โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เปิดตัวอีเวนท์ด้านอาหารครั้งแรกของปี พร้อมเชิญทุกท่านมาร่วมสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารเหนือระดับ เมื่อเชฟบียอร์น อเล็กซานเดอร์ (Bjoern Alexander) จากห้องอาหาร Matera ในประเทศสิงคโปร์ ที่จะสร้างประวัติศาสตร์ครั้งแรกให้กับการเปิดห้องอาหารสไตล์ป็อปอัพในประเทศไทย ให้บริการช่วงมื้อค่ำ เพียงแปดวันเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน ถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 นี้

เชฟบียอร์น อเล็กซานเดอร์ เป็นเชฟมืออาชีพด้านการทำอาหารอิตาเลียนร่วมสมัย นำพาประสบการณ์จากห้องอาหารที่มีชื่อเสียงมากมายทั้งในประเทศเยอรมนี จีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสิงคโปร์ นอกจากนี้ เชฟบียอร์นยังเป็นเชฟผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของห้องอาหารอิตาเลียนชื่อดังมากมาย อาทิ ห้องอาหาร Octavium เจ้าของรางวัลมิชลินสองดาวและห้องอาหาร Petrus กับรางวัลมิชลินหนึ่งดาวในเกาะฮ่องกง เชฟบียอร์นสร้างสรรค์เซ็ตเมนู 6 คอร์สนี้ผ่านประสบการณ์ของเขาจากการใช้ชีวิตและการทำอาหาร ซึ่งเมนูอาหารอิตาเลียนแต่ละจานจะถูกสร้างสรรค์ผ่านวิสัยทัศน์ที่ทันสมัย ร่วมกับเทคนิคการปรุงรสชาติอาหารและวัตถุดิบแบบจีน ญี่ปุ่นและไทย ที่จะผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและสร้างความแปลกใหม่ให้กับทุกท่านที่ได้รับประทาน

Matera หรือออกเสียงตรงตัวว่า “มาเทร่า” เป็นชื่อเมืองโบราณในประเทศอิตาลี และยังเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีชื่อเสียงกว้างขวางในเรื่องวัฒนธรรมทางด้านอาหารของประเทศอิตาลี โดยเชฟบียอร์นได้ลงมือใช้ความคิดสร้างสรรค์และความชำนาญทั้งหมดในทุกเมนู เริ่มต้นความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยคำแรก ได้แก่ “ทาร์ตส้มโอ” (Pomelo Tarte) ที่จะเปิดประสาทรับรสของท่านด้วยรสชาติสดชื่น หวานอมเปรี้ยวของส้มโอและเผ็ดเล็กน้อยของพริก แทรกซึมด้วยความมันและรสเค็มของแอนโชวีรมควัน เมนูเรียกน้ำย่อยคำที่สอง “ไส้กรอกไข่แดงสไตล์ชูว์” (Baked Choux, Sausage & Egg Yolk) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากไส้อั่วไทยผสมไข่แดง ผ่านรูปลักษณ์ทันสมัยของชูว์แบบฝรั่งเศส

เริ่มต้นคอร์สอาหารจานแรกด้วยเมนู “ทูน่า บูร์ราต้า” (Tuna Burrata & Cavier) ที่เชฟบียอร์นตั้งใจนำเสนอเมนูแรกให้มีความอิตาเลียนเด่นชัดผ่านเมนูทาทาร์ที่เข้าถึงง่าย หากแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยกลยุทธ์ทางรสชาติที่ชาญฉลาด เพิ่มมิติของรสชาติด้วยใบกระเทียมและไข่ปลาคาเวียร์โอเซตรา (Osetra Caviar) ที่มีรสชาติที่เข้มข้นและซับซ้อน เมนูคอร์สที่สองเชื้อเชิญให้ท่านรับประทาน “ซีแวนส์ ออเนียน” (Cevennes Onions) เมนูหัวหอมชื่อดังจากฝรั่งเศสนำมาอบจนหวานหอม ผสมกับซอสถั่วดำหมักรสชาติเข้มข้น และราดด้วยซอสฟักทองพิวเร เป็นอีกหนึ่งในเมนูที่ใช้เทคนิคและความชำนาญชั้นสูงในการรังสรรค์

คอร์สที่สามได้แก่ “สปาเก็ตตินี” (Spaghettini) เมนูพาสต้าอิตาเลียนยอดนิยมที่เชฟตั้งใจพลิกแพลงด้วยการยกดับการใช้วัตถุดิบหลัก คือ พริก กระเทียมรากผักชีและปลาหมึก แวดล้อมด้วยองค์ประกอบมากมายที่เชฟถือว่าเป็นความลับเฉพาะตัว ตามด้วยคอร์สที่สี่ ซึ่งเป็นเมนูยอดนิยมของมาเทร่า ได้แก่ “เรด พรอวน์” (Whole Red Prawn) ที่ เชฟเลือกใช้กุ้งแดงทั้งตัว รมควันที่ใช้อุณหภูมิไม่สูงมาก (Cold Smoked) เพื่อให้เนื้อสัมผัสของกุ้งร้อนพอประมาณและเพิ่มรสชาติด้วยซอสเอ็กซ์โอ ที่เชฟบียอร์นจะใส่ลูกเล่นความเป็นไทยลงไปเพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักชิมในไทยทุกท่าน คอร์สที่ห้า “วากิว บีฟ” (Wagyu Beef) เมนูหลักที่เชฟเลือกใช้เนื้อวากิว มะเขือม่วงและโหระพาไทย เพิ่มรสชาติด้วยกรรมวิธีการทำที่ซับซ้อน เพื่อให้ได้มั่นใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งจานที่ทุกท่านจะไม่ลืมหลังได้รับประทาน

ขนมหวานจะเป็นเมนูที่เชฟบียอร์นตั้งใจทำเพื่อเป็นเอกลักษณ์สำหรับโปรเจ็คป็อปอัพนี้โดยเฉพาะ ได้แก่ “ไทยแมงโก้” (Thai Mango) ที่มีมะม่วงสไลด์ ไอศกรีมเต้าหู้ญี่ปุ่น เสิร์ฟที่โต๊ะสไตล์เทเบลไซต์ ราดด้วยเกล็ดน้ำแข็งลิมอนเซลโล (Limoncello) เหล้ามะนาวสไตล์อิตาเลียน และ “เปติต โฟร์” (Petit Four) ที่จะทำหน้าที่ปิดท้ายการรับประทานอาหารครั้งนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม

“แน่นอนว่าผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้นำเสนออาหารของผมให้กับคนไทยได้รับประทาน คอนเซปต์อาหารของผมจะเป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี คือ การผสมผสานกันระหว่างอาหารอิตาเลียน ผ่านเทคนิคการทำอาหารและการปรุงรสชาติในแบบวิถีอาหารจีน อาหารญี่ปุ่นและอาหารไทย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเมนูที่ผมจะสร้างขึ้นโดยมีกรุงเทพมหานครเป็นแรงบันดาลใจ เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของการร่วมมือกันระหว่างผมและโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ในครั้งนี้” เชฟบียอร์นกล่าวถึงหัวใจของการร่วมมือกับโรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ

เชฟบียอร์น พร้อมแล้วที่จะสร้างสีสันและความแปลกใหม่ให้กับทุกท่านผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานอาหาร นำเสนออาหารอิตาเลียนจานธรรมดาให้พิเศษ ผ่านเทคนิคการทำอาหารและการปรุงแบบโมเดิร์น ให้ทุกท่านตื่นเต้นไปกับไอเดียและความคิดสร้างสรรค์อันโดดเด่นที่ยากที่จะหาใครเปรียบเทียบ พร้อมให้บริการเพียงแปดค่ำคืนเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน ถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เท่านั้น ราคา 5,900 บาท++ ต่อท่าน (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมเครื่องดื่ม ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าบริการ 10%)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โทร 02 162 9000 หรือ อีเมล dining.siambangkok@kempinski.com

หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ของโรงแรมได้ที่ www.sevenrooms.com/experiences/theaddition/chef-bjoern-alexander-pop-up-in-bangkok-11415264072

Tag : อาหารอิตาเลียน, โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ