จะดีแค่ไหนกันนะถ้าเราได้เดินทางท่องเที่ยวไปในดินแดนที่สวยงาม เงียบสงบ เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาของผู้คนท้องถิ่น ได้สัมผัสธรรมชาติ ชิมอาหารอร่อย และชอปปิงสินค้าพื้นเมืองน่ารักๆ ความสุขแบบนี้หาได้ไม่ยากในเมืองเล็กซึ่งถูกแช่แข็งไว้ในกาลเวลา ไปสัมผัสครั้งใดคล้ายการพาตัวเองย้อนหาอดีต กลับสู่ช่วงเวลาที่ผู้คนยังมีชีวิตไม่เร่งร้อน จนดูเหมือนว่าเข็มนาฬิกาจะเดินช้าลง ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายสบายใจในเมือง Slow Town เก็บเกี่ยวความสุขบนความเนิบช้ามาเติมพลังให้หัวใจ แม้ว่าภาวะโควิด-19 ระบาดจะยังไม่บรรเทา แต่ก็เริ่มมีข่าวดีเรื่องวัคซีนในบางประเทศแล้ว ตอนนี้จึงเป็นเวลาแห่งการเตรียมตัวศึกษาข้อมูลท่องเที่ยวไว้ล่วงหน้า รอวันบินไปได้เมื่อไร เราก็จะได้ออกท่องโลกอีกครั้งให้หายคิดถึง

★ Grindelwald สวรรค์กลางสวิสแอลป์ ★
สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศในฝันของใครหลายคน เพราะมีธรรมชาติสวยงามสุดๆ อีกทั้งยังมีหมู่บ้านเล็กๆ แนวย้อนยุคให้ไปเยือนหลายแห่ง โดยเฉพาะ “หมู่บ้านกรินเดลวาลด์” (Grindelwald Village) ในรัฐแบร์น (Berne) บนความสูงกว่า 1,034 เมตร ท่ามกลางการโอบล้อมของเทือกเขามหึมา ชุมชนกำเนิดขึ้นใจกลางสวิสแอลป์ มีทุ่งหญ้าเขียวสดอาบแดดอุ่นสลับทุ่งดอกไม้ป่า ทำให้หลงรักกรินเดลวาลด์ในวินาทีแรกที่เห็น หมู่บ้านกระจายตัวอยู่ตามไหล่เขา กินพื้นที่เกือบ 200 ตารางกิโลเมตร ทว่ามีประชากรเบาบางเพียง 3,700 คนเท่านั้น  จึงไม่แออัด เต็มไปด้วยชีวิตเนิบช้า อากาศจากขุนเขาโปร่งโล่งสบาย มองเห็นยอดเขาหิมะไอเกอร์และเวทเทอร์ฮอร์น ป่าสน ทุ่งหญ้าเขียวขจี ท้องฟ้าสีคราม รวมถึงทุ่งดอกไม้หลากสี จึงเคยใช้เป็นที่ถ่ายทำหนังดัง Star Wars : Episode III - Revenge of the Sith

หมู่บ้านสไตล์สวิสแท้สร้างกระจายขึ้นไปตามเนินเขาคลุมด้วยทุ่งหญ้าเขียว

รถไฟไต่เขาพานักท่องเที่ยวจากเมืองเซอร์แมทขึ้นมาสู่กรินเดลวาลด์

โบสถ์ใหญ่ของกรินเดลวาลด์ มีหอคอยยอดแหลมเด่นเป็นเอกลักษณ์

คนที่ชอบกรินเดลวาลด์ต้องเป็นประเภทรักสงบ ไม่หลงแสงสี อยากหลีกหนีสังคมวุ่นวาย มีธรรมชาติสวย 4 ฤดูให้สัมผัส เพราะกรินเดลวาลด์ได้ฉายาว่าเป็น 1 ใน 4 สกีรีสอร์ตที่ดีที่สุดของสวิสแอลป์ (กรินเดลวาลด์ ดาวอส เซอร์แมท เซนต์มอริตซ์) ช่วงฤดูหนาวผู้คนจะมาเล่นสกี ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนเป็นสวรรค์ของคนชอบเดินป่าเที่ยวภูเขาสูง ชมทุ่งหญ้าป่าสน ทะเลสาบใสราวกับกระจก โดยเฉพาะที่ “ทะเลสาบบัคอัลป์เซ่” (Bachalpsee) ทัศนียภาพน่าตื่นตะลึง

หุบเขาเขียวขจีโอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมะตระหง่านคือที่ตั้งของกรินเดลวาลด์

ไอศกรีมอร่อยๆ ที่กรินเดลวาลด์ มาแล้วต้องชิมให้ได้

Getting there : ต้องเดินทาง 3 ทอด คือ (1) กรุงเทพฯ-เบิร์น โดยสายการบินต่างๆ (2) เบิร์น-อินเตอร์ลาเคน นั่งรถไฟ  ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ควรซื้อตั๋วรถไฟ Swiss Pass ไปจากเมืองไทย (3) นั่งรถไฟจากสถานีอินเตอร์ลาเคน ออส (Interlaken Ost) ไปหมู่บ้านกรินเดลวาลด์ รถไฟสาย Berner Oberland Bahn (BOB) ลงที่สถานี Grindelwald รถออกทุก 1-2 ชั่วโมง (www.myswitzerland.com)

★ Hallstatt เมืองแห่งภาพฝันที่มีอยู่จริง ★
นอกจากจะเป็นดินแดนแห่งดนตรีคลาสสิกสุดอมตะ และเป็นบ้านเกิดของศิลปินชื่อก้องโลกหลายคนแล้ว ออสเตรียยังเป็นเจ้าของเมืองสุดโรแมนติกที่โอบกอดด้วยทิวเขาและทะเลสาบ ชื่อว่า “ฮัลล์ชตัทท์” (Hallstatt) เมืองที่ UNESCO ยกย่องให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1997 ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ริมทะเลสาบสีเงินฮัลล์ชตัทเทอร์ (Hallstatter See) ในเขตซาลซ์คัมเมอร์กุท (Salzkammergut) ภูมิภาคสำคัญทางประวัติศาสตร์ของออสเตรีย

เมืองริมทะเลสาบในฝันที่มีอยู่จริง ฮัลล์ชตัทท์

หน้าบ้านสไตล์วินเทจ ให้อารมณ์ย้อนยุคสุดๆ

ของที่ระลึกน่ารักๆ พบได้ในร้าน Handmade ริมทะเลสาบ

ฮัลล์ชตัทท์เติบโตขึ้นจากเหมืองเกลืออันมีชื่อเสียงในอดีต ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวขนาดเล็ก ที่เคยเจอปัญหานักท่องเที่ยวล้น จนเมืองจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเหลือไม่เกิน 100 คนต่อวัน ทำให้ตัวเมืองเล็กๆ  ริมทะเลสาบสีฟ้าครามสดใสยังเก็บรักษาบรรยากาศเงียบสงบและวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้ได้ เมืองนี้จริงๆ มีขนาดเล็กจิ๋วแต่แจ๋ว เหมาะตื่นขึ้นมาบิดขี้เกียจ ละเมียดจิบกาแฟร้อนๆ  พร้อมอาหารเช้า แล้วออกไปเดินทอดน่องเนิบช้าชมหมู่บ้านสไตล์ยุโรปย้อนยุค บ้านเรือนสร้างด้วยหินและไม้ ส่วนพื้นทางเดินในหมู่บ้านปูลาดด้วยหินโบราณ เดินเล่นทักทายผู้คนไปจนถึงจัตุรัสกลาง (Town Square) ซึ่งมีน้ำพุอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยบ้านน่ารักๆ แล้วเดินต่อไปอีกนิดก็ถึงท่าเรือและโบสถ์ประจำเมือง (Hallstatt Lutheran Church) เป็นโบสถ์ยอดแหลมสูงทรงโกธิก มองจากมุมไหนของเมืองเห็นชัดเจน ไฮไลต์ของหมู่บ้านคือจุดชมวิวริมทะเลสาบ เดินออกไปไม่ไกลแล้วมองย้อนกลับเข้ามาจะเห็นหมู่บ้านที่มีโบสถ์ยอดแหลมตั้งอยู่ฝั่งด้านหนึ่งของทะเลสาบใสแจ๋วสีฟ้าครามราวกับภาพฝัน โดยมีภูเขาหิมะตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง จากนั้นนั่งรถกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปยังเหมืองเกลือโบราณบนภูเขาสูง 838 เมตร ย้อนอดีตจุดเริ่มต้นของเมือง โดยเที่ยวชมได้ระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคม

ความสงบร่มเย็นริมทะเลสาบ ทำให้หัวใจเบิกบาน

ว่ากันว่าเนยแข็งที่ฮัลล์ชตัทท์อร่อยไม่เป็นสองรองใคร

งานเป่าแก้วของศิลปินท้องถิ่น มีให้เลือกซื้อที่ฮัลล์ชตัทท์

Getting There : จากไทยบินตรงไปกรุงเวียนนา เมืองหลวงออสเตรีย เช่น Austrian Airlines (www.austrian.com) และ EVA Air (www.evaair.com/en-global/) แล้วนั่งรถไฟจากสถานี Westbahnhof ไปลงสถานี Hallstatt จากนั้นลงเรือข้ามฟากเข้าสู่ฮัลล์ชตัทท์ ตรวจสอบตารางและค่าโดยสารได้ที่ www.oebb.at/en ส่วนการท่องเที่ยวในเมืองนิยมใช้วิธีเดินเล่นชิลๆ

★ Sokcho สโลว์ไลฟ์ริมทะเลสวย ★
เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่คนไทยเรานิยมไปเที่ยวกันมากที่สุด เพราะมีความครบถ้วนหลากหลายของกิจกรรม ธรรมชาติ อาหาร และการชอปปิง หากใครเคยไปเที่ยวเมืองใหญ่ๆ อย่างโซลและปูซานกันจนปรุแล้ว ลองไปเที่ยวเมืองเล็กๆ น่ารักดูบ้างอย่าง “เมืองซกโช” (Sokcho) จังหวัดคังวอน (Gangwon-do) เป็นเมืองชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือเกือบจะสุดของประเทศ จึงมีนักท่องเที่ยวน้อย เงียบสงบ แต่อวลด้วยเสน่ห์เมืองประมงชายทะเลท้องถิ่นที่เหมาะต่อการไปพักผ่อน เดินทอดน่องชมวิถีชีวิตผู้คน  และอิ่มเอมกับสายลมทะเลเย็นสบายที่พัดผ่านจากทะเลแห่งญี่ปุ่น (Sea of Japan)

ท่าเรือประมงเมืองซกโช สงบงามตามแบบเมือง Slow Town

Landmark ริมทะเลที่ซกโช เป็นจุดทอดอารมณ์ชมวิวสุดชิล

นักดำน้ำหญิงวัยดึกกับหอยเป๋าฮื้อที่เพิ่งงมขึ้นมาสดๆ จากใต้ทะเล

ช่วงปี ค.ศ. 1905-1937 ซกโชเคยเป็นเมืองท่าประมงและขนส่งแร่ออกไปทางทะเลที่สำคัญ ทว่าหลังจากสงครามคาบสมุทรเกาหลีสงบลง เมืองนี้ก็กลายเป็นเมืองประมงระดับท้องถิ่นที่อุดมด้วยทรัพยากรทางทะเลนานาชนิด กุ้ง หอย ปู ปลา นำมาปรุงเป็นอาหารทะเลได้หลากหลาย โดยเฉพาะอาหาร Signature เป็นหมึกตัวใหญ่ยัดไส้ข้าวคลุกเครื่องเทศ นึ่งให้สุก จากนั้นตัดเป็นแว่นๆ จิ้มซอสเกาหลี คู่กับเครื่องดื่มยอดฮิตอย่างโซจู นอกจากนี้ริมทะเลซกโชยังมีเส้นทางเดิน ปั่นจักรยานชมวิวได้ทั้งวัน ผ่านตลาดปลา ท่าเรือ ลานตากหมึก และท่าเรือที่นักดำน้ำหญิงโดยไม่ใส่ถังออกซิเจน (ภาษาเกาหลีเรียกว่า “เฮียนโย”) นำซีฟู้ดที่จับได้มาเตรียมขาย จากนั้นเดินเล่นจนถึงร้านอาหารทะเลที่มีซีฟู้ดสดๆ เป็นๆ ให้เลือกปรุงกันได้เดี๋ยวนั้น อิ่มแล้วก็เดินสู่ศาลาชมวิวริมทะเล ฟังเสียงคลื่นสาดซัดกระทบโขดหินทรงแปลกตา นับเป็นความสุขเล็กๆ ในเมืองเล็กๆ ที่น่าจดจำไปอีกนาน

ชายหาดบางส่วนของซกโชมีโขดหินทรงประหลาดให้ชมกันด้วย

ปูแมงมุมน้ำลึกคือ Seafood ที่ห้ามพลาดชิมที่เมืองซกโช

ร้านอาหารทะเลที่ซกโชมี Seafood สดๆ เป็นๆ ให้เลือกนำไปปรุง

Getting There : เมืองซกโชอยู่ห่างจากกรุงโซล 158 กิโลเมตร แนะนำให้นั่งรถบัสประจำทางไปจะได้ชมวิวระหว่างทางด้วย ขึ้นรถที่ Dong Seoul Bus Terminal (Gangbyeon Station Line 2) รถออกทุก 30 นาที มีจอดให้เข้าห้องน้ำ 1 ครั้งที่ครึ่งทาง

★ Yufuin เมืองน้อยในอ้อมกอดขุนเขา ★
ท่ามกลางธรรมชาติสงบงามของจังหวัดโออิตะ (Oita Prefecture) บนเกาะคิวชู (Kyushu Island) ทางตอนใต้ของแดนอาทิตย์อุทัย มีหมู่บ้านเล็กๆ น่ารักแห่งหนึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดขุนเขา ป่าไม้ สายน้ำ เป็นหมู่บ้านที่ถูกแช่แข็งไว้ในกาลเวลา แม้โลกภายนอกจะเปลี่ยนไป แต่ “หมู่บ้านยูฟุอิน” (Yufuin) ก็ยังสงบงาม เหมือนเมื่อหลายร้อยปีก่อน นอกจากจะเป็นเมืองบ่อน้ำแร่ร้อนออนเซนแบบญี่ปุ่นขนานแท้แล้ว ยูฟุอินยังมีถนนคนเดินเล็กๆ กลางเมือง สองฝั่งมีเรือนไม้โบราณเรียงรายแต่ไม่ธรรมดา เพราะปรับโฉมมาขายสินค้าหลากชนิด โดยเฉพาะงานแฮนด์เมดและงานคราฟต์ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จาก Ghibli Studio เป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆ จากหนังหลายเรื่อง มีสินค้าเก๋ไก๋ของ Kitty รวมถึงร้านขนมเป็นร้อยร้านให้ชิมกันได้ไม่เบื่อ ตั้งแต่ขนมเซมเบ้ ซอฟต์ครีม, โครอกเก้ และร้านกาแฟ ILLY แสนอร่อย

หมู่บ้านยูฟุอินในฤดูใบไม้ร่วงงดงามเหมือนภาพวาด

ใกล้หมู่บ้านยูฟุอินมีทะเลสาบสุดโรแมนติกให้ชมกันด้วย

ยูฟุอินเมืองน้อยน่ารักที่เงียบสงบสมเป็นเมือง Slow Town

พออิ่มแล้วก็ไปเดินเที่ยวชมทะเลสาบคินริน (Kinrin-ko) และภูเขาไฟยูฟุ (Mt.Yufu) ที่ยืนตระหง่านอยู่ใกล้หมู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีบริการนำเที่ยวสุดพิเศษ Seven Stars in Kyushu เป็นรถไฟท่องเที่ยว Cruise Train ทั่วเกาะคิวชู โดยยูฟุอินเป็นหนึ่งในจุดแวะด้วย (www.cruisetrain-sevenstars.jp/en)

ถนนคนเดินกลางหมู่บ้านยูฟุอินคือความเนิบช้าที่น่าหลงใหล

มุมสีสันสดใสมีให้ถ่ายภาพกันได้ไม่รู้จบที่ยูฟุอิน

ยูฟุอินหมู่บ้านเก่าย้อนยุคตามแบบญี่ปุ่นแท้ๆ

Getting There : จากเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) ใช้บริการรถไฟสะดวกรวดเร็วที่สุด ประมาณ 2.10 ชั่วโมง ขบวน Yufu เป็นรถไฟ Limited Express ธรรมดา กับรถไฟท่องเที่ยวพิเศษสาย Yufuin no Mori หรือใช้ Japan Rail Pass (JR Pass) ได้ (สำรองที่นั่ง www.japanrailpass.net/en/ และ www.jrpass.com)

Tag: Far Away, สถานที่ท่องเที่ยว