สุพรรณิการ์กรุ๊ปเครือร้านอาหารไทยพื้นบ้านกับการเดินก้าวเข้าสู่ปีที่ 8 นำโดย นายธนฤกษ์ เหล่าเราวิโรจน์, นายธัชชัย นาคพันธุ์ และนายกรณ์ฐนัธ ทองนำ คณะผู้บริหารผู้ริเริ่มนำอาหารไทย-อีสานภายใต้แบรนด์ ‘ส้มตำเด้อ’ และอาหารพื้นบ้านเมืองตราดภายใต้แบรนด์ ‘ห้องทานข้าวสุพรรณิการ์’ เดินทางสู่กรุงเทพฯและก้าวไกลสู่ระดับโลก
“จริงๆแล้วอาหารไทยพื้นบ้านในแต่ละท้องถิ่นมีเสน่ห์มาก แต่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสได้ลองรสชาติแท้ๆของแต่ละท้องถิ่น ตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบในถิ่นฐานนำมาประกอบเป็นอาหาร วิธีการปรุงรสควบคู่กับภูมิปัญญาในแต่ละท้องที่ก็มีความแตกต่างกันไปความประณีตต่างๆทุกอย่างมันสร้างเป็นเอกลักษณ์ความเป็นไทยของแต่ละภูมิภาคออกมา ทำให้ผมเกิดวิสัยทัศน์อยากนำเสนอออกไปให้โลกได้เห็นถึง ‘รสชาติไทยพื้นบ้านที่คนทั่วโลกจะต้องชื่นชอบ’(Local Thai, Global favorites) โดยเราจะส่งต่อตำนานความอร่อยต้นตำรับของคุณยายผู้เลี้ยงดูครอบครัวที่มีความรู้ในการทำอาหารภาคตะวันออกและสูตรอาหารแบบอีสานแท้ของเชฟกรณ์(หนึ่งในทีมผู้บริหาร)ในบรรยากาศร่วมสมัยผ่านทั้ง 2 แบรนด์”นายธนฤกษ์กล่าว
นายธนฤกษ์เริ่มเปิดร้านส้มตำเด้อในปี 2012 ร้านแรกที่ศาลาแดงโดยมองเห็นโอกาสและช่องทางทางการตลาดที่แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปเพียงใดแต่รสชาติของอาหารไทยแบบอีสานแท้ๆยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจนในปัจจุบันเรามีร้านส้มตำเด้อในสาขาต่างประเทศอยู่ 5 หัวเมืองใหญ่ 4 ประเทศ ส่วนห้องทานข้าวสุพรรณิการ์เองก็มีสาขาอยู่ในไทยกว่า 5 สาขา โดยเพิ่งมีการเปิดสาขาใหม่ที่บริเวณซอยเจริญกรุง 38 ซึ่งทั้ง 2 แบรนด์ได้รับรางวัลด้านคุณภาพรสชาติอาหารและการบริการมากมาย เช่น Michelin Star, รางวัล Thai Select จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รวมไปถึง Top Table จากสื่อมวลชนต่างๆมากมาย
การเดินทางของสุพรรณิการ์กรุ๊ปนั้นร้านอาหารในเครือทั้งหมดจะยึดหลักการของ Customer Centric หรือ ‘การยึกลูกค้าเป็นศูนย์กลาง’ แบ่งออกเป็น3 ด้านคือ ‘ใส่ใจ รับฟัง ปรับปรุง’ โดยอย่างแรกความ ‘ใส่ใจ’ เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในธุรกิจร้านอาหารเพราะเป็นธุรกิจที่มีความละเอียดอ่อนมาก ความใส่ใจจะต้องอยู่ในอาหารทุกจานและการบริการทุกอย่างโดยเราจะเน้นไปในแนวคิดแบบ‘Home Cook Style’ หรือ ‘ทำเหมือนให้คนที่บ้านทาน’ อย่างที่สองคือการ ‘รับฟัง’ แม้ว่านายธนฤกษ์จะทำงานในระดับบริหารแล้วแต่ก็จะค่อยติดตามรับฟัง ‘เสียงจากลูกค้า’หรือ‘Voice of Customer’ ที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ตลอดเวลา (Social Listening) เพราะมองว่าทุก Comment ที่เกิดหากเป็นไปทางที่ดีก็ถือเป็นหนึ่งกำลังใจให้กับแบรนด์และพนักงานทุกคน แต่หากเป็นไปในเชิงลบก็จะนำไปเป็นแนวทางการ ‘ปรับปรุง’ และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นซึ่งเป็นหลักการสุดท้ายที่ยึดถือเพราะคนที่สำคัญที่สุดก็คือ ลูกค้า
ร้านอาหารในเครือสุพรรณิการ์มีทั้งหมด 12ร้านทั้งในและต่างประเทศ โดยในปี2020 นี้ร้านส้มตำเด้อจะขยายสาขาเพิ่มไปอีก 3 สาขาใน 3 ประเทศคือญี่ปุ่น ไต้หวัน และกัมพูชา โดยยังคงมุ่งเน้นสื่อถึงความเป็นไทยอีสานสไตล์โมเดิร์นที่ใครๆก็สามารถเข้าถึงได้
“ในปัจจุบันเรายังมีแบรนด์น้องใหม่อย่าง ‘สุดคั่ว’(SoodKua) หรือ ‘ข้าวราดคั่วพริกเกลือเมืองตราด’ ตอบโจทย์ลูกค้าที่ชอบอาหารพื้นบ้านของจังหวัดตราดอย่าง ‘ไข่ปูคั่วพริกเกลือ’เน้นการขายแบบ Delivery เจาะกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่และวัยทำงานที่ไม่มีเวลาและไม่สามารถเดินทางมาทานที่ร้านได้แต่อยากทานของอร่อยในราคาไม่แพง ซึ่งในช่วงเดือนเมษานี้เป็นเดือนครบรอบ 8 ปีทางเครือสุพรรณิการ์ยังมีเมนูใหม่และโปรโมชั่นพิเศษมากมายเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าที่อยู่คู่กับทางสุพรรณิการ์มาตลอด” นายธนฤกษ์กล่าวสรุป
แม้ว่าในช่วงนี้จะมีวิกฤตเกิดขึ้น แต่ทางร้านในเครือสุพรรณิการ์เองก็ได้เตรียมแคมเปญเนื่องในเดือนครบรอบ 8 ปีเอาไว้ สำหรับส้มตำเด้อนั้นจะมีการเปิดตัว 9 เมนูยำใหม่ที่จะเจาะตลาดกลุ่มคนไทยมากขึ้น ซึ่งเมนูยำเองก็กำลังเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมุ่งเน้นการทำกิจกรรมกับลูกค้าบนโลกออนไลน์มากขึ้น ซึ่งลูกค้าสามารถร่วมกิจกรรมได้โดยการสั่งอาหารจากร้านใดก็ได้ในเครือสุพรรณิการ์ไปทานที่บ้าน ถ่ายรูปอาหารนั้นๆแล้วอัพโหลดขึ้นไปบน Social Media ของตัวเองไม่ว่าจะเป็นFacebook หรือ IG ช่องทางไหนก็ได้พร้อมติด Hashtag#supannigagroupathomeเท่านี้ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับ Gift Vouchers มูลค่า 200 บาท เป็นส่วนลดค่าอาหารสำหรับ Supanniga Delivery หรือลุ้นรับGift Vouchers มูลค่า 100 บาทสำหรับเป็นส่วนลดค่าอาหารสุดคั่วเดลิเวอร์รี่ ประกาศผลผู้โชคดีทุกวันศุกร์ตลอดเดือนเมษายน ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่โชคชั้นที่ 2 ลุ้นรับ Gift Vouchers มูลค่า 5,000 บาท สุ่มและประกาศผู้โชคดีในช่วงสิ้นเดือนเมษายน โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและประกาศผลผู้โชคดีผ่าน Facebook Fanpage ‘Supanniga Eating Room’ และ ‘Somtum Der BKK ส้มตําเด้อ”
Tag :
ส้มตำ, อาหารไทย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น