ซูม่า (Zuma) ห้องอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะร่วมสมัยยอดนิยมในกรุงเทพฯ ขอนำเสนออาหารมื้อกลางวันในสไตล์ ‘ดงบุริ’ เหมาะสำหรับท่านที่มีเวลาจำกัดแต่ยังคงต้องการอาหารกลางวันรสชาติอร่อย และปรุงจากวัตถุดิบระดับพรีเมียมแบบสดใหม่ทุก ๆ เมนู
ซินเซีย เปอร์นิชี (Cinzia Pernici) หัวหน้าเชฟผู้สร้างสรรค์แบบเมนูดงบุริทั้งหมดนี้กล่าวว่า ซูม่า ออกแบบอาหารแต่ละเมนูเพื่อให้เกิดการแบ่งปันบนโต๊ะในสไตล์อิซากายะ เป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาสนุกสนานระหว่างมื้อ ในขณะที่หลายคนมักใช้ช่วงเวลาระหว่างมื้อกลางวันเพื่อพูดคุยทางธุรกิจ หรือไม่ก็อัพเดทกันระหว่างเพื่อนร่วมงาน
“เรารังสรรค์แมนูอาหารกลางวันขึ้นมาใหม่หมด โดยให้คุณสามารถเลือกเมนูที่คุณชอบได้ตามต้องการ โดยในหนึ่งเซ็ต คุณสามารถเลือกอาหารเรียกน้ำย่อยได้ 2 รายการ และดงบุริเป็นจานหลักได้อีก 1 รายการ ซึ่งมีตัวเลือกให้คุณได้ลิ้มลองมากมาย” เชฟซินเซียกล่าว
เชฟซินเซียเลือกอาหารเรียกน้ำย่อยบางเมนูมาจากจานที่ขายดีของร้าน เช่น เกี๊ยวซ่าไส้ปลาค็อดและกุ้ง รวมถึงคิดค้นเมนูใหม่ที่จะทำให้มื้อกลางวันในครั้งนี้พิเศษกว่าที่ไหน เช่น เมนูย่างแบบยากิโทริ และเทมปุระกุ้งขาว เสิร์ฟพร้อมซอสรสชาติสดชื่น
“สำหรับเมนูมื้อกลางวันนี้ ที่เปลี่ยนแปลงชุดใหญ่เลยคือเมนูดงบุริ หรือข้าวหน้าต่าง ๆ โดยดิฉันใช้ประสบการณ์ที่สะสมมาตั้งแต่ทำงานอยู่ที่โตเกียว คนญี่ปุ่นชอบกินดงบุริ เป็นมื้อกลางวันมาก เพราะเร็ว ง่าย และมีตัวเลือกเยอะ เป้าหมายของเราคือการผสมผสานสไตล์ดงบุริให้เข้ากับรสชาติของซูม่าอย่างลงตัว” เชฟกล่าว
ความตื่นตาตื่นใจของมื้อกลางวันแบบดงบุริที่ทุกท่านจะได้พบ เริ่มตั้งแต่ เนื้อย่างราดซอสเผ็ด แซลมอนย่างราดซอสเทอริยากิ ปลาค็อดย่างแบบสุกกำลังดีราดซอสฉ่ำ ๆ รวมถึงปลาหิมะย่าง เชฟจะปรุงทุกเมนูด้วยความตั้งใจ แล้วเสิร์ฟบนข้าวร้อน ๆ แบบชามต่อชาม ส่วนใครที่อยากสัมผัสรสชาติแบบดั้งเดิม ก็สามารถสั่งข้าวหน้าไก่โชกายากิ หรือข้าวหน้าไก่เทอริยากิ ที่จะเสิร์ฟมาบนข้าวญี่ปุ่น โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย งา และพริกป่นญี่ปุ่นซึ่งช่วยเสริมให้รสชาติถูกปากคนไทยยิ่งขึ้น ยังมีข้าวหน้าซาชิมิอยู่ในลิสต์ให้เลือกสั่ง ครบถ้วนตามแบบฉบับอาหารญี่ปุ่นที่คุณกำลังมองหา
“ส่วนใครที่ติดใจรสชาติ ข้าวผัดทานากะ เมนูนี้ก็ยังมีจำหน่ายอยู่เช่นกัน สำหรับท่านที่รับประสานอาหารมังสวิรัติ เราก็มีเมนูเต้าหู้รมควันราดซอสมิโซะเผ็ดพร้อมให้บริการอีกด้วย จริง ๆ ในขั้นตอนของการคิดเมนูนี้ ฉันก็ยังสงสัยว่ารสชาติและหน้าตามันจะออกมาเป็นอย่างไร แต่พอได้ชิมเท่านั้น คำถามต่าง ๆ ก็หมดไปเลย เพราะเต้าหู้และข้าวญี่ปุ่นร้อน ๆ เข้ากันได้อย่างดี ผสมผสานกันลงตัวสุด ๆ ลองคิดถึงสัมผัสนุ่มละมุน และความชุ่มฉ่ำของเต้าหูราดซอสดูสิ ลองแล้วจะติดใจเลยล่ะ”
มื้อกลางวันสไตล์ ‘ดงบุริ’ ให้บริการทุกวันจันทร์ - วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 11.30 น. – 14.45 น. ในราคาเซ็ตละ 990++ บาท หนึ่งเซ็ตประกอบด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย 2 รายการ และข้าวดงบุริ 1 รายการ (เลือกได้จากเมนู) เสิร์ฟพร้อมซุปมิโสะ
Tag :
ห้องอาหารญี่ปุ่น, อาหารญี่ปุ่น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น