หากย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 2020 สีแพนโทนประจำปีนั้นมาในสี Classic Blue เราแทบจะนึกไม่ออกเลยว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี เพราะสถานที่ท่องเที่ยวที่มีสีน้ำเงินนั้นดูจะหาได้ยากถ้าไม่ใช่ทะเลกับท้องฟ้า แต่ดูเหมือนว่าปี ค.ศ. 2021 นี้จะเป็นใจให้กับสายท่องเที่ยวอย่างมาก เพราะว่ามาด้วยกัน 2 สีก็คือ Ultimate Gray และ Illuminating ซึ่งเป็นโทนสีเทาและสีเหลืองสว่าง ถ้าอยากจะหาที่เที่ยวในกรุงเทพฯ ที่มีสีสันตามนี้ก็ต้องบอกว่าง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเสียอีก และนี่คือ 4 สถานที่ท่องเที่ยวที่เรามั่นใจว่าจะได้รูปโทนสีสวยๆ ตามแพนโทนของปีนี้อย่างแน่นอน

★ อาคารไปรษณีย์กลาง ★
อาคารแห่งนี้เคยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางงานบริการไปรษณีย์และโทรเลขมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนถนนเจริญกรุง ภายนอกนั้นดูเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ กล่าวกันว่าเคยเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพมหานครในช่วงเวลานั้นเลยทีเดียว

สาเหตุที่อาคารไปรษณีย์กลางบางรักเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะกับแพนโทนประจำปี ค.ศ. 2021 นี้มากที่สุดก็มาจากสีสันของพื้นผิวด้านนอกที่เป็นสีเทาทั้งอาคารเพราะสร้างจากหินล้างสีเทา เซาะพื้นผิวให้เป็นร่องดูเหมือนลวดลายการเรียงอิฐ เมื่อเข้าไปภายในจะพบกับห้องโถงที่กว้างขวางมาก ด้านบนประดับโคมไฟระย้าที่งดงามสะท้อนกับพื้นหินขัดด้านล่างเป็นประกาย

แต่ไม่ใช่ว่ามีแค่ภายนอกที่เป็นสีเทา เพราะปัจจุบันอาคารไปรษณีย์กลางยังเป็นที่ตั้งของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ หรือ  Thailand Creative and Design Center (TCDC) ที่มาพร้อมพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนเกิดไอเดียใหม่ๆ ในการออกแบบ โดยภายในแบ่งเป็นหลายโซนด้วยกัน ได้แก่ โซนสำหรับบุคคลทั่วไป สามารถเข้าไปนั่งเล่นในคาเฟ่ ชมงานศิลปะในแกลเลอรี ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับงานออกแบบ หรือขึ้นไปชมวิวบนชั้นดาดฟ้าได้ และโซนสำหรับสมาชิกเท่านั้น ซึ่งมีทั้งห้องสมุด ห้องชมภาพยนตร์ และพื้นที่เวิร์กชอปที่ล้วนมากับโทนสีเทา-ดำสุดโมเดิร์น สมกับเป็นศูนย์รวมงานออกแบบอย่างแท้จริง

★ อาคารกระทรวงกลาโหม ★
อาคารกระทรวงกลาโหมเปิดทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 และยังคงทำหน้าที่นี้มาจนถึงปัจจุบัน หากมองจากด้านบนลงมา (หรือลองเปิดแผนที่จากอินเทอร์เน็ต) จะเห็นว่าเป็นอาคารที่ออกแบบมาให้มีทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่เกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า และมีลานกว้างโอบล้อมด้วยอาคารความสูง 3 ชั้น ด้านหน้าของอาคารหันไปทางถนนสนามไชย โดยฝั่งตรงข้ามนั้นก็คือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม

จุดเด่นของอาคารแห่งนี้คือการออกแบบสถาปัตยกรรมที่มาจากฝีมือของโยอาคิม กรัสซี สถาปนิกชาวอิตาลี จึงไม่แปลกที่อาคารแห่งนี้จะมีกลิ่นอายของยุโรปอยู่ในทุกอณูด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิก มีบรรดาปืนใหญ่โบราณตั้งอยู่ด้านหน้าคอยดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาได้ดีทีเดียว

ส่วนจุดถ่ายรูปกับอาคารที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงจะอยู่บริเวณด้านข้าง ติดกับถนนกัลยาณไมตรีที่จะได้ภาพของอาคารสีเหลืองอร่ามตรงกับสีแพนโทนของปีนี้  ตั้งเป็นกำแพงสูงตระหง่านขนานไปจรดถนนบำรุงเมือง ยิ่งเมื่อรวมกับหน้าต่างขอบสีเขียว-ฟ้าด้วยยิ่งเพิ่มสีสันให้กับภาพที่ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ

★ มิวเซียมสยาม ★
บนเกาะรัตนโกสินทร์นั้นเป็นพิกัดที่เหมาะสำหรับการตามล่าหาอาคารสีเหลืองเป็นที่สุด เพราะหลายๆ พื้นที่อนุรักษ์ต่างอัดแน่นไปด้วยบรรดาอาคารเก่าซึ่งอยู่ภายใต้แผนการจัดระเบียบอาคารและสิ่งปลูกสร้าง คุมโทนสีอาคารให้เป็นสีครีมหรือสีเหลืองอ่อน สาเหตุที่อาคารส่วนใหญ่มีสีเหลืองก็เพราะอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมยุโรปในสมัยก่อนที่นิยมทาอาคารเป็นสีเหลือง โดยอาคารมิวเซียมสยามที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบอิตาเลียนเรเนสซองส์ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยเช่นกัน

ในยุคหนึ่งอาคารเก่าแก่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของกระทรวงพาณิชย์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2463-2465 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 หากย้อนกลับไปไกลกว่านั้นในช่วงเริ่มรัชกาลที่ 3 ถึงรัชกาลที่ 5 พื้นที่บริเวณท้ายวัดพระเชตุพนฯ นี้เคยเป็นที่ตั้งของ “วังท้ายวัด” มาก่อนจากการขุดค้นพบฐานรากของวังเก่าจากสนามรอบๆ อาคารปัจจุบัน

เมื่อถ่ายรูปด้านนอกจนหนำใจแล้วอย่าให้เสียเที่ยว ลองเข้าไปชมนิทรรศการ “ถอดรหัสไทย” นิทรรศการชุดปัจจุบันที่ตั้งคำถามกับความเป็นไทยผ่านมัลติมีเดียสุดทันสมัย ชวนให้ขบคิดว่าจริงๆ แล้วอะไรคือความเป็นไทยที่เรามักจะพูดถึงกันอยู่บ่อยครั้ง

★ อุโมงค์ MRT สามย่าน ★
สามย่านแต่ก่อนนั้นเป็นแหล่งชุมชนชาวจีนที่เก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่ขยับขยายมาจากย่านเยาวราช จึงมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจไม่น้อย เริ่มแรกนั้นตลาดสามย่านเป็นตึกแถวไม้ มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ตลาดสด ซึ่งเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2508 หลังจากปรับปรุงตลาดชุมชนเล็กๆ ให้กลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ ขายของสดที่มีคุณภาพ และมีร้านอาหารชื่อดังหลายร้านตั้งอยู่ภายในตลาดแห่งนี้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากินระยะเวลายาวนานไปกว่า 40 ปีตลาดสามย่านกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สายกินไม่ควรพลาด

ในช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้อาจจะเคยได้ยินข่าวคราวกันมาบ้างกับกรณีการพัฒนาพื้นที่บริเวณชุมชนสามย่านให้เป็นพื้นที่ศูนย์การค้าว่าเป็นการทำลายเสน่ห์วัฒนธรรมชุมชนดั้งเดิมจดหมดสิ้น นับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายไม่น้อยที่คนรุ่นใหม่จะไม่ได้เห็นบรรยากาศตลาดสดและร้านอาหารเจ้าเด็ดในตำนานอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสามย่านก็ยังคงดึงดูดผู้คนได้เหมือนเดิมแต่ในแง่มุมที่แตกต่างออกไป จากที่เคยเป็นตลาดสดก็กลับกลายเป็นโครงการสามย่านมิตรทาวน์ที่เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ด้วยร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต ไปจนถึง Co-Working Space ที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งจุดเช็กอินตามสีแพนโทนประจำปีนี้ก็อยู่ใต้ดินนี่เอง บริเวณทางเดินเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้าสามย่านมาสู่สามย่านมิตรทาวน์นั้นตื่นตาด้วยโทนสีเทาของผนังปูนเปลือยเหมือนกับผนังอุโมงค์ของรถไฟฟ้าใต้ดิน เมื่อประกอบเข้ากับแสงไฟสีขาวยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บนยานอวกาศเลยทีเดียว

ทั้ง 4 สถานที่นี้สามารถจัดเป็นวันเดย์ทริปได้ง่ายๆ และเดินทางได้โดยรถสาธารณะทั้งหมด เหมาะสำหรับคนที่มองหากิจกรรมเดินเล่นง่ายๆ ในกรุงเทพฯ แถมยังหาของกินอร่อยๆ ได้ไม่ยาก เพราะแต่ละย่านก็มีร้านอร่อยขึ้นชื่อ ตั้งแต่ถนนเจริญกรุง ย่านท่าเตียนในเกาะรัตนโกสินทร์ แล้วไปจบที่สามย่าน

ไม่ว่าจะกินหรือจะเดินก็เพลินแน่นอน

Tag: travel, สถานที่ท่องเที่ยว