ชวนลิ้มลองอาหารฝรั่งเศส “เมนูใหม่” จากประสบการณ์ทำงานจากทั่วทุกมุมโลก ของเชฟเรมี เวอริเย่ (Remi Verrier)

วันที่ 12 มิถุนายน 2566  523 Views

TH
EN
CN

ชวนลิ้มลองอาหารฝรั่งเศส “เมนูใหม่” จากประสบการณ์ทำงานจากทั่วทุกมุมโลก ของเชฟเรมี เวอริเย่ (Remi Verrier)

เชฟเรมี เวอริเย่ (Remi Verrier) เชฟประจำห้องอาหาร ดิ อัลเลียม แบงค็อก ขอนำเสนออาหารฝรั่งเศสเมนูใหม่ล่าสุด ที่ได้รับแรงบัลดาลใจจากประสบการณ์การทำงานกับห้องอาหารไฟน์ไดนิ่งและห้องอาหารระดับมิชลินหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงความทรงจำวัยเด็กของเขาในประเทศฝรั่งเศส

เมนูมื้อกลางวัน 2 คอร์ส ราคา 850++ บาท/ท่าน, 3 คอร์ส ราคา 950++ บาท/ท่าน และมื้อค่ำ 6 คอร์ส ราคา 3,200++ บาท/ท่าน, 8 คอร์ส ราคา 3,900++ บาท/ท่าน  พร้อมบริการเมนูอะลาคาร์ท อีกทั้งสามารถเลือกจับคู่กับเครื่องดื่มแนะนำโดยซอมเมอลิเยร์ในราคา 2,000++ บาท/ท่าน

เริ่มที่เมนูมังสวิรัติเรียกน้ำย่อยที่คัดสรรผักสด ๆ จากสวนซึ่งนำมาปรุงหลากหลายวิธีตั้งแต่ต้ม, ผัด, ชุป, ย่าง พร้อมวัตถุดิบคุณภาพอื่น ๆ ทำให้ได้รสชาติที่หลากหลาย เชฟเรมีได้พัฒนาสูตรการปรุงเมนูผักในขณะร่วมงานภายใต้การดูแลของเชฟ อลัง ดูคาส (Alain Ducasse) เชฟชาวฝรั่งเศสชื่อดังระดับโลก ซึ่งเชฟเคยกล่าวไว้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรังสรรค์เมนูที่มีแต่ผักเท่านั้น โดยเมนูนี้เชฟเรมีจะให้คุณเข้าถึงรสชาติด้วยเครื่องปรุงอย่างริคอตต้า ครีม, เจลชา และผงมะกอกดำ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกินผักจากสวน

ต่อด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอีกจานอย่าง เค้กปูอลาสกา ซึ่งเป็นโครเมสควิส สไตล์ฝรั่งเศส เสิร์ฟคู่กับซุปข้าวโพด และเค้กปูอเมริกันที่เชฟเรมีชื่นชอบ โดยเชฟได้รังสรรค์ตอนทำงานที่ห้องอาหารไฟน์ไดนิ่งในมาเก๊า ซึ่งเป็นเมนูที่เชฟภูมิใจนำเสนอ ผ่านมุมมองของเขาที่ห้องอาหาร ดิ อัลเลียม ด้วยเนื้อสัมผัสและรสชาติของทั้ง 3 องค์ประกอบในจานนี้

นอกจากนั้นเชฟเรมียังสนใจความแตกต่างระหว่างวิธีการทำอาหารฝรั่งเศสและอาหารญี่ปุ่น ในขณะที่อาหารฝรั่งเศสใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวันเพื่อจะดึงรสชาติทั้งหมดของอาหารออกมา แต่อาหารญี่ปุ่นใช้เวลาในการเตรียมไม่นาน แต่ยังคงชูรสชาติของส่วนผสมจากธรรมชาติได้ดี แน่นอนว่าหนึ่งในเมนูหลักเชฟเลือกใช้วัตถุดิบญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยมอย่างปลาอะมาได หรือ ปลาทิลฟิช ซึ่งเชฟตั้งใจปรุงแบบบางเบา เพื่อให้ได้สัมผัสรสชาติของเนื้อปลาอย่างเต็มคำ พร้อมเสิร์ฟกับผักอองดีฟที่เป็นผักรสขมเล็กน้อย อีกทั้งเป็นผักที่เชฟชื่นชอบ โดยเพิ่มรสชาติด้วยน้ำผึ้ง ท็อปด้วยจุดจากถั่วเขียวและแครอท กินคู่กับพูเรหัวขึ้นฉ่ายฝรั่ง ที่สามารถตัดความขมได้เป็นอย่างดี เมนูนี้ยังแสดงถึง Terre et Mer ซึ่งเป็นปรัชญาของอาหารฝรั่งเศสที่หมายถึง "ผืนดินและท้องทะเล" อีกด้วย

สำหรับเมนูจานหลักถัดมา ได้แก่ นกพิราบสไตล์ฝรั่งเศส เสิร์ฟคู่กับฟัวกราส์ เมนูสุดคลาสสิกที่ได้รับแรงบัลดาลใจจากเมนูเนื้อสไตล์รอสซินี่ ซึ่งเป็นสเต็กฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมจากห้องอาหารระดับมิชลิน 2 ดาว แห่งแรกที่เชฟเรมีได้ทำงานด้วย โดยเชฟเลือกใช้นกพิราบฝรั่งเศสแทนเนื้อซึ่งถือว่าเป็น “dish of skill” คือเป็นเมนูปราบเซียนในช่วงศตวรรษที่ 18 ของฝรั่งเศส ที่เชฟต้องแสดงทักษะความสามารถอย่างยิ่ง" เมนูนี้ยังเป็นเมนู " Zero Waste" คือไม่มีวัตถุดิบใด ๆ เหลือทิ้งเลย แม้กระทั่งกระดูก เชฟก็นำมาเป็นส่วนผสมของซอสเชอร์รี่ โดยใช้เวลาเคี่ยวนานถึง 48-72 ชั่วโมงในการดึงรสชาติออกมา

เมนูใหม่พร้อมให้บริการแล้ว สำหรับมื้อกลางวัน เวลา 11.30 น. – 14.30 น. และมื้อค่ำเวลา 17.30 น. – 22.00 น.ที่ห้องอาหาร ดิ อัลเลียม แบงค็อก โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล

สมาชิกแอทธินี คลับ รับส่วนลด 20% ส่วนคลับแมริออท และแมริออท บอนวอยรับส่วนลด 10%

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร : 02 650 8800 อีเมล : fb.theathenee@luxurycollection.com หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ : www.thealliumbangkok.com


Tag : ห้องอาหาร, อาหารฝรั่งเศส, เมนูใหม่

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed