“บลู สไปซ์” ในเครือบลู เอเลเฟ่นท์ กรุ๊ป ร่วมอนุรักษ์อาหารไทยโบราณ “แกงตูมี้” สืบสานตำนาน “ชาวเปอรานากัน” ชูวัตถุดิบ “Superfoods” ที่นำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องแกงพร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เน้นความสะดวกและรวดเร็วในการปรุง ได้แก่ น้ำซุปต้มยำ น้ำซุปต้มข่า และซอสผัดผงกะหรี่พร้อมปรุง อีกทั้งนำเสนอแนวคิดชุดปิ่นโต “Thai for 2” หวังสร้างประสบการณ์ในการทำและลิ้มลองรสชาติอาหารไทยสูตรต้นตำรับ ในงาน “THAIFEX 2019”
เชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนทำอาหารและเชฟแห่งภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์ ผู้ผลิต จำหน่ายและส่งออก ผลิตภัณฑ์แบรนด์ “บลู เอเลเฟ่นท์” ได้แสดงให้เห็นถึงความน่าอัศจรรย์ของแกงไทย ที่เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและเป็นสมบัติของชาติที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับที่มาของแกงไทยต่างๆ ส่วนผสมที่ใช้และหลากหลายวิธีในการนำพริกแกงที่อุดมไปด้วยส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพไปประกอบอาหาร โดยที่ผ่านมา เชฟนูรอ ได้รับรางวัลจากการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูสูตรอาหารไทยโบราณจาก “ชาวเปอรานากัน” (กลุ่มชาติพันธุ์ลูกผสมที่มีต้นกำเนิดมาจากผู้ตั้งถิ่นฐานชาวจีนในจังหวัดชายแดนภาคใต้และหมู่เกาะมลายู)
ในงาน THAIFEX 2019 - World of Food Asia หรืองานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับเอเชีย ในครั้งนี้จะนำเสนอภายใต้แนวคิด “Thai Curry Specialist” หรือผู้เชี่ยวชาญด้านแกงไทย โดยในปีนี้ เชฟนูรอ จะชูไฮไลท์ในเรื่องวัตถุดิบชั้นเลิศ (Superfoods) ด้วยการเปิดตัวพริกแกงสำเร็จรูปที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร ได้แก่ เครื่องแกงตูมี้ แกงภูเก็ตสูตรโบราณ ที่มีส่วนผสมของกระเทียมไทยดำ (Thai Black garlic), ส้มแขก (garcinia) และลูกซัด (fenugreek) ซึ่งเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าร้านอาหารบลู เอเลเฟ่นท์
พร้อมกันนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มซอสผัดผงกะหรี่, น้ำซุปต้มข่าพร้อมปรุง, น้ำซุปต้มยำพร้อมปรุง ที่จะทำให้การปรุงอาหารเป็นเรื่องง่ายๆ ด้วยเวลาเพียง 5-10 นาที
นอกจากนี้ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของหวานขบเคี้ยว ได้แก่ สับปะรดภูแลอบแห้ง และมะม่วงอบแห้ง สูตรใหม่น้ำตาลน้อยกว่า 10% เอาใจคนรักสุขภาพ
ปีนี้ ยังได้เปิดตัวแพคเกจจิ้งใหม่ ภายใต้แนวคิด “Thai Pinto Set” ที่มาพร้อมกับเคล็ดลับและวิธีการทำจากเชฟ นูรอ ในการทำอาหารไทยจากชุดปิ่นโต ที่เลือกสรรผลิตภัณฑ์ บลู เอเลเฟ่นท์ จำนวน 3 รายการ รวมไว้ในแพคเกจเดียว สำหรับทำอาหารรับประทาน 2 ท่าน เริ่มจากวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการประกอบอาหารเรียกน้ำย่อย (starter) อาหารจานหลัก (main course) ปิดท้ายด้วยของหวาน (dessert) พร้อมรับประทาน ซึ่งชุดประกอบอาหาร ”Thai Pinto set” นี้ จะทำให้ลูกค้าได้สนุกกับการทำอาหารไทยและมีโอกาสได้ลิ้มลองอาหารไทยรสชาติไทยแท้ ผลิตภัณฑ์ที่บรรจุในชุด Thai Pinto Set นี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการลูกค้า เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละตลาดส่งออก
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัท บลู สไปซ์ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 40% เป็นผลมาจากการขยายไปยังตลาดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 ได้เปิดตลาดไปยังประเทศอิสราเอล และเกาหลีใต้ จากปี 2561 ที่ได้ทำตลาดไปแล้วที่สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเดนมาร์ก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
สำหรับช่องทางการขายในประเทศ สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์บลู เอเลเฟ่นท์ ได้ที่ร้านอาหารบลู เอเลเฟ่นท์, โรงเรียนสอนทำอาหาร บลู เอเลเฟ่นท์ สาขากรุงเทพฯ และสาขาภูเก็ต, ร้านขายผลิตภัณฑ์บลู เอเลเฟ่นท์ ที่ตั้งอยู่ในห้างไอคอน สยาม และ เดอะ มาร์เก็ต นอกจากนี้ยังมีจัดจำหน่ายที่ กูร์เมต์ มาร์เก็ต, วิลล่า มาร์เก็ต, ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี เป็นต้น
โรงงานบลู สไปซ์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ได้รับการรับรองทางด้านสุขอนามัย การจัดการความปลอดภัยของอาหารและรับรองคุณภาพด้านมาตรฐานการจัดเก็บและการจัดจำหน่ายตามมาตรฐาน BRC (British Retail Consortium) ฉบับที่ 8 จากสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่ง
สหราชอาณาจักร เป็นมาตรฐานความปลอดภัยทางอาหาร (food safety) รวมถึงการรับรองมาตรฐาน GMP, HACCP และเครื่องหมายฮาลาล (Halal)
Tag :
THAIFEX, บลู สไปซ์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น