มุ่งหน้าสู่แดนพระปฐมเจดีย์ที่รุ่มรวยด้วยวิถีชีวิตเรียบง่ายภายใต้อ้อมกอดของธรรมชาติสีเขียวบริสุทธิ์ ชาวสวนชาวไร่ในจังหวัดนครปฐมนั้นหันมาพึ่งการทำเกษตรอินทรีย์มากขึ้นในช่วงเวลา 1 ทศวรรษที่ผ่านมา พลิกฟื้นผืนดินที่เคยปนเปื้อนด้วยสารเคมีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ประโยชน์ทางการเกษตร แต่ยังส่งต่อถึงการท่องเที่ยวสีเขียวที่เริ่มมีกระแสมากขึ้นเรื่อยๆ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงเหมาะมากที่จะพากันเข้าสวนไปเรียนรู้วิถีเกษตรอินทรีย์กันสักหน่อย
สวนสามพราน ต้อนรับเราด้วยร่มเงาของไม้ใหญ่ตั้งแต่หน้าประตู แม้ภาพความทรงจำของที่นี่จะเป็นโรงแรมที่โด่งดังที่สุดในอำเภอสามพรานเป็นเวลามากว่าครึ่งศตวรรษ ตั้งแต่ยังใช้ชื่อว่า “โรสการ์เดน” แต่เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมานี้สวนสามพรานกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ “สามพรานโมเดล” ธุรกิจขับเคลื่อนการทำเกษตรอินทรีย์และสร้างการค้าที่เป็นธรรมให้แก่เกษตรกรในจังหวัดนครปฐม จนทุกวันนี้กลายเป็นเครือข่ายใหญ่รวบรวมเกษตรกรทั่วจังหวัดไว้มากกว่า 16 กลุ่ม
ตลาดสุขใจ ในเช้าวันเสาร์นั้นคึกคักไปทั่วพื้นที่ด้วยเสียงจอแจจากเหล่าพ่อค้าแม่ค้า เราตื่นตาตื่นใจไปกับผู้คนมากหน้าหลายตาที่มาเดินเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอินทรีย์ หรือคำที่เราคุ้นหูว่าออร์แกนิก ตลาดเกษตรอินทรีย์แห่งนี้เกิดขึ้นมาเมื่อ 10 ปีก่อนในพื้นที่สวนสามพราน ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่แห่งความผูกพันระหว่างเกษตรกรกับลูกค้าประจำที่จะพบปะกันทุกเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ “ลูกค้าประจำของตลาดสุขใจจะมาในช่วงเช้าวันเสาร์ คนจึงเยอะกว่าเช้าวันอาทิตย์ที่จะมีแต่นักท่องเที่ยว” คุณอรุษ นวราช ผู้บริหารสวนสามพรานบอกกับเรา นอกจากสินค้าจำพวกผักและข้าวปลอดสารพิษแล้วยังละลานตาไปด้วยของกินที่ชูความเป็นออร์แกนิกไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เช่น ลูกชิ้นปิ้งหมูหลุมออร์แกนิก เมี่ยงกลีบบัวหลวง น้ำมะเฟืองหวานสกัดเย็น และไอศกรีมมะพร้าวออร์แกนิก
หากจะไปให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของสามพรานโมเดลจริงๆ ต้องนั่งเรือข้ามฟากไปเยือนปฐม ออร์แกนิก ฟาร์ม สวนเกษตรขนาด 30 ไร่ ตั้งอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำท่าจีน ตรงข้ามโรงแรมสามพราน ริเวอร์ไซด์ จากท่าเรือของโรงแรมเรามองเห็นเรือไม้ขนาดใหญ่จอดเทียบท่าเป็นสัญญาณว่าพร้อมแล้วที่จะรอรับส่งนักท่องเที่ยวเข้าชมสวนบนอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ
“เด็ดใส่ตะกร้าได้เลยนะครับ” เสียงจากทีมงานดูแลสวนผู้นำสำรวจแหล่งการเรียนรู้กลางแจ้งบอกกับเรา พร้อมแนะนำแปลงผักต่างๆ ตลอดสองข้างทางเดิน แล้วพาเราเข้าไปเด็ดผักสวนครัวใส่ตะกร้าอย่างไม่มีหวงทั้งผักบุ้ง พริกขี้หนู มะเขือยาว ถั่วพู กะเพรา โหระพา และอีกสารพัดผักจนเราเลือกกันไม่ถูก เมื่อเด็ดผักเสร็จเราก็ขนมาปรุงอาหารมื้อกลางวันกันเองที่บริเวณระเบียงไม้ซึ่งมีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ช่วยบดบังความร้อนจากแสงแดดตอนเที่ยงวัน ทุกคนดูตื่นเต้น เพราะต้องใช้เตาถ่านในการทำอาหาร แต่เมนูผัดผักบุ้งไฟแดง แกงส้มผักรวมในหม้อดินเผา และส้มตำปลาร้าก็ออกมาหน้าตาน่ากินไม่น้อย
อีกครึ่งวันที่เหลือเรานั่งเรือข้ามฟากกลับมาที่เดิมแล้วตรงไปยังปฐม ออร์แกนิก วิลเลจ หมู่บ้านเล็กๆ ในพื้นที่ของสวนสามพรานที่มีกิจกรรมน่าสนใจ เช่น การทำผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ การทำลูกประคบสมุนไพร ไม่ไกลจากตรงนี้จะมองเห็นคาเฟ่เรือนกระจก ปฐม ออร์แกนิก คาเฟ่ ตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ ผนังกระจกสะท้อนภาพท้องฟ้าสีฟ้ากับก้อนเมฆสีขาว เราลงความเห็นว่านอกจากจะเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยมแล้วยังเป็นสถานที่หลบร้อนพร้อมเครื่องดื่มเย็นๆ ที่ดีที่สุดในช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ เช่นนี้ แถมในร้านยังมีผลิตภัณฑ์สกินแคร์แบรนด์ปฐมซึ่งผลิตจากวัตถุดิบออร์แกนิกวางจำหน่ายให้เลือกชมเลือกซื้อกันอีกด้วย
ตกเย็นเรามุ่งหน้าไปยังท่าเรือวัดท่าพูดเพื่อนั่งเรือชมแม่น้ำท่าจีนในยามเย็นก่อนจะหยุดเทียบท่าที่ อ้อยหวาน ร้านอาหารไทยโบราณบรรยากาศดีริมแม่น้ำ อาหารแต่ละจานเน้นใช้วัตถุดิบออร์แกนิกและพิถีพิถันในทุกขั้นตอน เมนูที่โดดเด่นและแปลกใหม่ที่สุดคงหนีไม่พ้นน้ำพริกสมุนไพรกล้วยไข่ นำสมุนไพรกว่า 20 ชนิดมาโขลกรวมกันแล้วใส่กล้วยไข่ลงไปจนได้รสชาติกลมกล่อม เนื้อสัมผัสนวลเนียน รสชาติคล้ายน้ำพริกเผา กินกับผักพื้นบ้าน เป็นการปิดท้ายวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เราเริ่มต้นเช้าวันอาทิตย์อย่างไม่รีบร้อน แล้วค่อยมุ่งหน้าไปยัง Little Tree Garden คาเฟ่ในสวนสไตล์อังกฤษที่โด่งดังที่สุดในจังหวัดนครปฐม บรรดาต้นไม้สูงใหญ่และพรรณไม้สารพัดชนิดปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดจนเราสัมผัสได้ถึงโลกอีกใบที่แสนเงียบสงบ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อนั่งกินลมชมวิว แต่มาเพื่อเรียนรู้วิธีการดูแลไม้ใบสายพันธุ์ต่างๆ เช่น อโลคาเซีย, มอนสเตอร่า จินนี่ และฟิโลเดนดรอน เบอร์กิ้น พรรณไม้ตกแต่งบ้านที่กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบันกับคุณศิริวิทย์ ริ้วบำรุง เจ้าของและผู้ร่วมก่อตั้ง Little Tree Garden จนเมื่อเวลาล่วงเลยไปเกือบบ่ายโมงเราจึงได้ดื่มด่ำกับเมนูอาหารมื้อกลางวันที่มีเมนูขึ้นชื่ออย่างเมี่ยงดอกไม้ ไข่เจียวดอกโสน ยำหมูสามชั้นตะลิงปลิง แกงเขียวหวานซี่โครงหมูกรุบกะลา ดอกแคผัดกะปิสด หมูต้มเค็มคุณยาย และต้มยำเห็ดโคนญี่ปุ่น
ปิดท้ายทริปสีเขียวในจังหวัดนครปฐมกันที่อำเภอนครชัยศรี สวนส้มโอไทยทวี หนึ่งในสวนส้มโอที่มีอายุร่วม 50 ปี ปัจจุบันปรับเปลี่ยนเป็นสวนอินทรีย์และเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับส้มโอ โดยเฉพาะ “ขาวน้ำผึ้งหวานเปรี้ยว ทองดีหวานฉ่ำ ทับทิมสยามหวานเย็น” คำอธิบายสั้นๆ จากคุณธนกฤต ไทยทวี เจ้าของคนปัจจุบันของสวนส้มโอแห่งนี้ที่อธิบายความแตกต่างของส้มโอแต่ละสายพันธุ์ให้เราฟังอย่างกระชับ จากคนที่ไม่รู้อะไรมาก่อนอย่างเราก็ร้อง “อ๋อ” เข้าใจได้ในทันที ขณะที่พนักงานยกถาดส้มโอทั้ง 3 ชนิดมาให้เราได้ลิ้มลองรสชาติที่แตกต่าง ในฐานะที่เป็นแหล่งเรียนรู้สวนแห่งนี้จึงเปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งเรือชมร่องสวนอย่างใกล้ชิด เราได้แต่นั่งมองเด็กๆ ปั่นเรือถีบเล่นไปเรื่อยๆ ขณะที่นั่งตักยำส้มโอรสชาติจัดจ้านเข้าปากสลับกับก้มจิบน้ำมะพร้าวสดเย็นๆ ชื่นใจอยู่ริมระเบียง เพราะแสงแดดข้างนอกชายคานั้นร้อนเหลือเกิน
นครปฐมยังคงเป็นเพื่อนบ้านแสนน่ารักของกรุงเทพมหานครเสมอ แม้ว่าเวลาเพียง 2 วันจะน้อยเกินไปสำหรับการซึมซับบรรยากาศอย่างลึกซึ้ง แต่เราจะไปเยือนนครปฐมอีกร้อยรอบก็ย่อมทำได้ เพราะเราติดใจในความเรียบง่ายของผู้คนและเรือกสวนไร่นาเขียวชอุ่มของนครปฐมไปเสียแล้ว
Tag:
, travel, นครปฐม,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น