่ที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองของผู้คนท้องถิ่น ผสมผสานกับเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของย่านการค้าสำคัญในอดีตซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านรวงต่างๆ มากมาย ที่สำคัญในวันนี้ที่เราสามารถมาเดินเล่นชิลๆ ได้ง่ายและสะดวกโดยรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสนามไชยก็ยิ่งทำให้ “ท่าเตียน” กลายเป็นชุมชนเข้มแข็งที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยสำหรับนักกินทุกเพศทุกวัย

สำหรับคนที่เกิดและเติบโตมาในย่านนี้อย่าง “ยุ้ย-เนาวรัตน์ จิรพงศ์เจริญลาภ” เชฟและเจ้าของร้านอาหารโฮมเมด Food Route เสน่ห์ของท่าเตียนคือสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญเป็นจุดดึงดูดผู้คน เช่น วัดโพธิ์ วัดพระแก้ว และวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่เห็นพระปรางค์วัดอรุณฯ สวยงาม อีกทั้งท่าเตียนยังคงมีกลิ่นอายความเป็นชุมชนโบราณ ประกอบกับการเดินทางเข้าถึงพื้นที่ที่สะดวกมากขึ้นด้วยรถไฟฟ้า ทำให้ท่าเตียนได้รับความนิยมและได้รับความสนใจมากขึ้นทั้งจากนักกิน เหล่าเชฟมากฝีมือ และเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร แม้จะอยู่ในย่านเก่าแถบพระนคร

นอกจากนี้วิถีชีวิตและความผูกพันของคนในชุมชนยังเป็นเสน่ห์อีกอย่างของท่าเตียน เราได้ฟังความเห็นยืนยันจาก “จอย-จิรภัสร เจียรรุ่งแสง” เจ้าของร้านอาหารและคาเฟ่ Farm to Table, Hideout ทายาทร้านขายผักสดแห่งปากคลองตลาดที่นำวัตถุดิบปลูกเองในครอบครัวมาสร้างสรรค์เมนูเด็ดที่ไม่ว่าใครก็เข้าถึงได้ นอกจากความอร่อยเน้นสุขภาพแล้ว ร้านของเธอยังเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ตึกเก่าที่ซ่อนตัวอยู่ในปากคลองตลาด ซึ่งบอกได้เลยว่าแค่ก้าวเข้ามาก็ได้ความรู้สึกอบอุ่นของเมืองเก่าแบบไม่มีใครเหมือน

“นอกจากร้านของเรา ย่านนี้ยังเต็มไปด้วยร้านเพื่อนบ้านที่ตั้งใจส่งต่อความอร่อยและสิ่งดีๆ ไปด้วยกัน ทั้ง Food Route, Old Town Café Bangkok, Pastale Homemade Café และคาเฟ่ดอกไม้นภสร เราจะเรียกตัวเองกันว่าแก๊งเมืองเก่า ทุกคนพยายามเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชุมชนในย่านนี้เติบโตไปอย่างมั่นคง และเป็นมิตรกับนักกินและนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยือน จะเรียกว่าคนท้องถิ่นทำร้านเพื่อคนท้องถิ่นด้วยกันเองก็ได้ ที่นี่เลยมีความเข้มแข็งแบบจับมือโตไปด้วยกัน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความสนุก โดยเฉพาะเรื่องกินที่คึกคักและหลากหลายจนกินแทบไม่ไหวกันเลยทีเดียว”

ไม่ต่างจากความเห็นของเชฟสาวเจ้าของร้าน Food Route ที่บอกว่าหากเปรียบเป็นอาหาร  ย่านนี้ก็คงเป็น “ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง” ที่ครบเครื่องครบรสในจานเดียวเฉกเช่นย่านท่าเตียนที่เกิดจากการผสมผสานหลายสิ่งทั้งวัด วัง บ้าน ชุมชน แม่น้ำ คาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านค้าริมทาง  แต่เมื่ออยู่ร่วมกันกลับทำให้เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์และน่าค้นหาตลอดมา

เจริญกรุง อร่อยหลากหลายหา (กิน) ได้ที่นี่
แม้จะไม่ได้เดินทางไปมาสะดวกมากนักและไม่มีสถานีรถไฟฟ้าเชื่อมต่อโดยตรง (ใกล้ที่สุดคือรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสะพานตากสิน และรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีหัวลำโพง) แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “เจริญกรุง” คือหนึ่งในย่านเก่า (แต่ร่วมสมัย) ที่คงความรุ่มรวยในด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ย่านนี้เป็นแหล่งรวมร้านอร่อยที่หลากหลายทั้งเชื้อชาติและประเภทอาหาร จนทำให้ไม่ว่าจะเป็นฟู้ดดี้หรือแค่นัก (ชอบ) กินจากที่ไหนก็ยอมดั้นด้นมาลิ้มลองความอร่อยที่รวมตัวในย่านเจริญกรุงนี้ตลอดมา

เพราะอะไรย่านเก่าแก่ซึ่งเป็นที่ตั้งของถนนสายแรกของประเทศไทยที่สร้างตามมาตรฐานตะวันตกอายุอานามเข้าปีที่ 160 นี้จึงยังคงความน่าสนใจและเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดใจนักกินทั่วทุกสารทิศ “เชฟเล็ก-วิเชียร ตรีรัตนวาทิน” แห่งห้องอาหาร “พระนคร” โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ ผู้เติบโตและคุ้นเคยกับเจริญกรุงมาแทบทั้งชีวิตให้ความเห็นว่าความรุ่งเรืองเฟื่องฟูในฐานะย่านการค้าสำคัญติดริมแม่น้ำ ประกอบกับผู้คนหลายเชื้อชาติและศาสนามาอยู่ร่วมกัน ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยอาหารที่หลากหลายแบบที่เรียกว่า “อร่อยครบจบในที่เดียว”

สำหรับเชฟเล็กเจริญกรุงไม่เป็นรองใครในด้านอาหาร ตั้งแต่อาหารจีนดั้งเดิม อาหารมุสลิม ไปจนถึงร้านสตรีทฟู้ดข้างทาง เช่น ผัดไทย หอยทอด ที่บางร้านขายกันมาเกือบร้อยปี ทำสูตรนี้ทุกวัน ความอร่อยที่ไว้ใจได้ รวมทั้งในยุคนี้ผู้คนเริ่มกลับไปโหยหาอดีต คิดถึงความทรงจำสมัยเด็ก ย่านนี้จึงเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ที่สร้างสรรค์จากเจ้าของซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาต่อยอดการเติบโตในด้านอาหารการกินของเจริญกรุง

ที่สำคัญเจริญกรุงเป็นย่านที่ไม่เคยเปลี่ยนตามกระแสนิยม แต่กลับเป็นย่านที่นำเทรนด์อยู่เสมอเหมือนที่เชฟบอกว่า “คนที่มาที่นี่คือมากินตามวิถีของเจริญกรุง” ตัวอย่างเช่น ขนมปังปิ้งหลากไส้ ที่จริงๆ ขายในแถบนี้มานานจนกลายเป็นเมนูฮิตที่แพร่หลายไปยังย่านอื่นๆ หรือเสน่ห์สไตล์วินเทจของเมืองเก่าที่กลายเป็นคอนเซ็ปต์ให้ร้านอาหารและคาเฟ่มากมายแบบที่เรียกว่า Old School ให้หลายคนได้หวนคิดถึงเรื่องราวและความทรงจำดีๆ ในอดีต

นอกจากนี้เจริญกรุงยังเป็นพื้นที่แห่งศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ของคนเมืองในยุคนี้ ด้วยการเป็นที่ตั้งของศูนย์ความรู้ด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์ (TCDC) และไปรษณีย์กลางบางรักที่เปิดพื้นที่ให้ศิลปินอิสระ ไปจนถึงโครงการ Warehouse 30 และภาพวาดสตรีทอาร์ตตามมุมกำแพงต่างๆ ที่ช่วยปลุกความครีเอทีฟในใจใครหลายคนจนกลายเป็น “ย่านฮิปสเตอร์” ซึ่งอบอวลไปด้วยความสนุกที่ไม่เคยจางหายดังที่ “นะ-ณภัทร วัฒนกุลจรัส” เจ้าของร้านขนมโตเกียวสุดฮิป Tokyo Hot บอกกับเราว่าที่นี่คือจุดเริ่มต้นของโอกาสและยังเป็นพื้นที่ที่น่าลงทุนของคนยุคใหม่ รวมทั้งยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักกินทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอยู่เสมอ

ส่วนความหลากหลายของอาหารย่านนี้ก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะแค่ร้านเด็ดที่เจ้าของร้านขนมโตเกียวขอแนะนำทั้งนิวเฮงกี่ ร้านอาหารจีนตามสั่ง ข้าวต้มปลาเล่าตี๋สูตรเด็ด Hanaya ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านแรกในเมืองไทย Sallim ร้านอาหารอินเดีย-ปากีสถาน ไปจนถึงคาเฟ่สุดฮิต Heijii Bangkok และร้านขวัญใจคนรักเนื้ออย่างวัวทองก็ยืนยันได้ว่าเจริญกรุงนั้นอร่อยครบจบในย่านเดียวจริงๆ

Hot New Area ย่านใหม่น่าจับตา
เมื่อพื้นที่ใจกลางเมืองหรือย่านธุรกิจพลุกพล่านเริ่มแออัดและห่างไกลกับความรื่นรมย์ เราจึงได้เห็นย่านนักกินแห่งใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ เพื่อลดการกระจุกตัวของผู้คน รวมทั้งปัญหาการจราจรที่เกิดจากการเดินทาง ซึ่ง 2 ย่านที่โดดเด่นและน่าจับตามองไม่แพ้ใครในตอนนี้คงหนีไม่พ้น “ซอยปรีดี พนมยงค์” หรือซอยสุขุมวิท 71 แหล่งชิลเอาต์ของชาวพระโขนง และ “นาคนิวาส” หรือซอยลาดพร้าว 71 พื้นที่ส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตของชาวลาดพร้าวที่ปัจจุบันก็คึกคักพลุกพล่านไม่แพ้ย่านธุรกิจต่างๆ ในเมืองเลยทีเดียว

ซอยปรีดี พนมยงค์ ส่วนต่อขยาย (ความอร่อย) จากทองหล่อ
หากย้อนไปก่อนหน้านี้เวลาคิดถึงย่านร้านอร่อย แทบทุกคนเป็นต้องคิดถึงทองหล่อ แหล่งรวมตัวของนักกินทั่วกรุงเทพฯ ที่ไม่ว่าชาวไทยหรือชาวต่างชาติก็อยากมาจับจองที่นั่งในร้านอาหารดีๆ ในบริเวณนี้ จนเมื่อการรวมตัวเริ่มกลายเป็นความแออัดในการแย่งชิงพื้นที่ทั้งในร้านอาหารและการจราจร หลายคนจึงเริ่มขยับขยายออกมาจากถนนสุขุมวิท 55 มายังสุขุมวิท 71 หรือ “ซอยปรีดี พนมยงค์” เพื่อนบ้านที่อยู่ถัดไปไม่ไกล

เหมือนเช่นที่ “เมย์-เมทิกา ปั้นเจริญ” ผู้นำพาความหลงใหลในกาแฟมาสู่ซอยปรีดี พนมยงค์ ในรูปแบบร้านกาแฟ Single Lane Specialty Coffee ด้วยความรู้สึกว่าที่นี่เป็นย่านที่มีโอกาสในการเติบโตได้ในอนาคต มีนักท่องเที่ยวและคนทำงานค่อนข้างมาก แถมยังเดินทางสะดวก และอยู่ไม่ไกลจากทองหล่อและเอกมัย

“ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว การจะหาร้านกาแฟแบบ  Specialty Coffee ในย่านนี้สักร้านนั้นยากมาก เราเล็งเห็นโอกาสตรงนี้เลยตัดสินใจเลือกเปิดร้านและนำเสนอกาแฟดีๆ ให้กับคนในย่านนี้ ปัจจุบันร้านกาแฟและร้านอาหารเกิดขึ้นเยอะมากในย่านนี้ คงเป็นเพราะซอยนี้มีเสน่ห์ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าย่านธุรกิจอื่นๆ พอมีร้านให้ลองชิมเยอะขึ้น ซอยปรีดี พนมยงค์ คงกลายเป็นจุดดึงดูดผู้คนให้แวะมาเที่ยวมากขึ้นในอนาคต”

อีกหนึ่งจุดเด่นของซอยปรีดี พนมยงค์ คงเป็นการเติบโตของร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่มีเจ้าของเป็นคนไทยและเป็นชาวญี่ปุ่นแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็น Okinawa Kinjo  ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอกินาวาที่พร้อมต้อนรับนักชิมด้วยเมนูมื้อกลางวันอร่อยเด็ดและอิซากายะยามค่ำคืนจนหลายคนยกให้เป็นร้านที่ต้องมาชิมในแถบพระโขนง หรือ Rintaro ร้านไอศกรีมเจลาโตคิวยาวที่ปลุกปั้นโดยชินทาโร่ นากาจิมะ ชายหนุ่มจากจังหวัดชิบะ ผู้พกพาความอร่อยจากบ้านเกิดมาแบ่งปันให้ชาวไทยในย่านนี้ได้ชิมไอศกรีมที่ทำจากผลไม้และวัตถุดิบระดับคุณภาพที่ผสมความมุ่งมั่นและใส่ใจลงไปในทุกโคน รวมทั้ง Kappa's Coffee ร้านกาแฟเล็กๆ หน้าโครงการ W District (ไม่ไกลจากเพื่อนบ้านอย่างรินทาโร่) ที่อยากเพิ่มพลังและความสดชื่นให้ชาวออฟฟิศด้วยกาแฟคั่วเตาถ่านที่คั่วเองทุกแก้วของ “ลุงคัปป้า” ซึ่งย้ายร้านแรกจากหาดกะตะจังหวัดภูเก็ตมาปักหลักอยู่ที่นี่ ด้วยความเชื่อว่าย่านนี้จะเป็นความฝันใหม่ของคนญี่ปุ่นที่รักเมืองไทยเช่นเขา

เมื่อจิบลาเต้ร้อนที่ลุงภูมิใจนำเสนอ เราก็เหมือนได้พลังงานดีๆ กลับคืนมาทันทีในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว และก่อนที่เราจะกล่าวลา เจ้าของร้าน Kappa's Coffee ก็ยังไม่ลืมทิ้งท้ายว่า อยากให้พื้นที่ซึ่งคนไทยและต่างชาติอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัวนี้เป็นย่านที่ทุกคนนึกถึงหากอยากมาใช้เวลาค้นหาความอร่อยในทุกๆ วัน

นาคนิวาส ศูนย์รวมความอร่อยแห่งลาดพร้าว
หลังจากครองตำแหน่งย่านรถติดอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ มายาวนาน ตอนนี้ลาดพร้าวกำลังเข้ามาช่วงชิงพื้นที่ในใจของเหล่านักกินด้วยถนนสายยาวอย่าง “นาคนิวาส” หรือที่หลายคนคุ้นเคยในชื่อซอยลาดพร้าว 71 ที่กำลังเปลี่ยนจากย่านที่อยู่อาศัยธรรมดาเป็นแหล่งรวมร้านอร่อยระดับคุณภาพหลากสไตล์หลายรสชาติในแบบที่เรียกว่าไม่ต้องฝ่าฟันการจราจรเข้าไปใจกลางเมืองก็อร่อยเพลิน (พุง) ได้ไม่แพ้กัน

ไม่ว่าจะเป็นร้านเขียวไข่กา ร้านอาหารไทยยอดนิยมที่นักชิมยกนิ้วให้ Organic Supply คาเฟ่เพื่อสุขภาพที่เน้นวัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งหมด ไปจนถึงร้านชาบูและร้านสุกี้ขวัญใจมหาชนอย่างชาบูหน้าหม้อและสุกี้ตี๋น้อยที่คนแน่นแทบทุกวันก็คงบ่งบอกได้ว่านาคนิวาสคือย่านนักกินแห่งใหม่ที่น่าจับตามองสุดๆ ในขณะนี้

หนึ่งในร้านอาหารที่กำลังเติบโตอย่างแข็งแรงและกำลังกลายเป็นจุดดึงดูดของย่านนี้คือ นิวาส Café & Bistro ที่นำเสนออาหารไทยท้องถิ่นรสชาติจัดจ้านโดนใจฝีมือ “เชฟป๊อป-พิชชากร รามบุตร” ซึ่งเล่าให้เราฟังอย่างอารมณ์ดีว่าแม้จะจับพลัดจับผลูมาเปิดร้านในย่านนี้ด้วยความบังเอิญ แต่เมื่อใช้ชีวิตคลุกคลีมานานร่วมปีก็เกิดความประทับใจในถนนนาคนิวาสที่กำลังมีตัวตนขึ้นมาในใจของนักชิม

“ร้านอาหารแถวนี้เป็นแบบสแตนด์อโลนที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ทุกร้านมีเจ้าของที่มีความตั้งใจและพยายามโชว์เสน่ห์ โชว์ความเป็นตัวตนของตัวเอง ซึ่งพอความแตกต่างเหล่านี้มารวมกัน เลยทำให้ย่านนี้เป็นแหล่งรวมร้านอาหารคุณภาพ ตั้งแต่ร้านคราฟต์เบียร์ ร้านค็อกเทลบาร์ ไปจนถึงร้านสเต๊กดีๆ

“ที่สำคัญผู้คนในย่านนี้พร้อมตอบรับและเหมือนรอคอยให้โซนนี้มีร้านดีๆ อยู่แล้ว ทุกอย่างเลยส่งเสริมกันทั้งคนขายและคนกิน อย่างร้านที่น่าสนใจในความเห็นของเราคือร้านครูสายทิพย์  อาหารใต้อร่อยใหม่ ร้าน Bottle Rocket Craft Beer Bar คราฟต์เบียร์นำเข้าที่เมนูกับแกล้มของเขาพิถีพิถันมาก และร้าน Hinoki Sushi ร้านอาหารญี่ปุ่นที่นั่งน้อย ต้องรอคิวตลอด แต่อร่อยมาก เราชอบแนะนำเพื่อนๆ จากที่อื่นให้ไปชิม ยังไม่รวมร้านเก่าแก่หรือร้านริมทางที่คุณป้าคุณน้าขายกันมาหลายปี เรียกว่าเดินแวะกินได้ทั้งเส้น ป๊อปคิดว่าไม่ว่าอย่างไรย่านนี้จะเป็นย่านอาหารการกินที่จะเติบโตต่อไปอย่างแข็งแรง...

แบบที่ในอนาคตหากคิดถึงย่านอาหารอร่อยต้องคิดถึงนาคนิวาส”

ขอขอบคุณ

• คุณเนาวรัตน์ จิรพงศ์เจริญลาภ เชฟและเจ้าของร้านอาหาร Food Route
• คุณจิรภัสร เจียรรุ่งแสง เจ้าของร้านอาหาร Farm to Table, Hideout
• เชฟวิเชียร ตรีรัตนวาทิน Chef de Cuisine ห้องอาหารพระนคร โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ
• คุณณภัทร วัฒนกุลจรัส เจ้าของร้าน Tokyo Hot    
• คุณเมทิกา ปั้นเจริญ เจ้าของร้าน Single Lane Specialty Coffee
• คุณคัปป้า เจ้าของร้าน Kappa's Coffee
• เชฟพิชชากร รามบุตร เชฟและเจ้าของร้าน นิวาส Café & Bistro

Tag: Cover story, ท่าเตียน, เจริญกรุง