เพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการมาไม่กี่วันกับ ‘คาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท’ โรงแรมคาร์ลตันสุดหรู แถมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแห่งแรกในไทย และเป็นสาขาแรกนอกประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเรามีโอกาสไปเดินชม ชิม และสัมผัสบรรยากาศตั้งแต่วันแรกที่เปิด วันนี้จึงอยากพาทุกคนไปดูความน่าสนใจแต่ละจุดของที่นี่ รับลองเลยว่าความโดดเด่นเหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกว้าว!!

เราเดินเข้ามาภายในอาคารทรงสูง 34 ชั้น ที่ตั้งตระหง่านดึงดูดสายตาผู้พบเห็นบนถนนสุขุมวิท ใจกลางกรุงเทพฯ แล้วหยุดอยู่ที่โถงล็อบบี้ก็มาสะดุดตากับโคมไฟระย้าทำจากแก้วทรงกลมเป่ามือสีน้ำตาลทอง ที่ประดับสวยงามโค้งรับจากเพดานชั้น 8 สู่ชั้นล็อบบี้ ถ้าจินตนาการดีๆ คงมองเห็นเป็นมังกรแบบที่พนักงานบอก จากจุดนี้มองไปจะเห็นภาพศิลปะที่ออกแบบเป็นพิเศษซึ่งมีหลายชิ้นหลายจุด ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นภาพน้ำ ปลา หรือเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง  รวมถึงการออกแบบโครงสร้างอาคารที่โค้งเว้าให้ความรู้สึกเย็นเหมือนน้ำ รวมถึงการออกแบบโครงสร้างอาคารที่โค้งเว้า เนื่องจากผสมผสานหลักฮวงจุ้ยเข้ามาร่วมกับความโมเดิร์นด้วย

สัมผัสความหรูหราของที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก
ด้วยความเข้าใจและจากประสบการณ์ของ มร. มาร์ค บุลเมอร์ ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมทำให้คาร์ลตันเป็นโรงแรมที่โด่ดเด่น มีเอกลักษณ์รับกับวัฒนธรรมการต้อนรับแบบไทยอย่างลงตัว เชื่อว่าถ้าใครได้มาก็จะรู้สึกประทับใจกับการบริการที่เป็นมิตร ทุกคนอัธยาศัยดี แถมยังเพลิดเพลินกับความหรูหรา คุ้มราคาด้วย

ทางโรงแรมมีทั้งห้องพักและห้องสวีทขนาดกว้าง รวมทั้งหมด 338 ห้อง บนพื้นที่ตั้งแต่ 37 - 129 ตร.ม. ห้องพักทุกห้องถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี เพื่อการพักผ่อนที่แสนสบาย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ดังนี้

• กระจกหน้าต่างกันเสียงจากพื้นจรดเพดาน พร้อมม่านทึบแสงและมูลี่ไฟฟ้า
• สมาร์ททีวีขนาด 49 นิ้ว ระบบ Mirror Chromecast ที่สามารถส่งคอนเทนต์ไปแสดงบนหน้าจอทีวี และเปิดหน้าจอสมาร์ทโฟนของ Apple TV ได้
• เตียงเดี่ยวขนาดคิงไซส์หรือเตียงคู่พร้อมที่นอนเกรดพรีเมียมของ Sealy Posturepedic
• ห้องน้ำแบบแยกโซนแห้งและห้องอาบน้ำแบบฝักบัว
• ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ โต๊ะทำงานพร้อมปลั๊กเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบมีสายและไร้สาย
• ตู้เซฟอิเล็กทรอนิกส์และมินิบาร์
• ระบบควบคุมไฟฟ้าแสงสว่างที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เพื่อลดการใช้พลังงานกรณีที่แขกไม่อยู่ในห้องพัก และใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านเครือข่ายบรอดแบนด์ที่ครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ ระบบ IPTV เพื่อให้แขกผู้เข้าพักสามารถใช้ค้นหาข้อมูล ทั้งในด้านความบันเทิงและการบริการของโรงแรมได้ผ่านระบบดิจิตอลแหล่งเดียวกัน

ร้านอาหารดังและห้องอาหารครบทุกความต้องการ
วาล็อค (Wah Lok) : ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้งที่สร้างชื่อเสียงอันโด่งดังมาเป็นเวลาถึง 3 ทศวรรษ เสมือนเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมและเป็นหนึ่งในร้านอาหารจีนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสิงคโปร์ ซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 11 มีนาคม 2563 ใครอยากกินอาหารจีนรสเลิศแบบต้นตำรับก็ลองที่ ‘วาล็อค’เลย

ด้วยบรรยากาศที่ตกแต่งสไตล์ฮ่องกง แถมรองรับได้ถึง 194 คน จะมาประชุม เลี้ยงสังสรรค์ หรือพาครอบครัวมาก็ได้ทั้งนั้น ที่สำคัญแต่ละเมนูยังถูกรังสรรค์ความอร่อยโดยเชฟแลม ก๊ก เวง (Lam Kok Weng) Executive Chinese Chef ผู้บุกเบิกและคิดค้นเมนูต้นตำรับของร้านอาหารวาล็อค โรงแรมคาร์ลตัน สิงคโปร์ เมื่อ 30 ปีที่แล้วด้วย

เราได้ลองชิมเมนูต่างๆ จากเชฟกว่า 14 เมนู แอบเอามาบอกหลายคนไว้ก่อนเผื่อปัดหมุดไปลองกัน ได้แก่

• เมนูซิกเนเจอร์สุดพิเศษจากเชฟ ที่มาต้องห้ามพลาด ได้แก่ กุ้งทอดครีมสลัดวาซาบิ กลิ่นหอมและรสชาติวาซาบิละมุนกำลังดี ส่วนเต้าหูวาล็อคซอสเอ็กซ์โอ ตัวเต้าหู้ด้านบนเป็นปวยเล้งสปิแนชบดแล้วนำไปทอดจึงกรอบนอกนุ่มในและหอมมากๆ

• ติ่มซำทอด ได้แก่ เผือกทอดซีฟู้ด ทำออกมาเป็นหงส์ตัวน้อยกรอบนอก ไส้เผือกหอมดี ส่วนปอเปี๊ยะเนื้อปูซอสสิงคโปร์ สอดไส้ซอสพริกมาไว้แล้ว ไม่ต้องจิ้มอะไรเลย

• ติ่มซำนึ่ง ได้แก่ เกี๊ยวไก่เนื้อปูดอกถั่งเช่า หอมสมุนไพรกำลังดี, ขนมจีบกุ้งหมู, ฮะเก๋า กุ้งเต็มปากเต็มคำมาก และเกี๊ยวเจนึ่งน้ำมันทรัฟเฟิล แป้งเหนียวนุ่มหอมน้ำมันทรัฟเฟิลรสชาติดี

• ซุปเสฉวนทะเล รสชาติจัดจ้าน
• จานหลัก ได้แก่ เป็ดปักกิ่งที่หนังเป็ดกรอบมาก, เนื้อเป็ดทอดพริกเกลือ อันนี้ก็กรุบกรอบถึงเครื่อง, ถั่วแขกผัดหมูสับกุ้งแห้งซอสเอ็กซ์โอ และโกยซี่หมี่

• ของหวาน คือ เยลลี่ตะไคร้อโลเวร่าผลไม้รวม ปิดท้ายได้อย่างสดชื่นด้วยผลไม้และกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตะไคร้ เคี้ยวเพลินสุดๆ

เพลท (Plate) : ร้านอาหารแบบ all-day-dining เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน ทั้งบุฟเฟ่ต์และแบบ a-la-carte มีอาหารหลากหลายอย่างอาหารนานาชาติแบบคลาสสิก อาหารไทยยอดนิยม รวมถึงอาหารสิงคโปร์และอาหารสไตล์เปรานากันจานเด่นขึ้นชื่อซึ่งหารับประทานได้ยากในร้านอาหารหรือโรงแรมทั่วไป

ทักซิโด้ (Tuxedo) : คาเฟ่และร้านเบเกอรี่ ตั้งอยู่ส่วนเฉลียงริมระเบียงบริเวณล็อบบี้ โดดเด่นในเรื่องของวัฒนธรรมเกี่ยวกับกาแฟ และเป็นที่แรกที่ใช้เครื่องชงกาแฟ Modbar Espresso ในโรงแรมระดับ 5 ดาว รวมถึงศิลปะในการทำขนม ที่ครัวเบเกอรี่ ซึ่งเป็นครัวเปิด ทุกคนมองเห็นขั้นตอนจากทีมเชฟผู้ชำนาญ มีชุดน้ำชา-กาแฟยามบ่ายด้วยนะ เบียร์ ไวน์ และค็อกเทล ก็มีบริการทุกวันเช่นกัน

โซนสบาย และบริการต่างๆ
พลันจ์ (Plunge) : บริเวณนี้มีบาร์ริมสระน้ำที่ตั้งอยู่บนชั้น 10 ระหว่างศูนย์ออกกำลังกายและริมสระน้ำ ให้บริการเครื่องดื่ม น้ำผลไม้สดและเครื่องดื่มที่เพิ่มความสดชื่นนานาชนิดรวมถึงของว่างหลากชนิด

นอกจากนี้ พื้นที่ทั้งหมดของชั้นยังถูกออกแบบเพื่อกิจกรรมสันทนาการ สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายได้ตลอด 24 ชั่วโมง แถมยังได้เพลิดเพลิดกับสปาสุดหรูโดย Let 's Relax และ Kids’ Zone อีกด้วย

คูลลิ่งทาวเวอร์ (Cooling Tower) : บาร์บนชั้นดาดฟ้าที่ให้คุณได้ชมทิวทัศน์อันตระการตาของเส้นขอบฟ้ากรุงเทพฯ และผ่อนคลายไปกับเครื่องดื่มค็อกเทลที่รังสรรค์ขึ้นโดยเฉพาะ รวมถึงไวน์ เบียร์สด และของว่างชนิดต่าง ๆ

คาร์ลตันคลับ เลานจ์ (Carlton Club Lounge) : โซนนี้อยู่บนชั้น 33 จึงมองเห็นวิวเมืองของกรุงเทพฯ ได้ระยะไกล จากห้องรับรองทั้งในร่มและกลางแจ้ง แขกที่เข้าพักในห้องคาร์ลตัน คลับ จะสามารถเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการระดับพรีเมียม รวมถึงอาหารเช้าสุดพิเศษ อาหารว่างและเครื่องดื่มตลอดวัน และช่วงเวลาแห่งความสุขกับค็อกเทลและคานาเป้ รวมถึงการใช้บริการห้องประชุมสำหรับแขกไม่เกิน 6 ท่าน

สำหรับพื้นที่จัดงานที่บริเวณชั้น 8 และ 9 จะมีห้องจัดเลี้ยงและห้องแกรนด์บอลล์รูมขนาดใหญ่รองรับได้ถึง 600 คน จึงเหมาะทั้งการจัดงานประชุมทางธุรกิจและงานเลี้ยงสังสรรค์ทางสังคม ซึ่งกิมมิกที่ใส่ใจรายละเอียดมากๆ คือเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้แก่ จอแอลอีดีที่มีความละเอียดสูง, บริการระบบภาพ-แสง-สี-เสียง ที่ออกแบบมาพิเศษให้ปรับแต่งเองได้ด้วยระบบ RGB จึงย้อมสีทั้งห้องโดยใช้ไฟสาดได้

ใครอยากมาสัมผัสบรรยากาศและเติมเต็มประสบการณ์ดีๆ มาที่ Carlton Hotel Bangkok Sukhumvit ได้ เพราะเดินทางสะดวก ง่าย ใกล้ BTS อโศกและพร้อมพงษ์

Tag: , สุขุมวิท, ห้องอาหารโรงแรม, อาหารจีนกวางตุ้ง, โรงแรมคาร์ลตัน,