นอกจากแตงกวา มะเขือเทศ น้ำผึ้ง หรือเบอร์รีต่างๆ ที่หลายคนคุ้นเคยว่าเป็นอาหารช่วยเพิ่มความสวยแล้วยังมีอาหารจากธรรมชาติอีกมากมายที่แอบซ่อนสารอาหารและประสิทธิภาพในการเสริมสร้างความสวยและความเยาว์วัยให้สาวๆ (และหนุ่มๆ) ทั้งผิวพรรณ เส้นผม ดวงตา ริมฝีปาก ไปจนถึงปลายเล็บ
เริ่มจากเรื่องของการบำรุง “ผิว” (Skin) ที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ แม้การใช้ครีมหรือเซรั่มบำรุงผิวจะเป็นการแก้ปัญหาผิวที่สาวๆ หลายคนพึ่งพา แต่การกินอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวเป็นประจำก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำได้ง่ายๆ เช่นกัน ลองมองหาผลไม้อย่าง “ลูกฟิก” (Figs) ที่เต็มไปด้วยเส้นใยอาหารซึ่งช่วยในการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย จึงช่วยให้สุขภาพผิวสดใสเปล่งปลั่งจากภายใน (แต่ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะลูกฟิกมีน้ำตาลค่อนข้างสูง) และ “ลูกแพร์” (Pears) ที่มีไฟเบอร์สูง ลดการอักเสบและช่วยผลัดเซลล์ผิว อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่ช่วยชะลอวัย รวมทั้ง “กีวี” (Kiwis) ที่มีวิตามินซีสูงเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน อีกทั้งยังมีวิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ผิวไม่ให้ถูกทำลาย
ส่วนใครชอบกิน “มันหวาน” (Sweet Potatoes) ก็ยิ้มกันได้เลย เพราะมันแสนอร่อยนี้อุดมด้วยวิตามินเอและวิตามินซี ช่วยกระตุ้นการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวสดใส ไม่ขาดชีวิตชีวา เช่นเดียวกับ “อะโวคาโด” (Avocados) ที่มีวิตามินอีมาก ช่วยทำให้ผิวแข็งแรงและคงความอ่อนเยาว์ ส่วนคนชอบกินผักแนะนำให้หยิบ “ผักโขม” (Spinach) ผักที่เต็มไปด้วยวิตามินเอและวิตามินซีและช่วยสร้างคอลลาเจนในร่างกายมาเป็นส่วนผสมในเมนูเด็ดหรือสมูทตีแก้วโปรด
มาถึงการบำรุง “ผม” (Hair) กันบ้าง นอกจาก “มะพร้าว” (Coconuts) จะเป็นผลไม้ที่ดีกับผิวแล้ว “น้ำมันมะพร้าว” (Coconuts Oil) ยังเป็นผู้ช่วยบำรุงผิวชั้นเลิศที่มีทั้งไขมันดี วิตามินอี วิตามินเค และแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงเป็นประกาย ไม่หลุดร่วงง่าย ส่วน “พริกหวานสีแดง” (Red Bell Peppers) คือผักที่มีคอลลาเจนและวิตามินซีมากกว่าที่หลายคนคิด ช่วยให้ผมไม่แห้งเปราะหรือขาดความแวววาว
สำหรับคนรักถั่ว “วอลนัต” (Walnuts) คือถั่วที่มีโปรตีนและโอเมกาสูง รวมทั้งมีไบโอตินซึ่งช่วยให้เส้นผมไม่แห้ง อ่อนแอ และเปราะขาดง่าย รวมทั้ง “โฮลเกรน” (Whole Grains) ธัญพืชต่างๆ ที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสีเหล่านี้ก็อุดมด้วยวิตามินบีและไบโอตินที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเส้นผม และสังกะสีที่ลดอาการหนังศีรษะแห้งและผมหลุดร่วง
มาถึงการบำรุงหน้าต่างของหัวใจอย่าง “ดวงตา” (Eyes) ให้คงความสดใสแข็งแรงกันบ้าง หลายคนคงรู้ว่า “แครอต” (Carrots) ผักที่อุดมไปด้วยวิตามินเอและเบตา-แคโรทีนนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นต้อและจอประสาทตาเสื่อม แถมยังหาซื้อง่าย เหมาะนำมาทำสลัดและเมนูจานโปรดต่างๆ ส่วน “อัลมอนด์” (Almonds) คือหนึ่งในถั่วมากคุณประโยชน์ที่ดีช่วยบำรุงสายตาเพราะมีวิตามินอีสูง รวมทั้ง “ผักใบเขียว” (Leafy Green Vegetables) ต่างๆ อาทิ เคล (Kale), บรอกโคลี (Broccoli) และ “ผักโขม” (Spinach) ที่เต็มไปด้วยสารลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) ที่ดีต่อสายตา
หากพูดถึงอาหารที่ช่วยบำรุง “ริมฝีปาก” (Lips) หลายคนอาจนึกไม่ถึงผลไม้ที่เราคุ้นเคยและกินกันเป็นประจำอย่าง “แตงโม” (Watermelon) ที่มีส่วนประกอบของน้ำถึง 97 เปอร์เซ็นต์นั้นช่วยเติมความชุ่มชื้น อีกทั้งยังช่วยให้ริมฝีปากเป็นสีชมพูสวย ส่วน “บีตรูต” (Beetroot) คือหนึ่งในซูเปอร์ฟู้ดที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยไม่ให้ริมฝีปากคล้ำและเหี่ยวย่น และ “โยเกิร์ต” (Yoghurt) เมนูโปรดของสายเฮลท์ตี้ที่นอกจากจะมีโปรตีนสูงแล้วยังช่วยให้เม็ดสีบนริมฝีปากของเราชัดสวยอีกด้วย
ปิดท้ายกับความสวยงามของ “เล็บ” (Nails) หนึ่งในอวัยวะที่สาวๆ ให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน อาหารบำรุงเล็บมีให้เลือกกินหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ไข่” (Eggs) ที่มีทั้งโปรตีน เหล็ก วิตามินบี 12 และไบโอตินที่ช่วยให้เนื้อเล็บหนาและแข็งแรง “แซลมอน” (Salmon) ที่มีโปรตีนและสังกะสี ช่วยสร้างคอลลาเจนเสริมสร้างเล็บให้แข็งแรง และ “ถั่วบราซิล” (Brazil Nuts) ที่เต็มไปด้วยซีลีเนียม สังกะสี วิตามินบี และวิตามินอี หากกินเป็นประจำจะช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรงเช่นกัน
Tag:
Cover story
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น