หลังเปิดตัวไม่นาน PAAK (ผัก) แบรนด์ที่เรียกตัวเองว่า Vegetable Café and Bar ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการ The Commons ศาลาแดงก็เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ไม่เพียงสไตล์การตกแต่งร้านที่ดึงดูดสายตา แต่เมื่อได้ชิมรสชาติแล้วแม้แต่คนไม่ปลื้มผักยังต้องเปลี่ยนใจ เราจึงไม่พลาดโอกาสขอสัมภาษณ์ “คุณธีรภัทร์ วงษ์เชิดขวัญ” 1 ใน 4 ของหุ้นส่วนถึงคอนเซ็ปต์ร้านน้ำผักสุดครีเอตแห่งนี้

“ผมกับเพื่อน (หุ้นส่วน) ทั้ง 4 คนมีไอเดียอยากทำ Lifestyle Café ที่ไม่ใช่ร้านชาหรือกาแฟ แต่เป็นคาเฟ่ทางเลือกที่แตกต่างและดีต่อสุขภาพ แม้ตลาดเครื่องดื่มในวันนี้จะดูเหมือนชานมและกาแฟครองใจลูกค้าส่วนใหญ่ไปแล้ว แต่เทรนด์อาหารเพื่อสุขภาพก็ได้รับความนิยมไม่น้อยหน้า เราจึงมองเห็นโอกาสในการลงทุน   ประกอบกับหุ้นส่วนแต่ละคนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทั้งการสร้างแบรนด์  การตลาดและการขาย การออกแบบ และการบริหารจัดการ ทำให้ระดมความคิดเห็นได้อย่างหลากหลาย ซึ่งในที่สุดก็ตกผลึกที่ ‘ผัก’

“นอกจากนี้เรายังได้ดึงตัวเชฟนิค-วิพิทธิจักษ์ พิทยานนท์ Food Designer ชื่อดังเข้ามาร่วมงานด้วย  เมื่อทีมพร้อมการออกแบบแบรนด์และครีเอตเมนูก็เริ่มขึ้น เราคิดค้นและทดลองสูตรนานนับปีจนได้บทสรุปของรสชาติที่ลงตัว เน้นเมนูเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมหลักจากผัก ได้แก่ น้ำปั่นที่ดื่ม 1 แก้วเหมือนกินสลัดไปทั้งจาน และน้ำผักสกัดเย็นที่เป็นไฮไลต์ของร้าน เพราะไม่ใส่ทั้งน้ำและน้ำตาล ลูกค้าจึงกินผักผลไม้ได้อย่างเต็มที่ ปิดท้ายด้วยค็อกเทลหลากสีสันชวนดื่ม ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ของคนไม่ชอบผักแต่รักสุขภาพ”

คุณธีรภัทร์ยังเล่าถึงเหตุผลที่เลือกชูผักไทยเป็นหลัก เพราะมองว่าวัตถุดิบของไทยมีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ และไม่เพียงคนไทยที่ชื่นชอบ ชาวต่างชาติก็นิยมเช่นเดียวกัน อย่างเช่นกระแสความนิยมผักชีไทยของคนญี่ปุ่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน มีการนำไปสร้างสรรค์เมนูได้อย่างหลากหลายทั้งคาวหวาน หรือแม้กระทั่งมีการจัดงานเทศกาลผักชีในประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว สำหรับที่ร้าน PAAK ก็มีการนำผักชีมาทำเมนูหลายอย่าง อาทิ  Mangoriander น้ำปั่นที่มีส่วนผสมของผักชี มะม่วง และอะโวคาโด รสชาติออกหวานมันและมีกลิ่นหอมสดชื่นของผักชี

ไม่เพียงกระแสความนิยมของผักชี แต่ยังมีผักและผลไม้ไทยอีกหลายชนิดที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากเชฟชื่อดังจากหลายชาติที่สนุกกับการเลือกหยิบจับไปมิกซ์แอนด์แมตช์เข้ากับเมนูชาติของตนจนออกมาเป็นเมนูที่โดดเด่นน่าลิ้มลอง ซึ่งคุณธีรภัทร์ย้ำว่าถือเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่ต้องช่วยกันยกระดับวัตถุดิบของไทย ควบคู่ไปกับเทคนิคการผสมผสานของรสชาติที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าจนอยากกินซ้ำ

ส่วนที่มาของชื่อร้านเป็นชื่อที่ผ่านการโหวตจากหลายชื่อเพราะสามารถสื่อถึงสินค้าได้ตรงที่สุด คนไทยเข้าใจง่าย ในขณะที่คนต่างชาติก็ได้เรียนรู้ว่า “ผัก” ในภาษาไทยคือ “Vegetable” ในภาษาอังกฤษ ถือเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ผักไทยในอนาคต เพราะในแผนธุรกิจยังมองถึงโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ ทุกสิ่งจึงถูกคิดไว้รอบด้าน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ชื่อร้านแต่ยังรวมถึงการตกแต่ง การออกแบบโลโก้ การเลือกโทนสีที่เน้นความเป็นสากล รูปแบบประชาสัมพันธ์หรือโปรโมชันต่างๆ ซึ่งจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด

“เราอยากได้คาแรกเตอร์ที่แตกต่าง ใครเดินผ่านจะต้องหยุดมองว่าร้านนี้ขายอะไร (ยิ้ม) ดีไซน์จึงต้องสะดุดตา ส่วนเมนูก็ต้องชวนให้อยากลิ้มลอง เมื่อลองแล้วติดใจจะทำให้อยากซื้อซ้ำ ตรงนี้คือหัวใจของร้าน เรายังอยากให้ร้านนี้เป็นร้านสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่เฉพาะคนรักสุขภาพหรือลูกค้าผู้หญิงเท่านั้น เพราะผู้ชายสไตล์เฮลท์ตี้ก็มีมากขึ้น เด็กยุคใหม่ที่ชอบกินผักก็มีมากขึ้นเช่นเดียวกัน”

นอกจากสินค้าหลักอย่างเครื่องดื่มทางร้านยังเพิ่มไลน์อาหาร Healthy Bowl เข้ามาเสริมเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า เริ่มตั้งแต่มื้อสำคัญยามเช้า ไม่เพียงดื่มน้ำผัก แต่ยังมีจานหลักให้อิ่มท้องควบคู่กัน ซึ่งเชฟนิคได้ครีเอตเมนูอาหารที่ยังคงคอนเซ็ปต์มีผักเป็นวัตถุดิบหลักในทุกเมนู เช่น สลัด ข้าวผัดควินัว ข้าวไก่ซูวีดเทอริยากิ ซุปผัก เป็นต้น ลูกค้าจะได้สนุกไปกับการจับคู่อาหารกับเครื่องดื่ม พร้อมทั้งเพลิดเพลินไปกับการถ่ายรูปอาหารจานสวยในสไตล์เชฟนิคแชร์ลงโซเชียลด้วย

อย่างไรก็ตาม การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักยังต้องผ่านบททดสอบอีกมากมาย แต่วันนี้ PAAK ก็ได้เข้าไปนั่งอยู่ในใจของลูกค้าหลายกลุ่ม มีการแชร์และแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมายในโลกโซเชียล ซึ่งทางร้านก็ได้นำข้อมูลต่างๆ ไปปรับปรุงและต่อยอด รวมถึงคิดค้นพัฒนาสูตรเครื่องดื่มและอาหารจานใหม่อยู่เสมอ เพราะนอกจากจะผูกใจลูกค้าเก่ายังสามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ให้เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

คุณธีรภัทร์กล่าวทิ้งท้ายว่า “เราอยากเปลี่ยนความเคยชินของคนทั่วไปให้ดื่มน้ำผักในชีวิตประจำวันเหมือนกับการดื่มชาและกาแฟโดยไม่รู้สึกว่าต้องดื่มด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพอย่างเดียว แม้เป็นโจทย์ที่ยาก แต่คือความท้าทายและเป็นเป้าหมายของเรา”

หลังจากได้ลองดื่มแล้ว อยากบอกว่า PAAK เปลี่ยนใจคนไม่ชอบกินผักได้คนหนึ่งแล้วล่ะ

พิกัด : PAAK ชั้น 2 โครงการ The Commons ศาลาแดง
เปิดบริการ 08.30-22.00 น.
โทร. 08-1857-8874
Delivery ผ่านช่องทาง Grab, Line Man และ Line : @paak

Tag: Food in Biz