บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองครบรอบ 30 ปี เปิดตัว “Anniversary Blends” เบลนด์กาแฟใหม่ 3 รสชาติ ตัวแทนของความทรงจ าตลอด 3 ทศวรรษ ร่วมกับ “หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร”์ พรีเซ็นเตอร์กาแฟคนแรกของบอนกาแฟ พร้อมเผยแนวคิดการบริหารงานที่ พัฒนาขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งในทศวรรษใหม่ที่จะเกิดขึ้นภายในงาน THAILAND COFFEE FEST 2021

บอนกาแฟ ประเทศไทย ผู้น าด้านธุรกิจกาแฟครบวงจรที่มีประสบการณ์ในวงการกาแฟมาถึง 30 ปี ร่วม ออกบูธ กิจกรรมภายในงาน THAILAND COFFEE FEST 2021 มหกรรมกาแฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ณ IMPACT EXHIBITION HALL 5-7 เมืองทองธานีและร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ในมุมมองของ “ความเป็นมืออาชีพ” (Profession) ในฐานะผู้ผลิตและจัดจ าหน่ายกาแฟรายใหญ่ที่ยังคง ให้ความส าคัญและเล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดกาแฟไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาด้านกลยุทธ์ ทางธุรกิจที่เน้นการปรับตัวเพื่อตอบรับกับความต้องการของตลาด คู่ค้า และลูกค้าที่เปลี่ยนไป โดยครั้งนี้มี “หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์” พรีเซ็นเตอร์กาแฟ คนแรกของบอนกาแฟ มาเป็นตัวแทนของ “ความหลงใหล”  (Passion) ต่อกาแฟอีกด้วย

คุณ อุษาพรรณ อินทวีรวงศ์ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความพิเศษของการครบรอบ 30 ปีในครั้งนี้ว่า “อย่างแรกคือเรามีกาแฟเบลนด์ใหม่ เรียกว่า Anniversary  Blends ฉลองครบ 30 ปี 3 เบลนด์ซึ่งมีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้นและมีกลิ่นหอมที่น่าประทับใจ โดยคัดเมล็ด กาแฟชั้นดีจากประเทศเอธิโอเปีย ปานามา ลาว และกาแฟไทยจากเชียงใหม่เพื่อสนับสนุนเกษตรกรชาวไทย นอกจากนี้ต้นปีหน้าเราจะมี Flagship Store แห่งใหม่ที่เป็นมากกว่าโชว์รูมสินค้า โดยเราได้ผสานโซนคาเฟ่ ในรูปแบบ Specialty Bar จากกาแฟ Craze Café และเพิ่มศูนย์การเรียนรู้ที่ให้ความรู้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องและ เจาะลึกยิ่งขึ้น ในส่วนของการปรับตัวเรามุ่งเน้นที่จะเพิ่มความหลากหลายและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์

ใหม่ๆ เพื่อผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ กลุ่มกาแฟดริปแบ็คจากเครซคาเฟ่ กลุ่มกาแฟพร้อมดื่มแบรนด์ดังจากอิตาลี อย่างเซกาเฟรโด และที่ส ำคัญในปีนี้เราได้จับมือร่วมกับบริษัท TACC ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องดื่มและชา ในการท าสูตรใหม่ๆ ร่วมกัน มาถึงเครื่องท ากาแฟ เราก็มีไลน์มาเพิ่มเติมตอบโจทย์ผู้ใช้งำนในบ้ำนและยังเป็นผู้จัด จ ำหน่ำยอย่ำงเป็นทำงกำรเจ้ำเดียวในประเทศไทย อย่ำงเครื่องท ากาแฟกึ่งอัตโนมัติ Carimali แบรนด์ดังจาก อิตาลีและเครื่องท ากาแฟ แบบพกพาไม่ใช้ไฟฟ้ำอย่ำง Cafflano ถัดมำในส่วนเครื่องท ากาแฟขนำดอย่ำงแบรนด์

La Marzocco ซึ่งอยู่กับเรามาอย่างต่อเนื่องนำนสุดถึง 16 ปี หรือ La San Marco D Series ที่ออกรุ่นใหม่ฉลอง ครบรอบ 100 ปี ก็ถูกน ามาจัดแสดงที่งาน Coffee Fest ด้วยเช่นกัน เราพยายามที่จะสร้างประตูโอกาสให้เปิดครบ ทุกความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้าที่ต่างกัน และวัฒนธรรมใหม่ๆ ที่ก าลังเกิดขึ้นในยุคแห่งการเปลี่ยน ผ่านนี้เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าผู้ประกอบการในกลุ่ม Foodservice ไม่ว่าจะโรงแรม ร้านอาหาร หรือคาเฟ่ก็ต่าง ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น แต่ท้ายที่สุดเราเชื่อว่าอุตสาหกรรมอาหารและ เครื่องดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจกาแฟจะเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ฟื้นตัวกลับมาได้อย่างแข็งแรง จากรายงานของ  Euromonitor มีการคาดการณ์ว่าในช่วงปี 2020 -2025 มูลค่าของธุรกิจกาแฟในประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโต อยู่ที่ 5% และมูลค่าร้านอาหารประเภทคาเฟ่ และบาร์จะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 13% เห็นได้ชัดว่าตัวเลขการ เติบโตนี้ยังมีโอกำสอีกมำกมำยนัก”

ทางด้านของ “หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร”์ พรีเซ็นเตอร์กาแฟคนแรกของบอนกาแฟที่ขึ้นเวทีมา เป็นตัวแทนของ “ความหลงใหล” (Passion) กล่าวถึงความชอบต่อกาแฟของตนว่า “การได้เริ่มท ากาแฟเปลี่ยน ความคิดเราจากเมื่อก่อนที่เคยคิดว่ากาแฟก็เหมือนกันหมด เราค้นพบว่ากาแฟมีเสน่ห์ ทั้งในเรื่องการชิม การผลิต  เราเริ่มอิน จากตอนแรกที่เริ่มจากโคลด์บรูว เราก็ไปเรียนบาริสต้า ได้สนุกกับการใช้เครื่องตอนที่ได้ท าลาเต้อาร์ต  เรามีโอกาสได้ติดต่อกับทีมงานบอนกาแฟมาตลอด จนเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้กลายมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ยิ่งเดี๋ยวนี้

เจี๊ยบเป็นคอกาแฟที่เน้นใช้ในบ้านซะส่วนใหญ่ ทางบอนกาแฟก็มีบริการมาติดตั้งเครื่อง สอนการใช้  แนะนำเมล็ดกาแฟที่ชื่นชอบให้เรา คือเจี๊ยบเองเป็นคนที่ชอบศึกษา ทดลอง เวลาอยากรู้อะไรเจี๊ยบลงมือท า  อย่างกาแฟก็เกิดจากความอยากค้นหา กาแฟมีเสน่ห์เป็นกิจกรรมที่ต้องการความใส่ใจ และละเอียดอ่อน  บางวันอาจจะชงได้ดี หรือบางทีอาจจะต้องมานั่งคุยปรับความเข้าใจใหม่บ้าง ซึ่งอันนี้แหละคือความสนุก  เจี๊ยบเชื่อว่าคอกาแฟหลายๆ คนที่นี่ก็เป็นเหมือนกัน”

งาน COFFEE FEST ในปีนี้นอกจากโปรโมชั่นเด็ดโดนใจหลายคน บริษัทบอนกาแฟ (ประเทศไทย) ยังชวนทุกคน มาร่วมกันท าบุญผ่านการประมูลเครื่อง “Mahlkonig X54” โดยรายได้ทั้งหมดจะมอบให้กับโครงการ “Let’s Be  Heroes” ของหมอเจี๊ยบ ซึ่งเป็นโครงการที่คอยช่วยเหลือผู้ป่ วยในพื้นที่ห่างไกลในชนบท รวมไปถึงผู้ป่ วยที่ ไม่มีทุนทรัพย์ในการเข้ารับการรักษาด้วย

ร่วมสัมผัสประสบการณ์จากบอนกาแฟรูปแบบใหม่และติดตามความเคลื่อนไหวที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง ครั้ง ส าคัญในท ศ วร รษ ใหม่ ข อง บ อน กา แฟ ไ ด้เ ร็ว ๆ นี้ ที่ www.facebook.com/boncafethailand และ www.boncafe.co.th

Tag : บอนกาแฟ