เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท (S Hotels & Resorts: SHR) บริษัทในเครือ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เดินหน้าการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเชิงรุก ตอกย้ำวิสัยทัศน์การดำเนินงานของ SHR และ รีสอร์ททั้งสองแห่งที่ได้รับการยกย่องด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก ได้แก่ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ (SAii Phi Phi Island Village) และ ทราย ลากูน มัลดีฟส์ (SAii Lagoon Maldives) ซึ่งภายในรีสอร์ทแห่งประกอบด้วย “ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล” (Marine Discovery Centre) ศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศ สิ่งมีชีวิตทางทะเล นำโดยนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลเป็นผู้ดำเนินโครงการอนุรักษ์ที่สำคัญมากมาย
หนึ่งผลงานของศูนย์ฯ ได้แก่ การศึกษาและดูแลแนวปะการังที่ “ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์” (CROSSROADS Maldives) ที่พบว่า มีการขยายตัวถึงหกเท่า รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพที่เพิ่มขึ้น และล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2564 นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลของ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ ได้ช่วยชีวิต “ฉลามกบ” (Bamboo Shark) ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นฉลามขนาดเล็ก ที่อยู่ในภาวะใกล้ถูกคุกคาม (Near Threatened) ของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature) การช่วยเหลือครั้งนี้จึงนับเป็นการรักษาชีวิตสัตว์ทะเลของรีสอร์ท ซึ่งปัจจุบันฉลามดังกล่าวได้รับการดูแลอย่างดีในบ่ออนุบาลสัตว์น้ำของศูนย์ฯ
นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม 2564 ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล ของ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ ยังได้ช่วยเหลือ “ปลาสิงโต” (Lionfish) ที่ได้รับบาดเจ็บ โดยที่ชาวบ้านท้องถิ่นเป็นผู้นำมาส่งให้ศูนย์ฯ ของรีสอร์ท เนื่องจากปลาสิงโตที่ดูสวยงามแต่มีพิษร้ายแรง จึงต้องอาศัยการจัดการปลาอย่างระมัดระวังโดยผู้เชี่ยวชาญของศูนย์ฯ โดยขณะนี้ “ปลาสิงโต” กำลังได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี รวมถึงที่ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล ของ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ ยังมีบ่ออนุบาลปลาการ์ตูน (Clownfish Nursery) เพื่อเพาะขยายพันธุ์ก่อนที่จะปล่อยกลับสู่แนวปะการังในเวลาและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
ในขณะเดียวกันที่ เมื่อปีที่ผ่านมา “ทราย ลากูน มัลดีฟส์” ยังได้พบ “เต่าหญ้า” (Olive Ridley Sea Turtle) ที่ทำรังและวางไข่อยู่บนชายฝั่ง ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจ เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ได้มีการพบเห็นเต่าสายพันธุ์นี้วางไข่ในมัลดีฟส์ รวมถึง เต่ากระ (Hawksbill sea turtles) ฉลามหัวค้อน (Scalloped Hammerhead Sharks) และ ปลาโรนัน (Bottlenose Wedgefish) ก็ถูกพบเช่นกัน
จากกิจกรรมเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า “ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล” ของ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ททำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นอย่างไร ศูนย์ฯ แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกหรือสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับแขกที่เข้าพักเท่านั้น แต่เป็นศูนย์กลางการให้ความรู้สำหรับทุกคน รวมทั้งชาวบ้านและเยาวชนที่สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตท้องถิ่น นอกจากนั้น กว่าครึ่งหนึ่งของพนักงานของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือ SHR (49.6%) เป็นผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น สะท้อนความเชื่อมโยงและความมุ่งมั่นของ SHR ในการก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนพร้อม ๆ กับชุมชนอีกด้วย
เดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความแตกต่างให้กับจุดหมายปลายทางที่เราให้บริการอยู่เสมอ เราเข้าใจดีว่า เราต้องเป็นผู้ดูแลสภาพแวดล้อมที่สวยงาม และมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลระบบนิเวศอันล้ำค่าเหล่านี้ให้คงอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นว่า ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเลของเราได้ทำงานร่วมกับชุมชนต่าง ๆ เพื่อช่วยอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ รวมถึงฉลาม และสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายกับผู้คนในท้องถิ่น ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)”
เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ยังได้ทุ่มเทให้กับการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านโครงการมากมาย อาทิ ในปี 2563 ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ สามารถนำขยะกว่า 82% มารีไซเคิล, เมื่อปีที่แล้ว ครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ และ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ สามารถนำน้ำที่ใช้แล้วมาบำบัดและกลับมาใช้ใหม่ได้มากกว่าหนึ่งในสาม (34.7%), โรงแรมและรีสอร์ทในเครือ SHR ได้คัดเลือกบริษัทคู่ค้าจากการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน 100% และ โรงแรมทราย รีสอร์ท ได้งดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง โดยมีการใช้ขวดแก้วแทนขวดพลาสติก และใช้ภาชนะที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
ศูนย์การเรียนรู้ทางทะเลแห่งแรกตั้งอยู่ภายในโรงแรมทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ ก่อตั้งขึ้นในปี 2561 จากนั้นได้เปิดศูนย์ฯ ลำดับที่สองขึ้นในปี 2562 ณ โครงการครอสโร้ดส์ มัลดีฟส์ โดยมีการวางแผนที่จะก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ทางทะเลแห่งที่สามขึ้นภายใน “สันติบุรี เกาะสมุย” (Santiburi Koh Samui) ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่ได้รับรางวัลสถานประกอบการที่ปล่อยคาร์บอนในปริมาณต่ำบนเกาะสมุย โดย สันติบุรี เกาะสมุย จะเปิดตัวแคมเปญที่สนับสนุนให้แขกและผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นศึกษาสัตว์ป่าและแบ่งปันการพบเห็น โดยมีเป้าหมายในการสร้างฐานข้อมูลและรายงานความหลากหลายทางชีวภาพ ภายในไตรมาสแรกของปี 2565 หลังจากการวิจัยนี้ รีสอร์ทมีแผนที่จะพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติ บนพื้นที่สวนธรรมชาติขนาด 58 ไร่ รวมถึงทำป้ายข้อมูลและรหัสคิวอาร์ที่ผู้เข้าพักสามารถสแกนเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพืชและสัตว์พื้นเมืองได้
ด้วยความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลมากมาย ได้แก่ รางวัล Asia Responsible Enterprise Awards 2020 ในสาขา Green Leadership ในขณะที่ CROSSROADS Maldives ได้รับรางวัลจากเวที Asia Pacific Property Awards 2021-2022 สาขา “Best Leisure Development Maldives (Five-Star)” หรือ โครงการพัฒนาด้านการพักผ่อนระดับห้าดาวที่ดีที่สุดแห่งปีในมัลดีฟส์ สำหรับ ทราย พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ ได้รับรางวัล UK Responsible Thailand Awards 2020 จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในสหราชอาณาจักร ในด้าน Marine & Nature และ สันติบุรี เกาะสมุย ได้ลงนามปฏิญญาเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนร่วมกับองค์กรระดับโลกอย่างยูเนสโก (UNESCO Sustainable Tourism Pledge) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท ได้ที่ www.shotelsresorts.com และติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ทาง Facebook, Instagram, YouTube or LinkedIn
Tag :
การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น