คิง เพาเวอร์ ร่วมเฉลิมฉลองตรุษจีนปี 2563 เชิญชิมอาหารอร่อยที่ถูกคัดสรรอย่างดีร่วม 30 ร้านดัง จากทั่วประเทศ มาไว้ในงาน ‘คิง เพาเวอร์ เดอะ เบลสซิ่ง คัมส์ โฮม (KING POWER THE BLESSING COMES HOME)’ ระหว่างวันที่ 23 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ นี้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
เสริมความเฮงรับเทศกาลตรุษจีนไปกับอาหารมงคล ซึ่งชาวจีนมีความเชื่อว่า การรับประทานอาหารที่เป็นสิริมงคล จะทำให้มีความมั่งคั่ง ร่ำรวย สุขภาพดี โชคดี ตลอดปี โดย ในงาน “คิง เพาเวอร์ เดอะ เบลสซิ่ง คัมส์ โฮม (KING POWER THE BLESSING COMES HOME)” เนรมิตพื้นที่บริเวณ ฟาวน์เท่น สแควร์ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ ให้เป็นถนนย่านมงคลของ “THE GOLDEN MOUSE VILLAGE” ที่โอบล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมจีน โดยหนึ่งในไฮไลต์ของงาน คือ การรวบรวมร้านอาหารจีนเก่าแก่และชื่อดังที่สุด ร่วม 30 ร้านยอดนิยม มาไว้รวมกัน ในบริเวณ ‘FOOD STREET’ หรือ ‘ถนนอิ่มมงคล’ ซึ่งทั้งร้านอาหารร่วม 30 นี้ นับว่าเป็นร้านต้นตำรับอาหารที่ โด่งดังหลากหลายรสชาติ ซึ่งตัวอย่างของความอร่อยแบบฉบับต้นตำรับที่นักชิมพลาดไม่ได้ ได้แก่
1. เมนูบะหมี่กรอบราดหน้า จากร้านราดหน้ายอดผักสูตร 40 ปี
ร้านราดหน้าเก่าแก่อันโด่งดังใกล้ศาลเจ้าพ่อเสือ ที่อากงได้สืบทอดสูตรลับมาจากต้นตระกูล เริ่มเปิดบริการแห่งแรกย่านจุฬาฯ จากนั้นได้ย้ายมาเปิดร้านแถวศาลเจ้าพ่อเสื้อในปี 2531 ด้วยเคล็ดลับความอร่อยที่คงที่ โดดเด่นด้วยการคัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณภาพดี หมูหมักสูตรพิเศษ ชิ้นใหญ่ ผัดด้วยกระทะเหล็กที่ให้ความร้อนสูง และทักษะการปรุงที่สั่งสมมายาวนานกว่า 40 ปี
2. เมนูเกี๊ยวอวบลวกต้มแซ่บพริกสด จากร้านก๋วยเตี๋ยวตรอกโรงหมู
ร้านก๋วยเตี๋ยวน้องใหม่ไฟแรง ที่เปิดบริการมา 3 ปี ตั้งอยู่ในซอยที่มีแต่ของอร่อย คือ ซอยสุกร 1 ซึ่งเป็นที่มาของชื่อร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีชื่อเรียกเก่าว่า “ตรอกโรงหมู” จึงเป็นที่มาของร้านก๋วยเตี๋ยว ซึ่งร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่เคยกินในสมัยเด็ก ที่มีความหอมของถั่วคั่ว น้ำมันกระเทียมเจียวกากหมู และที่สำคัญคือความหอมของมะนาวสดแท้ โดยทางร้านได้พิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบที่ดีและสดใหม่ทุกวัน เมนูเด็ดคือเกี๊ยวหมูอวบใหญ่ไส้แน่น สั่งเป็นต้มยำ จะลวกหรือทอดก็คงความอร่อยทั้งสองแบบ
3. เมนูเนื้อไออาต้าและบะหมี่ จากร้านไออาตา
ภัตตาคารจีนสไตล์กวางตุ้ง ที่เปิดบริการกว่า 35 ปี ตั้งแต่ปี 2509 ภายใต้ชื่อ “ภัตตาคารไออาต้า” และ “ภัตตาคารพาต้า” โดยภัตตาคารทั้ง 2 แห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และถูกกล่าวขานว่า เป็นหนึ่งในร้านอาหารจีนระดับตำนานของกรุงเทพฯ ซึ่งชื่อร้าน "ไออาต้า" มีความหมายฟ้องเสียงกับคำว่า "ไอ้เล่อต้า ต้าชังทิง" ในภาษาจีนกลางซึ่งมีความหมายว่า ความรักและความสุขอันยิ่งใหญ่ เดิมเปิดบริการที่สยามสแควร์ จากนั้นย้ายมาเปิดที่ถนนเพชรบุรีเป็นเวลา 20 ปี และในปัจจุบัน ย้ายมาเปิดที่ถนนอ่อนนุช ถึงแม้จะเปิดบริการมายาวนานกว่า 35 ปี แต่ยังคุณภาพไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
4. เมนูข้าวหน้าเนื้อ จากร้าน 26 ยี่ สับ หลก
ร้านดังที่เป็นมรดกตกทอดจากร้านก๋วยเตี๋ยวนายโส่ยเนื้อตุ๋น ถนนพระอาทิตย์ ที่มีประวัติยาวนานกว่า 40 ปี ส่งต่อสู่ทายาทรุ่นที่ 2 และพัฒนาสู่การระดับความอร่อยด้วยเนื้อวัวพรีเมียมและเมนูที่หลากหลายยิ่งขึ้น แต่ยังคงสูตรลับความอร่อยในการปรุงเนื้อและน้ำซุปมาตั้งแต่รุ่นพ่อ โดยชื่อร้าน
“ยี่ สับ หลก” หากออกเสียงตามภาษาจีนกวางตุ้ง แปลว่า “ยี่สิบหก” หรือถ้าแปลตามตัวอักษรในภาษากวางตุ้งคํานี้จะแปลว่า “หุง ต้ม ง่าย” นั่นเอง
5. เมนูหมูสะเต๊ะ จากร้านหมูสะเต๊ะนายสง่า
จากร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำสูตรโบราณนายสง่า ได้เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2546 ในช่วงแรกทางร้านได้จำหน่ายเพียงก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำสูตรโบราณเท่านั้น ในเวลาต่อมา ได้เริ่มจำหน่ายหมูสะเต๊ะเพื่อให้ลูกค้าได้ชิมขณะนั่งรอคิวก๋วยเตี๊ยว โดยร้านได้พิถีพิถันในการพัฒนาสูตรจนลงตัวด้วยกรรมวิธีหมักหมูและปรุงน้ำจิ้มด้วยสูตรโบราณ ใช้หมูส่วนที่นิ่ม ไม่ติดมัน ปิ้งหมูด้วยเตาถ่านที่สะอาดเพื่อความหอม อร่อย และถูกหลักอนามัย จนถึงปัจจุบันได้ขายมาแล้วเป็นเวลากว่า 8 ปี ทำให้หมูสะเต๊ะของร้านได้รับความเชื่อถือในเรื่องรสชาติความอร่อย และคุณภาพของวัตถุดิบที่ดี
6. เมนูกระเพาะปลา จากร้านย้งกระเพาะปลา
ย้งกระเพาะปลา เริ่มขายมาตั้งแต่ปี 2500 ที่สืบทอดมาจากรุ่นพ่อ เมื่อในอดีตคุณพ่อได้เริ่มขายด้วยการหาบเตาทองเหลืองเดินขายแถวตรอกถั่วงอกไปจนถึงแถววัดมังกร ย่านถนนเยาวราช ต่อมาได้มาเปิดร้านขายในตลาดละลายทรัพย์ โดดเด่นด้วยการใช้กระเพาะปลาแท้ชิ้นโต รสชาติกลมกล่อมจนถูกกล่าวขานว่าเป็นร้านกระเพาะปลาที่มีราคาย่อมเยา แต่รสชาติอร่อยระดับภัตตาคาร
7. เมนูขนมเบื้อง จากร้านขนมเบื้องหวานผึ้งน้อย
ขนมเบื้องเจ้าดังในย่านโชคชัย 4 ที่มีลูกค้าต่อคิวแน่นอย่างเนืองแน่น ด้วยไส้ขนมที่แน่นแตกต่างจากขนมเบื้องทั่วไป จึงได้รับความนิยมทั้งไส้หวานและไส้เค็ม โดยเป็นธุรกิจที่สืบทอดมาจากรุ่นพ่อแม่ เริ่มขายมาตั้งแต่ปี 2524 ที่ออกขายตามตลาดนัดทั่วไปแถวย่านลาดพร้าว เคล็ดลับความอร่อยของขนมเบื้องที่ร้านอยู่ที่ส่วนประกอบที่ทำเองทั้งหมด ตั้งแต่ไส้หวานที่ใช้ฝอยทองทำเอง ไส้เค็มนำมะพร้าวมาผสมกับไข่ ครีมและแป้งที่ใช้ทำขนมเบื้อง ทุกอย่างล้วนทำเองทั้งหมด โดยมะพร้าวที่มีความหอมหวาน กลมกล่อม คัดสรรมาจากอัมพวาและแปดริ้ว
8. เมนูเผือกหิมะ จากร้าน เจ๊นี เผือกหิมะ
ร้านเผือกทอดแถวศาลเจ้าพ่อเสือ ที่ใครไปย่านนั้นจะต้องแวะซื้อมาชิมกับเผือกชิ้นหนาทอดจนกรอบ และคลุกน้ำตาลที่ผ่านการเคี่ยวจนได้ที่ ยืดหยัดความอร่อยมายาวนานร่วม 20 ปี โดยการใช้เผือกสดทอดในน้ำมันใหม่ที่อุณหภูมิร้อนพอเหมาะ และเพิ่มกลิ่นหอมด้วยใบเตย นอกจากเผือกหิมะแล้ว ยังมีเผือกทอดกรอบ ซึ่งมีด้วยกัน 3 รสชาติ ได้แก่ เผือกกรอบรสเค็ม เผือกกรอบรสหวานต้นหอม เผือกกรอบรสหวานงา และ ครองแครงสูตรโบราณแบบกรอบนิ่ม
นอกจาก 8 เมนูตัวอย่างในร้านอาหารร่วม 30 ถนนอิ่มมงคล ในงาน ‘คิง เพาเวอร์ เดอะ เบลสซิ่ง คัมส์ โฮม’ แล้ว ช่วงตรุษจีนนี้ บริเวณชั้น 3 Thai Taste Hub ยังมีความอร่อยของเมนูจากร้านสตรีทฟู๊ดชื่อดัง ได้แก่ ผัดหมี่สไตส์ฮ่อง, เผือกลาวา จากร้านเชียงกรีล่า, จุ๋ยก้วยเจ้าแรกในไทย จากร้านหลี่ชิมเฮีย และข้าวผัดผงกระหรี่ปูไข่เค็ม จากร้านสยาม วิสดอม
สามารถร่วมอิ่มอร่อยรับมงคลไปกับ 8 เมนู จากร้านดังร่วม 30 ร้าน พร้อมด้วยกิจกรรมมงคลอีกมากมาย ในงาน ‘คิง เพาเวอร์ เดอะ เบลสซิ่ง คัมส์ โฮม’ (KING POWER THE BLESSING COMES HOME)’ ระหว่างวันที่ 23 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ นี้ ที่ คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
Tag :
คิงส์ พาวเวอร์, วันตรุษจีน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น