พิซซาเป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดในทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี และเป็นหนึ่งในอาหารสุดโปรดปรานของคนทั่วโลก แต่พิซซาที่เราคุ้นเคยกันในทุกวันนี้ มีหน้าตาและส่วนผสมที่แตกต่างจากพิซซาต้นตำรับ หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินหัวข้อที่ผู้คนถกเถียงกันไม่มีวันจบว่า พิซซาควรมีสับปะรดหรือเปล่า? หากไปถามชาวอิตาลีพวกเขาต้องส่ายหัวเป็นแน่

ย้อนหลับไปราว ๆ ศตวรรษที่ 18 ณ เมือง เนเปิลส์ หรือ นาโปลี ทางตอนใต้ของอิตาลี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งต้นกำเนิดของพิซซา เพราะแต่ก่อน ผู้คนในแถบนั้นมักจะอบขนมปังในเตาฟืนโบราณ แล้วหยิบจับวัตถุดิบที่หาได้ง่ายอย่างมะเขือเทศและสมุนไพรมาวางบนขนมปังแผ่นแบน ๆ แล้วนำไปอบ

ในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อสมเด็จพระราชินีมาร์การิต้าแห่งราชอาณาจักรอิตาลีเสด็จเยือนเมืองเนเปิลส์ คนทำพิซซาผู้มีนามว่า ราฟาเอล เอสโปสิโต จึงได้โอกาสทำพิซซาถวาย โดยมีส่วนประกอบที่เรียบง่าย 3 อย่าง ได้แก่ ซอสมะเขือเทศ มอสซาเรลล่าชีส และใบโหระพา โดยใช้ชื่อว่า ”พิซซามาร์การิต้า” โดยสีแดงจากมะเขือเทศ สีขาวจากชีส ลีเขียวจากโหระพา รวมกันแล้วบ่งบอกถึงธงชาติสามสีของอิตาลีได้อีกด้วย

จะเห็นได้ว่าพิซซาแบบฉบับต้นตำรับนั้น จะโดดเด่นด้วยเนื้อแป้งบางและค่อนข้างกรอบ มาพร้อมท็อปปิ้งเบาๆ

ส่วนพิซซาที่เรากินกันในปัจจุบัน สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมอาหารอเมริกันเต็ม ๆ จากจุดเริ่มต้นที่มีเพียงซอสมะเขือเทศ ชีส และใบโหระพา ก็เริ่มมีเนื้อสัตว์เข้ามาสร้างสีสัน ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ แฮม ซีฟู้ด และเปปเปอโรนี หรือบางหน้าอย่าง พิซซาหน้าฮาวาเอี้ยน ก็ใส่สับปะรดเพื่อเพิ่มรสชาติ และพิซซาหน้าชีส ที่จัดเต็มกับชีสยืดๆ หลากหลายชนิด

นอกเหนือจากนั้น แป้งพิซซาก็มีตั้งแต่บางกรอบไปจนถึงหนานุ่ม และเพิ่มลูกเล่นตรงขอบของพิซซาเข้าไปอีก เช่น ขอบชีส และขอบไส้กรอก

แต่ไม่ว่าจะเป็นพิซซาตำรับไหน ก็ยังได้ใจคนจากทั่วโลกอยู่ดี

Tag: , พิซซ่า, อาหารอิตาเลียน,