ใครจะไปคาดคิดว่า ธุรกิจที่หมายมั่นปั้นมือว่าไปได้สวย และปังแน่ๆ แต่เปิดตัวเพียงสัปดาห์เศษ ก็เจอวิกฤติโควิด-19 เหมือนเจอทางตันตั้งแต่เริ่มต้น แต่หากหัวใจไม่ยอมแพ้ ในความมืดมิด ลองพลิกมุมคิด เราจะเจอแสงสว่างให้ก้าวเดินต่อไปได้เสมอ เช่นเดียวกับ นักธุรกิจผู้นำเข้า “MeetFresh” (มีตเฟรช) แบรนด์ขนมไต้หวันแท้ดั้งเดิม ซึ่งดำเนินการในรูปแบบ Master Franchise มีกว่า 800 สาขาทั่วโลก และเพิ่งเปิดสาขาแรกในประเทศไทย ที่ชั้น B ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่เปิดตัวไม่นานก็เจอวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 จนรัฐบาลต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินส่งผลให้มีการปิดหลายสถานที่รวมถึงศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า
นิธิวดี อนันตโท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทวานีช ดีเสิร์ท จำกัด เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของร้าน “MeetFresh” (มีตเฟรช) สาขาแรกและเป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยว่า “เกิดจากความชอบขนมร้านนี้โดยส่วนตัว ซึ่งสมัยที่อยู่สหรัฐอเมริกา บังเอิญได้ไปชิมขนมที่ร้าน แล้วพบว่าอร่อยมาก ตั้งแต่นั้นจึงเป็นลูกค้าประจำ เมื่อต้องกลับมาประเทศไทย และรู้สึกอยากนำความอร่อยของขนมนี้กลับมาแบ่งปันคนไทยได้รับประทานด้วย จึงสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย และเปิดตัวช่วงก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19”
1.ไม่จ่ายเงินเดือน…ก็ได้หรือ :
ในฐานะผู้บริหาร หรือเจ้าของกิจการ หน้าที่รับผิดชอบต้องหนักที่สุดอยู่แล้ว เหมือนเช่นการเป็นหัวหน้าครอบครัว เมื่อลูกหิว พ่อแม่ต้องเสียสละให้ลูกได้กินก่อน เราจะรับเงินเดือนเหมือนปกติ แล้วไล่ลูกน้องออกอย่างนั้นหรือ เราทำแบบนี้ไม่ได้ เราจึงตกลงกันว่า ลูกน้องทุกคนต้องได้เงินเดือนครบเหมือนเดิม เราจะไม่ตัดเงินเดือนใครเลย ยกเว้นตัวเราเองที่เป็นผู้บริหาร
2. หาแฟนให้เจอ :
สำหรับแบรนด์ที่เพิ่งเปิดตัวในสถานการณ์ปกติ จำเป็นต้องทำการตลาดเชิงรุก เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) จากที่เตรียมแผนการเปิดตัวไว้อย่างยิ่งใหญ่ แต่เมื่อต้องเผชิญวิกฤติโควิด-19 จำเป็นต้องพับแผนเก็บไว้ แม้หนทางเหมือนจะริบหรี่ แต่เราต้องเดินต่อไป โจทย์ คือ ต้องหาลูกค้าให้ได้ วิธีการ คือ หาช่องทางที่เราจะเข้าถึงแฟนของ “MeetFresh” (มีตเฟรช) ซึ่งโชคดีที่แบรนด์มีฐานแฟนคลับแน่นหนาและเหนียวแน่นอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวต่างชาติในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นชาวไต้หวัน จีน ญี่ปุ่น ซึ่งมีอยู่มาก และเป็นกลุ่มที่น่ารักมาก นอกจากมาอุดหนุนแล้ว ยังช่วยเรากระจายข่าว รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่เคยอยู่ต่างประเทศหรือเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ก็รู้จักและเป็นลูกค้าประจำที่ต่างประเทศอยู่แล้ว วินาทีนี้ การตลาดที่ได้ผลที่สุดกลับกลายเป็นวิธีการที่ดั้งเดิม นั่นก็คือ Word of Mouth หรือการบอกต่อนั่นเอง ซึ่งต้องขอบคุณลูกค้าที่รักในแบรนด์ “MeetFresh” (มีตเฟรช) อย่างเหนียวแน่นไม่แปรเปลี่ยน
3. เปิดและขยายเพิ่ม :
เราไม่ต้องการทิ้งใคร เราต้องการและรักษาทุกคนให้อยู่กับเราโดยไม่ลดตารางงานใครเลย ดังนั้น วิธีแก้ปัญหานี้ คือ ต้องเปิดที่ใหม่เพิ่ม! ฟังดูเหมือนเราบ้า แต่เรามองว่าการมีพนักงานที่ดี เป็นทรัพยากรที่มีค่ามากในธุรกิจ เราจึงตัดสินใจสร้างครัวกลางขึ้นนอกศูนย์การค้าฯ เพื่อให้พนักงานของเราได้มีงานทำ และลดค่าใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟที่ต้องจ่ายไปกับการเช่าพื้นที่ ซึ่งมีเรทที่สูงกว่า อีกทั้งการมีครัวกลางยังรองรับแผนการขยายสาขาต่อๆ ไป ของเราในระยะยาวได้อีกด้วย
4. แผนเร่งด่วน :
ใครจะไปนึกว่าร้านที่เพิ่งเปิด ต้องรีบปรับแผนการจำหน่ายเป็นเดลิเวอรี่ ทันทีทันใด เพราะตอนมีประกาศให้ปิดศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าออกมา เราไม่มีเวลาได้เตรียมตัวเลย แต่เราต้องปรับตัว ปรับแผน โดยมอบหมายให้พนักงานในร้านที่มีมอเตอร์ไซค์ ผันตัวเองจากพนักงานหน้าร้าน ไปช่วยส่งขนมเลยทันที แต่ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะการส่งขนมธรรมดาต้องระวังมากอยู่แล้ว แต่ขนมของเราเป็นน้ำแข็งด้วยนี้สิ ซึ่งเรายอมไม่ได้ที่จะให้ความอร่อยที่เรารู้ว่ามีมากแค่ไหนต้องเสียไป เพราะแน่นอนว่า ไม่ว่าใคร เมื่อเรารับประทานอะไรไปแล้วแต่คุณภาพต่างไปจากเดิม ก็จะติดอยู่ในใจไปอีกนาน เราจึงรีบสั่งผลิตถุงเก็บความเย็น และอีกหลายสิ่งเพื่อให้รองรับกับการจัดส่งขนมถึงมือลูกค้าโดยรักษาคุณภาพและรสชาติไว้คงเดิม
5. พลังใจ :
ช่วงเวลาเช่นนี้ กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุด เราจึงไม่ควรยึดติด หรือเอาแต่ความสำเร็จในอดีตเป็นที่ตั้ง ถึงแม้ว่าสถานการรณ์ตอนนี้ ไม่ว่าหันมองไปทางไหน ก็พบแต่ความเงียบเหงา ซบเซา การทำธุรกิจในช่วงเวลาแบบนี้ จึงไม่มีสูตรสำเร็จใดๆ ทั้งสิ้น ตำราใดก็ช่วยไม่ได้ นักธุรกิจทุกคนต้องเข้มแข็ง คิดบวก และหมั่นเติมพลังใจให้กับตัวเอง ต้องยืนหยัด และต้องสู้เท่านั้น
“วิกฤติครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ท้าทาย และวัดใจเราทุกคนจริงๆ เราขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน ในการฝ่าวิกฤติครั้งนี้ ขออย่าได้ยอมแพ้นะคะ เราจะไม่แพ้ ถ้าเราไม่ยอมแพ้ และเราจะฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันค่ะ” นิธิวดี ทิ้งท้าย
และในช่วงเวลาที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องพักอยู่บ้าน “MeetFresh” (มีตเฟรช) ยังพร้อมเสิร์ฟขนมสุดอร่อยเติมความสดชื่น ดีต่อสุขภาพ เสริมภูมิต้านทาน ด้วยกระเป๋าเก็บความเย็น สดใหม่ ชื่นใจ ให้กับทุกคนถึงบ้าน โดยสามารถดูเมนู และสั่งผ่าน Inbox ของ facebook.com/meetfreshthailand หรือ Line @meetfresh โทร.088 628 9508 แล้วรับขนมได้ที่หน้าร้าน ชั้น B ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ หรือจัดส่ง ระยะทางรัศมี 5 กิโล ค่าส่ง 20 บาท รัศมี 10 กิโล ค่าส่ง 40 บาท
Tag :
Meet Fresh, ขนมไต้หวัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น