พลังสร้างสรรค์ที่ไม่หยุดนิ่งของพัชรินทร์ เหมอังกูร กูร์เมท์ วัน ฟู้ดส์ เซอร์วิส (ประเทศไทย)

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564  3,481 Views
นิตยสาร Gourmet & Cuisine ฉบับที่ 247 เดือนกุมภาพันธ์ 2564

อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับหลายคนที่เริ่มต้นธุรกิจแล้วจะประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันสั้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่ G&C ได้สัมภาษณ์คุณจ้อ-พัชรินทร์ เหมอังกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กูร์เมท์ วัน ฟู้ดส์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด สาวเก่งที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุ 22 ปี ซึ่งอาจสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครอีกหลายคนว่าอะไรคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของเธอ

“หลังเรียนจบก็เริ่มทำงานในสนามบิน สิ่งที่ได้จากตรงนี้คือพื้นฐานและประสบการณ์เกี่ยวกับระบบมาตรฐานต่างๆ ที่ทางสนามบินให้ความสำคัญอย่างมาก เรานำสิ่งที่ได้เรียนรู้นี้ไปใช้กับเรื่องอื่นๆ รวมถึงเมื่อมีโอกาสเข้าไปเสนอสินค้าให้กับเรือสำราญสตาร์ครูซที่มีลูกเรือและผู้โดยสารจำนวนพันกว่าคนเมื่อปี ค.ศ. 1998 ภารกิจคือหาวัตถุดิบมาป้อนผู้โดยสารและลูกเรือให้เพียงพอ วันแรกที่เข้าไปเสนอสินค้าเราเตรียมพร้อมทุกสิ่งด้วยมาตรฐานเดียวกับสนามบิน ทั้งไปเลือกผักผลไม้ด้วยตัวเอง ล้างทำความสะอาด ตัดแต่งและบรรจุหีบห่อให้สวยงามพร้อมใช้งาน เราระวังเรื่องความสะอาดที่สุด เพราะบนเรือสำราญจะมีสิ่งปนเปื้อนไม่ได้เลย ซึ่งทางสตาร์ครูซประทับใจมาก ถึงแม้ว่าราคาจะสูงกว่ารายอื่นที่เข้าไปเสนอพร้อมกันก็ตาม เพราะสินค้าของเรานำไปใช้ได้ทั้งหมด ไม่มีส่วนที่สูญเสีย เมื่อทางเรือแจ้งว่าอยากได้สินค้าเพิ่มเติมบางรายการ ซึ่งบางอย่างหายากมาก แต่เราก็หามานำเสนอจนได้ สัปดาห์ถัดมาเราก็ได้รับการตอบรับที่มาพร้อมกับออร์เดอร์แรก (ยิ้ม) หลังจากที่ได้ร่วมงานกับสตาร์ครูซเราก็สามารถสร้างรายได้ตอนนั้นมากถึงหลักล้านต่อสัปดาห์”

พัชรินทร์ เหมอังกูร กูร์เมท์ วัน ฟู้ดส์ เซอร์วิส (ประเทศไทย)

จากออร์เดอร์แรกสู่ออร์เดอร์ที่หลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่อง แต่ละสัปดาห์คุณจ้อต้องเทียวส่งสินค้าหลายครั้งสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ความสำเร็จที่ดูเหมือนได้มาอย่างง่ายดายของเด็กสาววัยเพียง 22 ปีอาจดูน่าทึ่งในสายตาของคนทั่วไป แต่หากมองย้อนไปเบื้องหลังความสำเร็จที่ไม่อาจเรียกได้ว่าความบังเอิญนั้นล้วนมีรากฐานจากความคิดที่เป็นระบบและการสู้งานอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จที่ดูเหมือนคุณจ้อจะพอใจกับตัวเองแล้วก็จำต้องเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน

“วันหนึ่งคุณพ่อบุญธรรมมาเล่าว่ามีบริษัทจากไต้หวันกำลังมองหาบริษัทซัพพลายสินค้าระดับพรีเมียมให้ ท่านถามว่าลองทำดูไหม ตอนแรกไม่สนใจเพราะงานที่ทำดีมากอยู่แล้ว แต่พอถึงปี ค.ศ. 2003 เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เรือสำราญเข้าเทียบท่าไม่ได้ ประจวบกับคุณจอห์นนี่เจ้าของบริษัทจากไต้หวันชวนมาดูงานที่บริษัท เราได้เห็นวิธีการทำงาน การบริหารธุรกิจ การบริหารคน รู้สึกตกหลุมรักธุรกิจนำเข้าอาหาร และบอกตัวเองว่าเราจะทำ จากนั้นคุณจอห์นนี่ก็พาไปดูงานที่ยุโรป ไปเยี่ยมหลายบริษัท ไปงานแสดงสินค้าใหญ่ๆ ได้เจรจาธุรกิจกับผู้ผลิตและจำหน่ายหลายบริษัทซึ่งได้รับการตอบรับอย่างมาก กระทั่งนำมาสู่การเปิดบริษัท กูร์เมท์ วัน ฟู้ดส์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ในปี ค.ศ. 2004 แบรนด์ที่เรานำเข้าทั้งหมดคือท็อปแบรนด์ ซึ่งแน่นอนว่าใครก็อยากได้ ท็อปเชฟก็มองหา เราจึงได้ส่วนแบ่งตลาดตรงนี้”  สำหรับประเทศแรกที่คุณจ้อนำเข้าสินค้า ได้แก่ ฝรั่งเศส สินค้ามีทั้งฟัวกราส์และคาเวียร์ สินค้าพรีเมียมเหล่านี้มีผู้นำเข้าบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบไดเรกต์ไม่มีเอเจนต์รายใหญ่ แต่หลังจากคุณจ้อเขียนแผนการตลาดเข้าไปนำเสนอ มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงที่จะขยายตลาดในประเทศไทย จึงเกิดความเชื่อมั่นและตัดสินใจร่วมงานกันในที่สุด

การวาง Position ที่ชัดเจนตั้งแต่แรกเปรียบดังเข็มทิศที่ชี้เป้าให้ธุรกิจเดินหน้าอย่างมั่นคง “เราไม่ใช่ผู้เล่นเดียวในตลาด แต่ความแตกต่างของคุณภาพสินค้า รวมถึงการให้บริการ คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่ค้าและลูกค้ายอมรับ ทำอย่างไรที่จะทำให้ผู้ผลิตสินค้ายักษ์ใหญ่ยอมให้เราเป็นดิสทริบิวเตอร์ นั่นหมายความว่าเขาต้องยอมรับในศักยภาพและความเอาใจใส่ในการดูแลรักษาสินค้าตั้งแต่ขั้นตอนนำเข้าจนกว่าจะถึงมือผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น ช็อกโกแลตพรีเมียมที่ผู้ผลิตระบุว่าจะต้องเก็บรักษาในห้องเย็นอุณหภูมิ 16 องศาและระดับความชื้นคงที่เพื่อไม่ให้ช็อกโกแลตสะดุ้ง เราก็จัดหาให้ตามต้องการ หรือการนำเข้าเฉพาะเนื้อชิลจากแหล่งที่ดีที่สุดทั้งใน US และ AUS ไม่มีเนื้อโฟรเซน แล้วนำมาบ่มจนได้รสชาติที่ดียิ่งขึ้นก่อนส่งขายให้ลูกค้า แม้ต้นทุนจะสูงขึ้นแต่เราอยากให้ลูกค้าได้กินเนื้อที่มีรสชาติดีที่สุด เหนือสิ่งอื่นใดเรายังมีคอนเซ็ปต์การตลาดแนวใหม่ที่ชัดเจน มีระบบจัดทำบัญชีที่ตรวจสอบได้ ซึ่งบริษัทต่างชาติจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก”

พัชรินทร์ เหมอังกูร กูร์เมท์ วัน ฟู้ดส์ เซอร์วิส (ประเทศไทย)

จากเด็กสาววัย 22 ที่กล้าก้าวออกมาจากคอมฟอร์ตโซน ไม่เพียงความกล้าคิดกล้าทำ แต่คุณจ้อยังมีของดีที่ได้มาจากรั้วสถาบันการศึกษา นั่นคือความรู้พื้นฐานที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ แม้จะไม่ลึกซึ้งแต่ก็ครอบคลุมเกือบทุกด้านแล้วนำมาศึกษาต่อยอดเพิ่มเติม คุณจ้อเล่าว่าหัวใจสำคัญของการเติบโตทางธุรกิจคือการไม่หยุดนิ่งที่จะหาความรู้เพื่อพัฒนาสินค้าและการบริการอย่างต่อเนื่อง “เราไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาธุรกิจ  การเติบโตทำให้เราได้เพิ่มพอร์ตโฟลิโอไปเรื่อยๆ เรามองว่าการให้บริการลูกค้าควรจะครอบคลุมทุกความต้องการ เมื่อเดินเข้าไปในโรงแรมแห่งหนึ่งเราควรจะมีสินค้าทุกประเภทสำหรับห้องอาหารทุกห้อง เพื่อให้ทางฝ่ายจัดซื้อของโรงแรมได้รับความสะดวกสบายในการสั่งซื้อสินค้าโดยไม่ต้องดีลหลายราย

“ด้วยศักยภาพที่เรามี ไม่ว่าจะเป็นสินค้าคุณภาพสูง ความหลากหลายของสินค้า เรายังมีผู้เชี่ยวชาญหลายด้าน รวมทั้งระบบขนส่งและระบบคลังสินค้าที่ได้มาตรฐาน จึงริเริ่มผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอกชีส สปิแนชชีส และอื่นๆ จากที่ไม่เคยสนใจระบบออนไลน์เราก็เริ่มให้ความสำคัญกับ B to C มากขึ้น แต่มาเริ่มคิกออฟอย่างจริงจังในช่วงโควิดที่ผ่านมา เพราะเรามีเวลาคุยกับลูกค้ามากขึ้นจึงหันมาพัฒนาในส่วนนี้ซึ่งผลตอบรับดีมาก อีกสิ่งที่อยากทำคือร้านอาหาร เรามีวัตถุดิบและมีเชฟมืออาชีพที่พร้อมโชว์ฝีมือ ในพื้นที่ร้านของเราจะมีทั้งส่วนของ Restaurant, Butcher Shop และ Cooking Studio ตอนนี้เราเปิดร้านอาหารแล้ว แต่ 2 ส่วนหลังจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้”

ดูเหมือนพลังในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ของคุณจ้อยังไม่หมดเพียงเท่านี้ และเราคงได้เห็นพอร์ตโฟลิโอของเธอเพิ่มขึ้นอีกมากมายในอนาคต สำหรับลูกค้าสายกินอย่างเราก็ได้แต่เฝ้ารอพร้อมเตรียมกระเป๋าสตางค์ไว้ให้พร้อมเท่านั้น

บริษัท กูร์เมท์ วัน ฟู้ดส์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด 55 ซอยกันตนา ถนนบางใหญ่-บางคูลัด ตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี

โทร. 0-2403-3388


Tag: Food in Biz

เรื่องโดย

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed