เดอะ คอฟฟี่ คลับ (The Coffee Club) โชว์ศักยภาพการเป็นร้านกาแฟชั้นนำสัญชาติออสเตรเลียที่ครองใจลูกค้าทั่วโลกยาวนานกว่า 30 ปี ผ่านการเสิร์ฟเมนูกาแฟพรีเมียมหลากหลาย ที่รังสรรค์จากวัตถุดิบคุณภาพทั้งเมล็ดพันธุ์กาแฟ รวมถึงส่วนผสมต่าง ๆ รวมถึงความสำคัญในเรื่องของคุณภาพในการให้บริการที่เป็นไปตามมาตรฐานของออสเตรเลีย ล่าสุด เดอะ คอฟฟี่ คลับ ร่วมกับ Black Bag Roasters คว้ารางวัลเครือร้านกาแฟยอดเยี่ยมระดับนานาชาติ (Best Overall Chain / Large Franchise) จากงาน Golden Bean World Series 2022 ซึ่งเป็นการแข่งขันคั่วกาแฟระดับโลกที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุด ตอกย้ำปณิธานของร้านในการส่งมอบ Good Food, Great Service และ Excellent Coffee แก่ผู้ลูกค้าทุกกลุ่มในทุกวัน และทุกโอกาส

นางนงชนก สถานานนท์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ คอฟฟี่ คลับ ภายใต้การดำเนินการของบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เดอะ คอฟฟี่ คลับ นอกจากการให้บริการอาหารและเครื่องดื่มรสชาติดีมีความหลากหลายตลอดทั้งวัน อีกหนึ่งหัวใจหลักที่ทำให้ร้านมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกคือ “กาแฟ” ที่มาพร้อมความโดดเด่นด้วยคุณภาพวัตถุดิบของเมล็ดพันธุ์กาแฟพรีเมียมให้ลูกค้าเลือกได้ตามความต้องการ สะท้อนภาพการเป็นร้านที่ลูกค้าสามารถมีโมเมนต์ดี ๆ ได้ในทุกวันทุกโอกาสผ่านเมนูกาแฟ ล่าสุด เดอะ คอฟฟี่ คลับ ได้เข้าร่วมงาน ‘Golden Bean Awards 2022’ หนึ่งในเวทีการประกวดกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในระดับนานาชาติ เป็นการรวมตัวสุดยอดกาแฟจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อเฟ้นหากาแฟที่ยอดเยี่ยมที่สุดประจำปี ซึ่งดำเนินมาแล้วกว่า 18 ปี ในประเทศออสเตรเลีย และกว่า 8 ปี ในทวีปอเมริกาเหนือ

สำหรับการแข่งขันรายการ ‘Golden Bean World Series 2022’ ถูกจัดขึ้น ณ เมืองโคนา รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย เดอะ คอฟฟี่ คลับ และ Black Bag Roasters สามารถเข้าสู่การแข่งขันรายการดังกล่าวได้หลังชนะเลิศ 5 รางวัลในการแข่งขันของทวีปออสเตรเลียที่มีผู้เข้าร่วมทั้งหมดกว่า 1,200 ราย

ด้าน ลีโอ คาวานาห์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟของ Black Bag Roasters เผยว่า “การที่ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ได้รับรางวัล เครือร้านกาแฟยอดเยี่ยมระดับนานาชาติ (Best Overall Chain / Large Franchise) สะท้อนให้เห็นถึงประสบการณ์การดื่มกาแฟระดับโลกที่ลูกค้าของพวกเขากำลังเพลิดเพลินในทุก ๆ วัน ได้อย่างแท้จริง เราภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ตั้งแต่การเพาะปลูกไปจนถึงแก้วกาแฟ เพราะการคั่วเมล็ดกาแฟไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความสมดุลหรือสวยงามจากการได้รับรางวัลชนะเลิศเท่านั้น แต่พวกเรายังได้รับความสุขความเพลิดเพลินจากผู้คนทั่วโลกอีกด้วย”

เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำเรื่องคุณภาพกาแฟที่ยอดเยี่ยม และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งนี้  เดอะ คอฟฟี่ คลับ เชิญชวนคนรักกาแฟได้มาสัมผัส และดื่มด่ำไปกับรสชาติความกลมกล่อมหอมกรุ่นของเมนูกาแฟชั้นเลิศ จากเมล็ดกาแฟซิกเนเจอร์เบลนด์ (Signature Blend) ไม่ว่าจะเป็นเมนูกาแฟร้อน เย็น และปั่น อาทิ แฟลตไวท์ อเมริกาโน่ เอสเพรซโซ่ อัฟโฟกาโต้ ลาเต้ คาปูชิโน่ มัคคิอาโต้ มอคค่า ฯลฯ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกว่าจะดื่มเป็นกาแฟที่มีคาเฟอีน กาแฟไม่มีคาเฟอีน (Decaf Coffee) รวมถึงสามารถเลือกนมทางเลือกจากธัญพืชและพืชสำหรับสายรักสุขภาพ สำหรับกลุ่มลูกค้าที่แพ้นมวัว หรือ กลุ่มลูกค้าแพลนต์เบส (Plant-based) ในขณะเดียวกันยังสามารถเพิ่มเติมส่วนผสมอื่น ๆ อาทิ การเพิ่มช็อตกาแฟ หรือจะเป็นเพิ่มไซรัปรสชาติต่าง ๆ รวมถึงวิปครีม ตลอดจนไอศกรีม ฯลฯ ได้ง่าย ๆ สำหรับสมาชิกใหม่เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน THE COFFEE CLUB Thailand สามารถกดรับสิทธิ์แลกรับฟรีกาแฟ 2 แก้ว ขณะที่สมาชิกปัจจุบันสามารถกดรับสิทธิ์เพื่อรับกาแฟฟรี 1 แก้ว ได้ทันที ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 ณ เดอะ คอฟฟี่ คลับ ทุกสาขาทั่วประเทศ นางนงชนก กล่าวทิ้งท้าย

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ THE COFFEE CLUB THAILAND หรือเว็บไซต์ https://thecoffeeclub.co.th/

Tag : The Coffee Club, รางวัล, ร้านกาแฟ