กลับมาอีกครั้งกับงาน Cross Culture Weekend ครั้งที่ 5 ซึ่งในครั้งนี้เป็นการฉลิมฉลองวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาและหลากหลายของประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 25 ถึง 26 มกราคม 2568 งานนี้จะนำเสนอการเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ผ่านประเพณี รสชาติของอาหารและเครื่องดื่มของมาเลเซีย

ลิ้มรสอาหารของเชฟ Michelle Goh และเชฟ Pongcharn Russell (Top) เชฟจาก MIA Bangkok ซึ่งเป็นร้านอาหารชั้นเลิศชื่อดังที่นำเสนอเมนูตามฤดูกาล พร้อมให้บริการตลอดสุดสัปดาห์ที่ห้องอาหารพายตั้งแต่เวลา 18.00 น. – 23.00 น.

CHEF MICHELLE GOH
Michelle Goh เชฟชาวมาเลเซียผู้สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะเชฟชาวซาราวักคนแรกที่ได้รับดาวมิชลินและเป็นเชฟที่อายุน้อยที่สุด เขาเริ่มต้นเส้นทางสายอาชีพด้านการทำอาหารที่เลอ กอร์ดอง เบลอ ซิดนีย์ พร้อมทั้งได้รับประกาศนียบัตรด้านการทำอาหารและศิลปะขนมอบ เขาเริ่มต้นทำงานในประเทศออสเตรเลียที่ Eleven Bridge ก่อนที่จะย้ายไปที่ร้าน Pollen ประเทศสิงคโปร์ นอกจากนี้เชฟ Michelle Goh ยังนำเอาความสามารถของเขาไปสร้างความสำเร็จให้กับร้าน Sühring กรุงเทพฯ โดยเขาเป็นหัวหน้าแผนกขนมอบ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการทำให้ร้าน Sühring ได้รับดาวมิชลิน 2 ดวง ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งเชฟและผู้ก่อตั้งของร้าน Mia โดยผลงานขนมหวานอันโดดเด่นและสร้างสรรค์ของเชฟได้รับรางวัล "Best Dessert Menu" จาก BK Top Tables และยังได้รับการยกย่องในฐานะ "Young Chef of the Year" อีกด้วย

CHEF PONGCHARN RUSSELL (Top)
เชฟพงศ์ชาญ รัสเซล หรือ เชฟท็อป หนึ่งในหัวหน้าเชฟและผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหารมิชลินสตาร์ Mia เชฟเติบโตที่ภูเก็ตก่อนจะย้ายไปประเทศอังกฤษเมื่ออายุ 15 ปี เขาเคยทำงานในครัวของร้านอาหารชื่อดังอย่าง Roussillon, Gauthier Soho, The Pearl, และ Sketch Lecture Room & Library ในปี 2557 เขาได้ย้ายไปประเทศสิงคโปร์เพื่อร่วมงานกับร้าน Pollen และต่อกลับมาที่ประเทศไทยในตำแหน่งหัวหน้าเชฟที่ร้าน Freebird นอกจากนี้เขายังได้รับการยอมรับในฐานะบุคคลผู้ทรงอิทธิพลจาก Thailand Tatler Gen T, Koktail’s Future 100, และ Forbes 30 Under 30 Asia อีกทั้งยังคว้ารางวัล Best Young Chef จาก BK Magazine ในปี 2561 อีกด้วย

นอกจากนี้ที่บาร์ สาทร จะมีมิกโซโลจิสต์ชื่อดังจากประเทศมาเลเซีย มาร่วมสร้างสรรค์เครื่องดื่มตั้งแต่วันที่ 25 ถึง 26  มกราคม 2568 ตั้งแต่ 18.00น.-01.00น.

25 มกราคม 2568
JOEL POON
Reka, Kuala Lumpur (#41 Asia’s 50 Best Bars)
บาร์ Reka เปิดตัวในปี 2564 ที่กัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเป็นบาร์ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วในฐานะค็อกเทลบาร์ที่สร้างสรรค์ที่สุดแห่งหนึ่ง โดยเปิดตัวติดอันดับใน Asia’s 50 Best Bars ในปี 2567 Reka ได้รับการขนานนามว่าเป็น "postmodern flavor lab" โดดเด่นด้วยร้านที่ออกแบบภายในล้ำสมัยและเครื่องดื่มค็อกเทลที่สร้างสรรค์โดยอิงจากองค์ประกอบของ เกลือ ไขมัน กรด และความร้อน ซึ่งรังสรรค์ผ่านเทคนิคขั้นสูงโดย Joel Poon ผู้ร่วมก่อตั้งบาร์

KOH YUNG SHEN
Backdoor Bodega, Penang (#52 Asia’s 50 Best Bars)
บาร์ Backdoor Bodega ซึ่งถูก Lonely Planet ขนานนามว่า "บาร์ลับที่หาได้ยากที่สุดในจอร์จทาวน์" เป็นค็อกเทลบาร์ที่ไม่เหมือนใครในปีนัง โดดเด่นด้วยเครื่องดื่มสูตรพิเศษที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น บาร์นี้ถูกเปิดตัวอย่างเงียบ ๆ ในปี 2559 บาร์แห่งนี้ได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในบาร์ชั้นนำของเมือง และติดอันดับใน Asia’s 100 Best Bars ในปี 2565 Shen บาร์เทนเดอร์และเจ้าของร้าน ได้รับยกย่องสำหรับการมีส่วนร่วมในวงการค็อกเทลของปีนัง ซึ่งรวมถึงไปถึง การก่อตั้ง No Bar Here, Drafted craft beer garden และมีส่วนร่วมในการจัด Penang Cocktail Week

26 มกราคม 2568
JON LEE AND MARIA ESCOBIA
Penrose, Kuala Lumpur (#8 Asia’s 50 Best Bars)
Penrose อยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ ก่อตั้งโดย Jon Lee ในเดือนสิงหาคม 2565 เขาได้ผสมผสานแนวคิดของครัว บาร์ และศิลปะ โดยมุ่งเน้นที่หลักสำคัญของค็อกเทล 5 อย่าง ได้แก่ แอลกอฮอล์ รสชาติ รสนิยม เนื้อสัมผัส และการเจือจาง บาร์ระดับพรีเมียมแห่งนี้ให้ความสำคัญกับความเรียบง่ายและความทันสมัย พร้อมบรรยากาศอบอุ่นที่เน้นที่นั่งรอบเคาน์เตอร์บาร์ บริหารงานโดย Maria Escobia บาร์นี้ชื่อเสียงในด้านค็อกเทลสร้างสรรค์อย่างเมนู Penrose Gibson บาร์นี้ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอย่างรวดเร็ว คว้ารางวัล Nikka Highest Climber Award 2024 และ The Best Bar in Malaysia 2024 อีกด้วย

AMANDA WAN
Three X Co, Kuala Lumpur (#56 Asia’s 50 Best Bars)
เปิดตัวในปลายปี 2560 บาร์ Three x Co ดึงดูดลูกค้าด้วยค็อกเทลระดับพรีเมียมที่รังสรรค์โดยทีมบาร์เทนเดอร์มากความสามารถ เมนูใหม่ของ Three x Co สำหรับฤดูใบไม้ผลินี้เฉลิมฉลองความเป็นตัวของตัวเองและการแสดงออกทางบุคลิกภาพ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากภาพวาดที่ได้รับมอบหมายของนักร้องโอเปร่าจีน หัวหน้าบาร์เทนเดอร์ Amanda Wan ซึ่งเป็นบาร์เทนเดอร์จาก DIAGEO World Class ได้แนะนำแนวคิด "Indi v Duality" ผสมผสานค็อกเทลคลาสสิกกับความสร้างสรรค์ Amanda Wan เน้นการทำลายข้อจำกัดของกรอบความคิดและการยอมรับความเป็นตัวของตัวเอง โดยส่งเสริมให้ลูกค้าได้ค้นหากลิ่น รส และเนื้อสัมผัสที่แตกต่างในค็อกเทล

พลาดไม่ได้ที่จะมาร่วมงานในช่วงสุดสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยเทศกาลทางวัฒนธรรม ที่คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการผสมผสานของอาหารและค็อกเทลทั้งแบบดั้งเดิมและร่วมสมัยของประเทศมาเลเซียได้ที่เดอะ เฮ้าส์ ออน สาทร โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง กรุณาโทร 02 344 4025 หรืออีเมล www.bangkok@whotels.com ติดตามข้อมูลข่าวสารของดับเบิ้ลยู กรุงเทพ ได้ที่ Facebook : W Bangkok หรือ https://bit.ly/WBangkokHWS

Tag : W Bangkok, ดินเนอร์, มาเลเซีย