“หอมหัวใหญ่” ผักใกล้ตัวที่คนไทยใช้ประกอบอาหารหลากหลายเมนู ทั้งต้ม ผัด ทอด และยำ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มกลิ่นและรสชาติให้อาหารจานนั้นๆ แล้วยังให้ประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่างที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน อาทิ บำรุงผิวพรรณ มีสารต้านมะเร็ง บำรุงกระดูกให้แข็งแรง เป็นต้น

1. บำรุงหัวใจ
ในหอมหัวใหญ่นั้นประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติลดอักเสบ ลดไตรกลีเซอไรด์ และลดระดับคอเลสเตอรอล ซึ่งทั้งหมดเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีน้ำหนักเกิน 70 กิโลกรัม เมื่อได้รับสารสกัดจากหอมหัวใหญ่ที่อุดมไปด้วยเควอซิทิน  (Quercetin) ในปริมาณ 162 มก. ต่อวัน สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ดี

2. เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
หอมหัวใหญ่เป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด ยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่นซึ่งเป็นผลทำให้เซลล์ในร่างกายเสียหาย และเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ อาทิ โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ

3. มีสารต้านมะเร็ง
นักวิจับพบว่าปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักลดลง 79% ในหมู่ผู้ที่บริโภคหอมหัวใหญ่ การศึกษาในปี 2559 ซึ่งตีพิมพ์ใน Integrative Cancer Therapies พบว่าการบริโภคหอมหัวใหญ่อาจช่วยลดผลข้างเคียงจากการรักษามะเร็งได้ ช่วยลดแรงต้านทานต่ออินซูลิน และภาวะน้ำตาลในเลือดสูงต่อผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ได้รับเคมีบำบัดจนเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน

4. ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
การกินหัวหอมอาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดซึ่งเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน การศึกษาชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่าหนูที่เป็นโรคเบาหวานเมื่อกินอาหารที่มีสารสกัดจากหัวหอม 5% เป็นเวลา 28 วันพบว่าน้ำตาลในเลือดลดลงและมีไขมันในร่างกายต่ำ สารประกอบเควอซิตินและกำมะถันในหอมหัวใหญ่นั้นมีฤทธิ์ต้านโรคเบาหวาน

5. เพิ่มความหนาแน่นของกระดูก
จากการศึกษาในสตรีวัยกลางคนและวัยหมดประจำเดือน 24 คนพบว่าผู้ที่บริโภคน้ำหัวหอม 3.4 ออนซ์ (100 มล.) ทุกวันเป็นเวลา 8 สัปดาห์มีความหนาแน่นของกระดูกและฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระดีขึ้น นอกจากนี้การศึกษายังแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงสูงอายุที่กินหัวหอมบ่อยที่สุดช่วยลดความเสี่ยงของกระดูกสะโพกหักได้มากกว่า 20% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคยกินเลย นอกจากนั้นหอมหัวใหญ่ยังช่วยลดความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น เพิ่มระดับสารต้านอนุมูลอิสระ และลดการสูญเสียมวลกระดูกซึ่งอาจป้องกันโรคกระดูกพรุน และเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกอีกด้วย

6. ต้านเชื้อแบคทีเรีย
หอมหัวใหญ่สามารถต่อสู้กับแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตราย เช่น เอสเชอริเชีย โคไล (Escherichia coli) ซูโดโมนาสแอรูจิโนซา (Pseudomonas aeruginosa) สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus) บาซิลลัส ซีเรียส (Bacillus cereus) จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่า เควอซิทีน (Quercetin) ที่สกัดจากผิวหัวหอม สามารถยับยั้งการเติบโตของ Helicobacter pylori ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เกี่ยวข้องกับแผลในกระเพาะอาหาร และมะเร็งทางเดินอาหาร

7. ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดี
หอมหัวใหญ่เป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์และพรีไบโอติกซึ่งช่วยให้ลำไส้สุขภาพดี พรีไบโอติกเป็นไฟเบอร์ชนิดที่ไม่สามารถย่อยได้ การบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยพรีไบโอติกนั้นช่วยเพิ่มโปรไบโอติก เช่น สายพันธุ์แลคโตบาซิลลัส และไบฟิโดแบคทีเรียซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพทางเดินอาหาร นอกจากนั้นหัวหอมยังอุดมไปด้วยอินนูลินของพรีไบโอติก และฟรุกโตลิโกแซ็กคาไรด์ สิ่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่เป็นมิตรในลำไส้ของคุณ

8. บำรุงผิวพรรณ
นอกจากหอมหัวใหญ่จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการแล้ว ยังช่วยบำรุงในเรื่องความสวยความงาม อาทิ การทำให้พิวพรรณของคุณเปล่งปลั่ง เนื่องจากหัวหอมนั้นเต็มไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซีและวิตามินเค ที่ช่วยบำรุงผิวของคุณให้แข็งแรง พร้อมช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีในแสงแดดอีกด้วย

9. บำรุงผมแข็งแรง
มีผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมประเภทอายุรเวชจำนวนมากที่ใช้สารสกัดจากหัวหอมเป็นส่วนประกอบ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียหัวหอมจึงช่วยในการรักษารังแคและเหาให้ห่างจากหนังศีรษะของคุณ อีกทั้งหอมหัวใหญ่ยังมีวิตามินซีที่มีคุณสมบัติสร้างคอลลาเจน ซึ่งช่วยสร้างโครงสร้างอันแข็งแรงให้กับผิวหนังและเส้นผม

ที่มา :

• https://www.healthshots.com/healthy-eating/nutrition/i-quit-eating-rice-and-roti-for-a-month-to-lose-weight-and-this-is-what-happened/
• https://www.medicalnewstoday.com/articles/276714#nutrition
• https://www.healthline.com/nutrition/onion-benefits#TOC_TITLE_HDR_11

Tag: หัวหอม