เข้าคาเฟ่เดี๋ยวนี้มักมีชื่อแปลกๆ ในเมนูที่ไม่รู้จะออกเสียงยังไง เรามาทำความรู้จักกันสักเมนูสองเมนูดีกว่าเผื่อคราวหน้าจะได้สั่งอย่างมั่นใจ “Einspänner” อ่านว่า ไอน์-ส-แปน-เนอร์ เป็นกาแฟสูตรคลาสสิกตำรับเวียนนา ทำจากเอสเพรสโซและวิปครีมปริมาณมากท็อปด้านบน (บางร้านอาจเรียกเมนูนี้ว่า Viennese Coffee) ชื่อนี้มีที่มาจากรถเทียมม้าขนาดเล็กที่ทำหน้าที่เหมือนรถแท็กซี่ในสมัยก่อน ว่ากันว่ากาแฟสูตรนี้เป็นสูตรมราเหมาะสำหรับคนขับรถม้า ซึ่งฟังดูเหตุผลก็น่าเชื่อถือ เพราะชั้นของวิปครีมหนาๆ จะช่วยรักษาความอุ่นของกาแฟให้อยู่ในอากาศหนาวๆ ได้นานขึ้น และยังป้องกันไม่ให้กาแฟกระฉอกได้อีกด้วย
ไอน์สแปนเนอร์มักเสิร์ฟในแก้วใสทรงสูงโชว์ให้เห็นชั้นของกาแฟและวิปครีม บางทีก็แต่งเป็นทรงเกลียวสวยงาม อาจโรยหน้าด้วยผงโกโก้หรือน้ำตาลไอซิ่ง วิธีดื่มแบบดั้งเดิมคือไม่ต้องคน แต่ให้ค่อยๆ จิบให้กาแฟร้อนๆ ไหลผ่านโฟมวิปครีมเย็นๆ เพื่อให้อุณหภูมิพอเหมาะเวลาดื่ม อาจมีหนวดวิปครีมติดเหนือริมฝีปากนิดหน่อยพอน่ารัก
กาแฟสูตรนี้พบได้ทั่วไปในร้านกาแฟตำรับเวียนนา แต่เริ่มเป็นที่นิยมในบ้านเราผ่านร้านกาแฟสไตล์เกาหลีที่นำมาดัดแปลงหน้าตาให้ดูมินิมอล กาแฟสูตรคลาสสิกนี้จึงได้กลับมาเป็นเมนูฮิตอีกครั้ง
นอกจากไอน์สแปนเนอร์แล้ว อีกเมนูที่มักเห็นคู่กันคือ Kapuziner อ่านว่า คา-ปุช-ซิ-เนอร์ ซึ่งเป็นกาแฟตำรับออสเตรียเหมือนกัน มีส่วนผสมของเอสเพรสโซและวิปครีมเหมือนกันแต่จะใส่วิปครีมน้อยกว่าไอน์สแปนเนอร์ โรยหน้าด้วยผงโกโก้ เครื่องเทศ หรือช็อกโกแลตขูด คาปุชซิเนอร์เป็นเหมือนบรรพบุรุษของคาปุชชิโนที่เราดื่มกันทุกวันนี้ ซึ่งสูตรของกาแฟคาปุชชิโนยุคปัจจุบันถือกำเนิดจากอิตาลีโดยเปลี่ยนมาใช้ฟองนมแทนวิปครีม ที่มาของชื่อคาปุชซิเนอร์นั้นว่ากันว่าเป็นเพราะสีของเครื่องดื่มแก้วนี้มีสีน้ำตาลเข้มแบบเดียวกับสีของเสื้อคลุมของนักบวชคาปุชชิน (Capuchin) แห่งกรุงเวียนนานั่นเอง
Tag:
กาแฟ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น