ห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน พร้อมให้บริการสำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำของทุกวัน เปิดโอกาสให้นักชิมทุกท่านได้เลือกรับประทานอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นได้ในช่วงเวลาตามต้องการ มื้อกลางวันให้บริการตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 15.00 น. และมื้อค่ำให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 24.00 น. เริ่มให้บริการตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

เมนู “Legends of the Lotus” ถูกสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิดที่ต้องการให้แขกทุกท่านได้ร่วมสนุกไปกับเรื่องเล่ามากมายของทีมงานมากประสบการณ์ของห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน รับประทานอาหารรสชาติอาหารไทยขนานแท้ เชิดชูการใช้งานวัตถุดิบท้องถิ่นไทยและสร้างเสริมแนวคิดเพื่อความยั่งยืน สอดคล้องกับยุคสมัยแห่งความเปลี่ยนแปลงที่เน้นให้ความสำคัญกับระบบนิเวศ อาทิ การเลือกซื้ออาหารทะเลจากธุรกิจประมงที่มุ้งเน้นความยั่งยืนทางท้องทะเล รวมถึงแนวคิดการปรุงอาหารโดยใช้วัตถุดิบทั้งหมดแบบไม่เหลือทิ้ง นอกจากนี้ แขกแต่ละท่านจะสามารถเลือกสร้างเมนูได้ด้วยตนเองจากเมนูทั้งหมดที่ให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของแขกในยุคปัจจุบัน

มื้อกลางวันมีให้บริการแบบสามคอร์สและห้าคอร์ส ออกแบบโดยเชฟเฮนริค อูล แอนเดอร์เซนและกำกับดูแลโดยหัวหน้าพ่อครัวอาวุโส เชฟเบิ้ม ชยวีร์ สุจริตจันทร์ โดยเมื่อมาถึงห้องอาหารฯ แขกทุกท่านจะได้ลิ้มลองอาหารเรียกน้ำย่อยจำนวนสามชนิด ไม่ว่าจะเป็น “เมอแร็งก์วาซาบิโยเกิร์ต”, “มัสมั่นบอลและชัทนีย์มะม่วง” และ “กะเพราหอยเชลล์หั่นเต๋า” ให้ความรู้สึกราวกับเดินเล่นอยู่ในตลาดอาหารที่โด่งดังของกรุงเทพมหานคร

เริ่มต้นมื้ออาหารกลางวันแบบไทยโมเดิร์นเมื่อแขกทุกท่านจะเลือกรับประทานคอร์สแรกได้ด้วยตนเอง ระหว่าง “ยำปลาเนื้อขาวสับปะรด” ที่เชฟจะเลือกใช้เนื้อปลาที่ดีที่สุดของวัน นำมาหั่นเต๋าให้ได้ขนาดพอดีคำ นำเสนอต่อหน้าทุกท่านด้วยการคลุกเคล้าด้วยน้ำยำ จากนั้นจะทำการดองในผลสับปะรดเป็นเวลาสามนาที เพื่อให้กรดจากสับปะรดทำให้เนื้อปลากึ่งสุกและให้ความหวานแทรกซึมเข้าสู่เนื้อปลา เสิร์ฟคู่กับเนื้อสับปะรดภูแลจากจังหวัดภูเก็ต หรือ “ยำปลาหมึกย่างแตงกวาและอาโวคาโด” ที่ความหอมของปลาหมึกย่างกำลังดีจะถูกเสริมด้วยรสชาติและกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ของแตงกวาและอาโวคาโด

คอร์สถัดมาได้แก่ “ซุปเป็ดพะโล้น้ำใส และเป็ดสามสหาย” ที่จะบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางมายังประเทศไทยในวันวานของเชฟเฮนริคได้อย่างน่าสนใจ ผ่านการนำเสนอแบบโมเลกูลาร์ แกสโตรโนมี (Molecular Gastronomy) ที่เป็นเอกลักษณ์อยู่คู่กับสระบัว บาย กิน กิน มาอย่างยาวนาน คอร์สที่สามนำเสนอเมนู “ผัดไทยเส้นแครอทกุ้งแม่น้ำ” ที่จะเล่าที่มาที่ไปของผัดไทย เมนูอาหารไทยระดับโลก มีต้นกำเนิดในช่วงยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในสมัยยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่ต้องการยกระดับเมนูเส้นให้มีรสชาติถูกปากชาวไทย

จานหลักของ Legends of the Lotus นำเสนอความน่าตื่นเต้นกับเมนู “ปีกไก่ซอสสะเต๊ะแป้งแก่นตะวัน”  ที่เชฟ เฮนริคเลือกที่จะนำเสนอเมนูสะเต๊ะให้เป็นจานหลัก เพิ่มความน่ารับประทานของจานนี้ด้วยการเพิ่มความเข้มข้นของเนื้อซอสด้วยกลิ่นหอมของมะขาม ขิงและถั่ว รับประทานกับเนื้อไก่ที่ได้รับการปรุงให้นุ่มในระดับที่ยอดเยี่ยม หรือเลือกรับประทาน “เนื้อตุ๋นซอสหอยนางรม” ที่ใช้เนื้อคุณภาพพรีเมียมปรุงสุกด้วยกรรมวิธีที่ใช้เวลาและความละเมียดละไมสูง เสิร์ฟพร้อมกับซอสกระชายดำปรุงคู่กับซอสหอยนางรมโฮมเมด

เมื่อสิ้นสุดเมนูอาหารคาวย่อมเป็นเวลาของอาหารหวาน “เค้กกล้วยหอมและไอศกรีมน้ำตาลมะพร้าว” ที่ทุกท่านจะได้รับเค้กกล้วยหอมสูตรของห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ที่ท่านจะตื่นตาตื่นใจไปกับกรรมวิธีที่ไม่เหมือนใคร ปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม สะท้อนถึงจิตวิญญาณของห้องอาหารสระบัว บาย กิน กิน ในยุคบุกเบิกจนถึงยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

The Legends of the Lotus ให้บริการช่วงมื้อกลางวันของทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ถึง 15.00 น. ราคา 2,200 บาท++ ต่อท่าน สำหรับสามคอร์ส และ 3,800 บาท++ ต่อท่าน สำหรับห้าคอร์ส และประสบการณ์มื้อค่ำเต็มรูปแบ ราคา 4,400 บาท++ ต่อท่าน พร้อมตัวเลือกเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหาร ได้แก่

• รับประทานคู่กับไวน์ จำนวนสามแก้ว ราคา 1,200 บาท++ ต่อท่าน
• รับประทานคู่กับไวน์ จำนวนห้าแก้ว ราคา 1,890 บาท++ ต่อท่าน
• รับประทานคู่กับไวน์ จำนวนหกแก้ว ราคา 3,900 บาท++ ต่อท่าน

*(ราคาดังกล่าวยังไม่รวมเครื่องดื่ม ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าบริการ 10%)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โทร 02 162 9000 หรือ อีเมล dining.siambangkok@kempinski.com หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ของโรงแรมได้ที่ kempinski.com/en/siam-hotel/restaurants-bars/sra-bua-by-kiin-kiin/legends-of-the-lotus

Tag : อาหารไทยโมเดิร์น, โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ