ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ฉลองกับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ด้วยเมนูอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นต้อนรับจานพิเศษ

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564  961 Views

ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ฉลองกับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ด้วยเมนูอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นต้อนรับจานพิเศษ

เพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จกับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ในประเภทร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิมจากมิชลินไกด์ประเทศไทยติดต่อกันเป็นปีที่สี่ ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ได้รังสรรค์เมนูอาหารต้อนรับจานพิเศษเสิร์ฟเป็นอภินันทนาการให้กับแขกทุกท่านที่มารับประทานเซตเมนูมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ศกนี้

เมนูต้อนรับจานพิเศษที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหมายอันแสนงดงามได้ถูกออกแบบขึ้นมาอย่างประณีตและพิถีพิถันจากประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์อันโดดเด่นของเชฟ ‘ชยวีร์ สุจริตจันทร์’ หัวหน้าพ่อครัวอาวุโส ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน และเชฟ ‘เฮนริค อูล-แอนเดอร์เซน’ เจ้าของร้านอาหาร กิน กิน (Kiin Kiin) ณ เมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เสิร์ฟให้ทุกท่านได้ลิ้มรสความอร่อยในรูปแบบเมนูอาหารเรียกน้ำย่อยจานพิเศษก่อนเริ่มรับประทานอาหารในเซตเมนูประจำฤดูหนาวแบบ 4 คอร์ส 6 คอร์ส และ 8 คอร์ส   

เซตเมนูประจำฤดูหนาว (The Winter Journey) ประกอบไปด้วยอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่น่ารับประทานจำนวน 8 คอร์ส มาพร้อมอภินันทนาการอาหารท้องถิ่นสไตล์ ‘สตรีทฟู้ด’ (street food) เสิร์ฟให้ลิ้มลองเป็นคำเล็กๆในรูปแบบที่น่าตื่นตาตื่นใจก่อนเข้าสู่มื้ออาหาร เช่น ขนมเมอแรงก์ซีอิ๊วพร้อมครีมโยเกิร์ตวาซาบิ ขนมข้าวพองต้มข่าในถุงพลาสติกใสที่สามารถรับประทานได้ ไก่สเต๊ะ ไส้อั่ว ไอศกรีมคอร์นเนตโตแกงเขียวหวานปู และใบไม้หลากหลายชนิด

เมนูอาหารต้อนรับจานพิเศษได้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาจากวัตถุดิบคุณภาพชั้นเลิศในชื่อเมนู มัสมั่นหมูคุโรบุตะพร้อมแก่นตะวัน โดยแก่นตะวันเป็นพืชสมุนไพรในตระกูลทานตะวันที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความภักดี การมีชิวิตที่ยืนยาวและเป็นดอกไม้ที่สื่อถึง ‘การมีความสุขอย่างสมบูรณ์แบบ’ โดยเมนูอาหารต้อนรับจานพิเศษที่มีความหมายอันแสนงดงามนี้ เหมาะสำหรับมอบเป็นของขวัญให้กับแขกทุกท่านที่มารับประทานอาหารเนื่องในโอกาสพิเศษแห่งการเฉลิมฉลองความสำเร็จในครั้งนี้ ไฮไลท์ของเมนูประกอบไปด้วย มัสมั่นหมูคุโรบูตะตุ๋นเป็นเวลา 48 ชั่วโมง เสิร์ฟพร้อมแก่นตะวันซึ่งเป็นวัตถุดิบท้องถิ่นจากโครงการหลวงใน 3 รูปแบบได้แก่ พูเรแก่นตะวันผสมช็อกโกแลตนูเทลล่า แก่นตะวันดอง และแก่นตะวันทอดกรอบ

เมนูอาหารเรียกน้ำย่อยสื่อถึงการต้อนรับเข้าสู่ฤดูหนาว เริ่มต้นด้วยเมนูปลาแซลมอนวาซาบิเย็น เสิร์ฟปลาแซลมอนนำเข้าจากประเทศนอร์เวย์พร้อมโฟมวาซาบิและซอสพอนซึเพิ่มความสดชื่น ช่วยกระตุ้นรสสัมผัสตั้งแต่เมนูแรก ตามด้วยเมนูซุปเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายกับต้มยำกุ้งเสิร์ฟในเครื่องไซฟรอนสุดสร้างสรรค์ มาพร้อมเครื่องเคียงข้าวเกรียบกุ้ง ทาโก้กุ้ง กุ้งล็อบสเตอร์ และเต้าหู้สดในหลอดเข็มฉีดยาที่ทุกท่านสามารถรังสรรค์เส้นมาม่าเองได้อย่างสนุกสนาน และเมนูอาหารจานหลักแสนอร่อยอย่างกะเพราตับห่านซอสฮอลแลนเดสพร้อมข้าวพองทอด และเนื้ออบซอสหวานที่เสิร์ฟเนื้อซี่โครงนำเข้าจากประเทศออสเตรเลียตุ๋นเป็นเวลา 48 ชั่วโมง มาพร้อมเครื่องเคียงข้าวอบเนื้อ ส้มจี๊ด ผักกวางตุ้งฮ่องเต้และโรยด้วยเนื้อกรอบ เป็นต้น

“ปิดท้ายเซตเมนูประจำฤดูหนาวทั้ง 8 คอร์สด้วยเมนูขนมหวานที่นำเสนอออกมาได้อย่างน่าหลงใหลชวนให้รับประทาน” กล่าวโดย เชฟชยวีร์ สุจริตจันทร์ “เมนูขนมหวานที่เสิร์ฟเป็นเซอร์ไพรส์ส่งท้ายประกอบไปด้วย เค้กลิ้นจี่เฟลมเบ้พร้อมโฟมดอกกุหลาบ และข้าวเหนียวไอศกรีมข้าวโพดเสิร์ฟกับขนมสายไหมราดด้วยน้ำกะทิ” รสชาติอาหารอันโดดเด่นและส่วนประกอบต่างๆในแต่ละเมนูถูกรังสรรค์ขึ้นมาด้วยความประณีตและพิถีพิถันเพื่อชูโรงรสชาติอาหารไทยให้โดดเด่นในแต่ละจาน โดยผสมผสานวัตถุดิบชั้นเลิศและเทคนิคอันหลากหลายที่ใช้ในการปรุงอาหารได้อย่างลงตัว

“เรามีความรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้เปิดห้องอาหารต้อนรับเหล่าบรรดานักชิมทุกท่าน และมีความตั้งใจในการนำเสนอประสบการณ์ในการรับประทานอาหารไทยไฟน์ไดนิ่งในระดับมิชลินสตาร์ พร้อมการให้บริการอาหารและเครื่องดื่มด้วยนิวนอร์มอลหรือความปรกติใหม่กับบริการ ‘เคมปินสกี้ ไวท์ โกล์ฟ เซอร์วิส (Kempinski White Glove Services) เพื่อรักษามาตรฐานอันสูงสุดในด้านสุขอนามัยครอบคลุมทั้งบริเวณห้องครัว ห้องอาหาร รวมไปถึง

พื้นที่สาธารณะในส่วนต่างๆของโรงแรมฯ” กล่าวโดย มร. ริชาร์ด เชสตัค ผู้อำนวยการใหญ่ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ “และที่สำคัญไปกว่านั้น เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นในรูปแบบต่างๆ โดยยังคงใช้ส่วนผสมและสูตรต้นตำรับของอาหารไทยแท้ ผสมผสานเทคนิคในการปรุงอาหารระดับสากลและนำเสนอออกมาในรูปแบบที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น”

เซตเมนูประจำฤดูหนาว 8 คอร์ส (The Winter Journey set dinner) เปิดให้บริการ ณ ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564

  • ราคาเซตเมนูประจำฤดูหนาวมีรายละเอียดดังต่อไปนี้: เซตเมนู 4 คอร์ส ราคา 1,850 บาท++ ต่อท่าน เซตเมนู 6 คอร์ส ราคา 2,600 บาท++ ต่อท่าน และเซตเมนู 8 คอร์ส ราคา 3,200 บาท++ ต่อท่าน
  • ราคาแพ็คเกจเครื่องดื่มน้ำผลไม้จับคู่กับอาหาร (juice pairings) มีรายละเอียดเพิ่มเติมดังต่อไปนี้: เซตเมนู 4 คอร์ส ราคา 390 บาท++ ต่อท่าน เซตเมนู 6 คอร์ส ราคา 590 บาท++ ต่อท่าน และเซตเมนู 8 คอร์ส ราคา 790 บาท++ ต่อท่าน
  • ราคาแพ็คเกจไวน์จับคู่กับอาหาร (wine pairings) มีรายละเอียดเพิ่มเติมดังต่อไปนี้: เซตเมนู 4 คอร์ส ราคา 1,200 บาท++ ต่อท่าน เซตเมนู 6 คอร์ส ราคา 2,000 บาท++ ต่อท่าน และเซตเมนู 8 คอร์ส ราคา 2,300 บาท++ ต่อท่าน

*กฎระเบียบในการเสิร์ฟเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามประกาศกรุงเทพมหานคร (Bangkok Metropolitan Administration or BMA) โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
*ราคาอาหารและเครื่องดื่มดังกล่าวยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าบริการ 10%

ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ตั้งอยู่ ณ บริเวณชั้นล็อบบี้ โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ เวลา 12:00 น. ถึง 21:00 น. (สั่งอาหารเซตเมนูได้ถึงเวลา 18:00 น. และอาหารจานเดี่ยว (a la carte) ได้ถึงเวลา 18:30 น.)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร 02 162 9000 หรืออีเมล์ dining.siambangkok@kempinski.com


Tag : มิชลินสตาร์

ความคิดเห็น

Editor’s Pick

Recent

Most Viewed