ห้องอาหารรางวัลดาวมิชลิน บลู บาย อลัง ดูคาส เฉลิมฉลองฤดูกาลใหม่กับเมนูอาหารที่สร้างสรรค์ด้วยแรงบันดาลใจจาก Cuisine du Soleil ที่มีสีสันและความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จากทางตอนใต้ของฝรั่งเศส พร้อมแพ็คเกจ Blue Journey – Sunset Experience เชิญชวนแขกที่มารับประทานอาหารให้ออกเดินทางไปค้นพบความสวยงามน่าประทับใจของแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมกับเมนูอาหารชั้นเลิศของทางร้าน
การสร้างสรรค์เมนูใหม่รายการล่าสุดของเอ็กเซคิวทีฟเชฟ วิลฟริด ฮ็อคเกต (Mr. Wilfrid Hocquet) เป็นการเดินทางกลับไปยังรากเหง้าของเชฟที่จะทำให้แขกที่มารับประทานอาหารรู้สึกกำลังว่าสัมผัสบรรยากาศที่สวยงามท่ามกลางแดดอุ่นในภาคใต้ของฝรั่งเศส ผ่านเมนูอาหารที่มาจากความทรงจำในวัยเด็กของเชฟและมรดกด้านอาหารอันรุ่มรวยประจำแคว้น แนวคิดของ Cuisine du Soleil คือการปรุงอาหารที่เรียบง่ายด้วยวัตถุดิบสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศ เลมอน น้ำมันมะกอก ถั่วลันเตา โรสแมรี และไทม์ ที่นำมาผสมผสานกับวัตถุดิบเฉพาะฤดูกาลไม่ว่าจะเป็นเนื้อลูกแกะนุ่มลิ้น เนื้อนกพิราบ ปลาเทอร์บอทเนื้อแน่น และกุ้งแลงกูสตีนสด ๆ
ไฮไลท์เมนูประจำฤดูกาลที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่มีตั้งแต่กุ้งแลงกูสตีนเสิร์ฟพร้อมแพร์และเลมอนเวอร์บีนา ซึ่งเป็นเมนูที่รวบรวมเอาวัตถุดิบที่สะท้อนถึงพืชพรรณในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงเห็ดมอเรลที่หาได้ยาก นอกจากนี้ยังมีเมนูที่ปรุงขึ้นจากหมึกหลากชนิดจากอ่าวไทยนำมายัดไส้ด้วยสมุนไพรกลิ่นหอมนานาชนิดจากเฟรนช์ริเวียร่า ซึ่งเป็นเมนูที่เชฟฮ็อคเกต ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความทรงจำในวัยเด็ก รวมไปถึงเมนูปลาเทอร์บอทฝรั่งเศสเสิร์ฟกับหน่อไม้ฝรั่งขาว และซอสซาบายอน พร้อมส้มโอสีชมพูของไทยที่ให้รสหวานอมเปรี้ยวเจือฝาดอย่างลงตัว
เมนูใหม่ยังมีเนื้อลูกแกะจากเทือกเขาพีเรนีสยัดไส้มะกอกทาเจียสกา เสิร์ฟคู่กับซอกก้ากรอบซึ่งเป็นเคร้ปถั่วชิกพีที่ขายตามท้องถนนในนีส นำมายัดไส้มะเขือยาว มะเขือเทศ และมิ้นต์ สุดท้ายคือพายนกพิราบหรือพิทิเวียร์สไตล์โมนาโกที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อระลึกถึงช่วงเวลาแห่งความทรงจำในอดีตช่วงที่เชฟวิลฟริดทำงานที่ห้องอาหาร Louis XV ในโมนาโกและมื้อกลางวันวันอาทิตย์ที่เชฟเคยทานกับคุณตาคุณยายในวัยเด็ก
ปิดท้ายมื้ออาหารสุดประทับใจกับชีสหลากชนิดที่คัดสรรมาอย่างดีจาก Les Frères Marchands ผู้ผลิตชีสที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส ของหวานที่สร้างสรรค์โดยเพสตรีเชฟคริสตอฟ กริโล ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยการนำช็อคโกแลตจากโรงงานผลิตของ อลัง ดูคาส ในปารีสมาผสมผสานกับพริกไทยดำพันธุ์กัมปอตจากผู้ปลูกชาวฝรั่งเศสที่เชฟคริสตอฟได้รู้จักระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวทั่วกัมพูชา และเพิ่มกลิ่นอายความเป็นท้องถิ่นด้วยน้ำส้มวินีการ์สูตรพิเศษที่ทำขึ้นจากมะม่วงไทย
บลู บาย อลัง ดูคาส นำเสนอเมนูใหม่ตามฤดูกาลสองตัวเลือก คือเซ็ทเมนูแบบสี่หรือห้าคอร์สในราคา 4,900++ และ 5,900++ ตามลำดับ และ Voyage ในรูปแบบเทสติ้งเมนูที่ราคา 7,500++ บาท และยังมีเซ็ทเมนูมื้อกลางวันแบบเบา ๆ ในราคา 2,950++ บาทเสิร์ฟทุกวันด้วย
นอกจากเมนูใหม่แล้ว บลู บาย อลัง ดูคาส ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยายังนำเสนอแพ็คเกจ The Blue Journey – Sunset Experience ที่จะเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป เพื่อให้แขกที่มารับประทานอาหารได้ดื่มด่ำบรรยากาศสวยงามน่าประทับใจช่วงพระอาทิตย์ตกบนเรือ Hacker หรูหราที่ล่องไปตามแม่น้ำ จิบแชมเปญ และชมวิวเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ ก่อนจะลิ้มลองรสชาติอาหารจานต่าง ๆ ในเทสติ้งเมนู Voyage ของเชฟฮ็อคเกต ที่จับคู่กับไวน์ชั้นเลิศอย่างลงตัว
แพ็คเกจ The Blue Journey – Sunset Experience ราคา 50,000 บาทสำหรับสองท่าน แขกที่มาเพิ่มราคา 20,000 บาทต่อท่าน นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกแพ็คเกจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ราคา 40,000 บาทสำหรับสองท่านให้เลือก ราคาทั้งหมดเป็นราคาสุทธิ สามารถจองแพ็คเกจล่องเรือได้ทุกวัน (ยกเว้นวันอังคารและวันพุธ) โดยออกเดินทางจากไอคอนสยามหรือท่าเรือของโรงแรมริมแม่น้ำแห่งใดก็ได้ในเวลา 17.30 น.
สำรองโต๊ะเพื่อลิ้มลองเมนูใหม่ประจำฤดูกาลและจองแพ็คเกจ Blue Journey – Sunset Experience ได้ผ่านเว็บไซต์ www.blue-alainducasse.com หรือติดต่อทีมสำรองที่นั่งที่ โทร. +66 (0) 6-5731-2346
Tag :
อาหารฝรั่งเศส, แพ็คเกจ, บลู บาย อลัง ดูคาส
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น