วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน “เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์” โดยความร่วมมือของมูลนิธิชัยพัฒนา และบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ณ ควอเทียร์ แกลเลอรี่ ชั้น M ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ กรุงเทพฯ
ในการนี้ นายสุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กราบบังคมทูลฯ วัตถุประสงค์การจัดงาน “เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 โดยการจัดงานครั้งแรกได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2558 ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน และครั้งที่สองเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2559 ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ในครั้งนั้นยังคงใช้ชื่อว่า “เทศกาลน้ำมันเมล็ดชา ภัทรพัฒน์” อีกทั้งยังจัดอย่างงานอย่างต่อเนื่องภายใต้ชื่อ “เทศกาลน้ำมันเมล็ดชาสัญจร” ต่อมาในปี 2564 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชานุมัติให้เปลี่ยนชื่อจากน้ำมันเมล็ดชาเป็น “น้ำมันเมล็ดคามีเลีย” เพื่อให้มีความเป็นสากลเพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือลดความสับสนในกลุ่มผู้บริโภคที่เข้าใจว่าน้ำมันเมล็ดชาคือชาชงดื่ม และนี่คือที่มาของการจัดงานภายใต้ชื่อ “เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์” ในครั้งนี้
จากนั้น นางสาวพลอยชมพู อัมพุช ผู้จัดการใหญ่บริหารสินค้าซุปเปอร์มาร์เก็ต บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กราบบังคมทูลฯ ความร่วมมือการจัดงานระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนา และบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ว่า “บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ได้ทราบถึงแนวพระราชดำริ และความเป็นมาของน้ำมันเมล็ดคามีเลีย จึงพร้อมสนับสนุน และเผยแพร่คุณประโยชน์ของน้ำมันเมล็ดคามีเลียให้เป็นที่รู้จักแก่สาธารณชน โดยได้นำผลิตภัณฑ์น้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ วางจำหน่ายที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต ทุกสาขา อย่างต่อเนื่องมากกว่า 7 ปี”
ในการนี้ นางภากมล รัตตเสรี กรรมการและรองเหรัญญิกมูลนิธิชัยพัฒนา เบิกผู้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานเข้ารับพระราชทานของที่ระลึกตามลำดับ
จากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานเรื่องเล่า “น้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์” แก่ผู้ร่วมงาน และทรงเปิดงาน “เทศกาลน้ำมันเมล็ด คามีเลีย ภัทรพัฒน์” พร้อมทั้งทอดพระเนตรนิทรรศการ “น้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์” ซึ่งเป็นหนึ่งในพระราชดำริ ที่พระราชทานให้มูลนิธิชัยพัฒนา นำเมล็ดต้นชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า (Camellia oleifera) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาศึกษาและทดลองปลูกในประเทศไทย เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมและเป็นการทดแทนป่าไม้ที่ถูกทำลาย ขณะเดียวกันสามารถสร้างรายได้ให้แก่ราษฎรในพื้นที่ รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณประโยชน์ของการดูแลรักษาป่า
โดยนิทรรศการในครั้งนี้ ได้จัดแสดงในรูปแบบมัลติมีเดีย กับ 4 เรื่องราว ประกอบด้วย History of Camellia Seed Oil from China : ความงามที่ฟ้าประทานตำนานวัฒนธรรมท้องถิ่น Passage Through Time : หนทางหมื่นลี้ จากสาธารณรัฐประชาชนจีนสู่ต้นชาน้ำมันต้นแรกในเมืองไทย ต้นทางผืนป่า…ปลายทางน้ำมันเมล็ดคามีเลีย : น้ำมันที่ "หล่อเลี้ยง" หัวใจของชุมชน จากความยากจนสู่ความยั่งยืน จากเมล็ดชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า สู่ผลิตภัณฑ์คุณภาพ จากนั้นทรงทอดพระเนตรบอร์ดนิทรรศการที่ให้ความรู้เกี่ยวกับน้ำมันเมล็ดคามีเลีย อาทิ เรื่องเล่าของน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตำนานกล่าวขานผ่านกาลเวลานับพันปี, เหตุการณ์สำคัญแห่งการเดินทางของต้นชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า...จากเมล็ดสู่ป่าและรายได้สู่ราษฎร, เดอะมอลล์ กรุ๊ป 7 ปีแห่งความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์และเป็นช่องทางการจำหน่ายน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์, คุณประโยชน์มหัศจรรย์ น้ำมันเมล็ดคามีเลีย, สีธรรมชาติจากผืนป่า สร้างคุณค่างานหัตถกรรม ฯลฯ
ในการนี้ ได้ทอดพระเนตรร้านพันธมิตรที่เข้าร่วมงานฯ อาทิ กูร์เมต์ มาร์เก็ต, ลูกไก่ทอง, Coffee Beans by Dao, การบินไทย รวมถึงร้านค้าในโซน Food Expo ที่บริเวณควอเทียร์ อเวนิว ชั้น G และแบบจำลองเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โอกาสนี้ ทรงปรุงอาหารโดยใช้น้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ เป็นส่วนประกอบ ในเมนู “ทอดมันข้าวโพด” โอกาสนี้ได้ทรงจำหน่ายน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ แก่ผู้ร่วมงานและผู้แทนร้านค้าที่ใช้น้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์เป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหาร
โดยประวัติของน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ นั้น เริ่มตั้งแต่ปี 2547 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดำริให้มูลนิธิชัยพัฒนา ดำเนินการศึกษาและทดลองปลูกต้นชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า จากสาธารณรัฐประชาชนจีน จากนั้นมีพระราชดำริให้จัดตั้ง ศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นโรงงานผลิตน้ำมันจากเมล็ดชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า และพืชน้ำมันชนิดอื่นๆ ซึ่งโรงงานแห่งนี้ได้ผลิตน้ำมันคุณภาพสูงสำหรับการบริโภคและนำไปเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่นๆ เช่น เครื่องสำอาง เป็นต้น
การศึกษาและทดลองปลูกต้นชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า ได้เริ่มดำเนินการในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นแห่งแรก ก่อนที่จะขยายไปในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงประมาณ 3,600 ไร่ คิดเป็นต้นชาน้ำมันมากกว่า 900,000 ต้น ถือเป็นการฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมและเป็นการทดแทนป่าไม้ที่ถูกทำลาย ขณะเดียวกันสามารถสร้างรายได้ให้แก่ราษฎรในพื้นที่ รวมถึงสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณประโยชน์ของการดูแลรักษาป่า และสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเข้าใจและพึ่งพิงกัน ซึ่งเป็นไปตามพระราชดำริ “คนอยู่ร่วมกับป่า” ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อันจะนำไปสู่วิถีแห่งความสุข ความสมดุล และความยั่งยืนในที่สุด
ในส่วนของน้ำมันเมล็ดคามีเลียนั้น เป็นที่รู้จักในประเทศจีนนานกว่า 1,000 ปี มีประโยชน์มากมายจนได้ชื่อว่าเป็น น้ำมันมะกอกแห่งโลกตะวันออก เนื่องจากมีองค์ประกอบของไขมันที่ดีต่อร่างกายไม่ด้อยไปกว่าน้ำมันมะกอก และไม่มีกรดไขมันทรานส์ ซึ่งทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินเอ ดี อี เค ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้น้ำมันเมล็ดคามีเลียยังมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดตีบตัน โรคอัมพาต โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และสารคาเทชินซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของน้ำมันให้นานขึ้น อีกทั้งน้ำมันเมล็ดคามีเลียมีจุดเดือดสูงมากกว่า 250 องศาเซลเซียส จึงทำให้สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการทอด การผัด การหมักหรือใช้เป็นส่วนผสมของน้ำสลัด น้ำมันเมล็ดคามีเลียถือเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพของคนทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา และมูลนิธิโรคหัวใจได้อนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ “อาหารรักษ์หัวใจ” ในสินค้าน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภายใต้ตราสินค้าภัทรพัฒน์
“เทศกาลน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 28 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ กรุงเทพฯ ซึ่งภายในงานได้แบ่งพื้นที่การจัดงานออกเป็น 2 โซน ได้แก่ ควอเทียร์ แกลลอรี่ ชั้น M เป็นโซนนิทรรศการ ร้านค้าในเครือมูลนิธิชัยพัฒนา และร้านค้า ร้านอาหารชื่อดัง โดยในงานจะมีการเปิดตัวผ้าไหมย้อมสีจากเปลือกเมล็ดชาน้ำมันสายพันธุ์คามีเลีย โอลีเฟร่า หรือเมล็ดคามีเลียครั้งแรกในประเทศไทย โดยฝีมือการทอจากกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายโครงการศูนย์เรียนรู้ด้านหม่อนไหมแบบครบวงจร ของมูลนิธิ ชัยพัฒนา อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ
และ ควอเทียร์ อเวนิว ชั้น G เป็นโซน Food Expo ซึ่งเป็นครั้งแรกกับการจัดงานรวบรวมร้านอาหารที่ใช้น้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ปรุงอาหาร พบกับการรังสรรค์เมนูอร่อยโดยเชฟชื่อดัง อาทิ เชฟเป่าเป้ เจสสิก้า หวัง, เชฟเควส ชานิน จีมะ, เชฟแก้ว ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร, เชฟลี่ พรชนัน พัฒนาปัญญาสัตย์ จากมาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย และร้านค้าชั้นนำกว่า 50 ร้าน พร้อมหลากหลายกิจกรรม และการสาธิตการปรุงอาหารสารพัดเมนูอร่อย ที่ปรุงจากน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ โดยแบรนด์อาหารชั้นนำ อาทิ สปาเก็ตตี้แซลมอนกระเทียมพริกไทยน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ โดย เชฟบัณฑิต วรมูล จากธรรมชาติซีฟู้ด, ไก่บ้านหมักน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ บาร์บีคิว โดยเชฟกิตติ์ธนัตถ์ สกุลกัณณ์หาค้า จาก BETAGRO, พาสต้าแฮมน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ผสมพริกไทยดำ โดย เชฟพฤษวัฒน์ คงสาคร จาก TGM เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังสามารถซื้อน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ในราคาพิเศษได้ภายในงาน โดยจำหน่ายน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ จำนวน 3 ขวด ในราคา 500 บาท และเมื่อซื้อน้ำมันเมล็ดคามีเลีย ภัทรพัฒน์ ครบ 1,500 บาท รับกระเป๋าผ้า จำนวน 1 ใบ ซึ่งเป็นกระเป๋าที่ออกแบบและสั่งทำพิเศษเฉพาะงานนี้โดยเฉพาะ
Tag :
เทศกาลอาหาร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น