เป็นค่ำคืนสุดพิเศษสำหรับผู้รักอาหารไทยและรักการดื่มไวน์จริงๆ เมื่อห้องอาหารไทยเบซิล จัดงาน “ไวน์ดินเนอร์ Alois Lageder” ที่นำเชฟรุ่นใหม่ฝีมือดีอย่าง “เชฟกฤช ประเทืองสุข” เชฟประจำห้องอาหารไทยเบซิล และ “เชฟแบล็ค ภานุภน บุลสุวรรณ” เจ้าของร้าน Blackitch Artisan Kitchen จังหวัดเชียงใหม่มาปรุงเมนูที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมนูอาหารประจำภูมิภาคที่มีชื่อเสียงและใช้วัตถุดิบหรือส่วนผสมในท้องถิ่นที่หาได้ยาก 8 คอร์สจับคู่กับไวน์จาก Alois Lageder จากประเทศอิตาลี
เริ่มต้นมื้อพิเศษนี้กับเมนูของกินเล่นที่ทำให้ทุกคนร้องว้าวอย่าง ไข่แมงดาแพทอดและไอศครีมรสมะม่วงเปรี้ยว จากเชฟกฤช เมนูแปลกใหม่ทำไข่แมงดาทะเลทำเป็นแพกับแป้งทอดกรอบ ท๊อปด้วยหอมแขกดองและเชอเบทมะม่วงรสเปรี้ยวตัดกับรสมันๆ ของไข่แมงดาได้อร่อย และ ข้าวเกรียบฟักทองกับน้ำพริกเมล็ดฟักทองแบบอาข่าและฟักทองบด จากเชฟแบล็ค เนื้อฟักทองผสมกับเปลือกบดจนเนื้อเนียนรสหวานนุ่ม กับน้ำพริกเมล็ดฟักทองแบบอาข่าที่ใช้หอมแดง กระเทียมและพริกเผาและตำ มีรสเผ็ดร้อน เสิร์ฟบนข้าวเกรียบฟักทอง สองคำแรกนี้เสิร์ฟคู่กับไวน์ Pink Pinot Prosecco Spumante Rosato ที่มีฟองซ่าสดชื่น
ต่อด้วยเมนู เมี่ยงหมูชะมวงสด เมนูสร้างสรรค์ของเชฟกฤชที่เปลี่ยนจากแกงหมูชะมวงเพราะไม่อยากให้มีรสเปรี้ยวเกินไป จึงนำหมูไปตุ๋นจนนุ่มและฉีกเป็นเส้น หมูรสเค็มหวานเข้ากับใบชะมวงสดที่มีรสเปรี้ยวนิดๆ เจอพริกขี้หนูซอยให้คิกในปากสดชื่น เป็นการเสิร์ฟแบบใหม่ที่น่าสนใจดี
อีกจานที่อร่อยไม่แพ้กันคือ แกงผักปั๋งจิ๊นส้มย่าง เชฟนำเนื้อหมูส่วนคอและสามชั้นมาทำแหนมนำไปย่างให้มีกลิ่นหอมน่ากิน น้ำซุปใสเคี่ยวจากโครงไก่ ใส่ผักปลัง เราได้ทั้งรสเปรี้ยวนิดๆ ของแหนมที่เชฟทำเอง น้ำซุปมีกลิ่นหอมและรสอร่อย สองจานนี้เสิร์ฟคู่ไวน์ Gewurztraminer Am Sand Alois Lageder 2017 ที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้และรสหวานสดชื่น
ต่อด้วยเมนูจากเชฟแบล็คคือ ข้าวดอยบือซอมีปกาเกอะญอกับอ่องปูนา เมนูพื้นถิ่นของ ปกาเกอะญอ ที่ใช้ข้าวที่ปลูกบนภูเขาสูงเมล็ดกลมเล็กตุ๋นให้เละๆ ใส่อ่องปูนาหรือมันปูนารสเข้มข้น โรยข้าวเหนียวดำพอง สาหร่ายผำ ลูกเกดและรากบัวดอง มีหลากหลายรสในคำเดียว เสิร์ฟคู่ไวน์ Chardonnay Gaun Alois Lageder 2017 ที่เข้ากับความเข้มข้นครีมมี่ของอ่องปูได้ดี
อีกจานคือ ยำคอหมูหมักเต้าหู้ยี้ไทใหญ่ย่างกับผักกาดฮีน เชฟแบล็คใช้เต้าหู้ยี้หมักจนขึ้นราแบบไทใหญ่นำมาหมักกับคอหมูแล้วย่าง มีกลิ่นหอมที่พิเศษ กินกับผักกาดฮีนหรือ Green Mastard ที่มีรสฉุนขึ้นจมูกคล้ายวาซาบิ ตัดรสด้วยองุ่นขียวรสหวาน องุ่นแดงรสเปรี้ยว มะเขือเทศดอง ใส่ข่าอ่อนและต้นหอมญี่ปุ่นซอยเป็นเส้นให้มีรสเผ็ดนิดๆ น้ำสลัดทำจากกาแฟ น้ำปลาและน้ำส้มยูสุ เป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่หากินได้ยาก จานนี้เสิร์ฟกับไวน์ Riff Pinot Grigio 2018
มาถึงจานหลักของเชฟกฤชอย่าง จิ๊นนึ่งน้ำพริกข่า ที่ทำให้เข้ากับธีมอาหารเหนือของเชฟแบล็ค เชฟกฤชจึงนำเมนูเนื้อนึ่งสไตล์ล้านนานำเนื้อเสือร้องไห้มาซูวีนาน 24 ชั่วโมง เสิร์ฟกับน้ำพริกข่าที่เชฟทำให้เนียนละมุนขึ้นด้วยการเพิ่มน้ำมันและปั่นจนเนื้อเนียนสมูท โรยข่าสไลด์ทอดกรอบเป็นเมนูอร่อยที่เข้าคู่กับไวน์ Cabernet Riserva Alois Lageder 2015 ได้ดี
เชฟแบล็คเสิร์ฟ ปลาค้าวนึ่งกับเห็ดและผักไชยา ใช้ปลาค้าว หรือปลาค้าวขาว ปลาตัวใหญ่ยักษ์จากลำน้ำชี จังหวัดขอนแก่น เนื้อคล้ายปลาดุกกับปลาสวายแต่ไขมันไม่เยอะจึงไม่คาว นำไปหมักขมิ้น ซูวีและย่าง เสิรืฟพร้อมหมกเห็ดและผักไชยา ใส่กระบอกไม้ไผ่แล้วอบจนมีกลิ่นหอม รสชาติเข้มข้นคล้ายแกงคั่ว เข้ากับไวน์แดง Merlot MMXV Alois Lageder 2015
สุดท้ายคือขนมหวานจากเชฟกฤช ข้าวหนมบ่าแต๋งและไอศครีมกะทิ คือแตงไทยน้ำกะทิที่เชฟนำมารีคอนสตรัค รสชาติดั้งเดิมแต่เสิร์ฟโดยการเปลี่ยนรูปร่างใหม่นั่นเอง
เป็นเมนูสุดสร้างสรรค์ของเชฟรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง
ข้อมูล
- ห้องอาหารไทยเบซิล โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท, เอ ลักซ์ชัวรี่ คอลเล็คชั่น โฮเท็ล
- 8 คอร์ส ราคาท่านละ 2,800++ บาท และท่านละ 3,500++ (เสิร์ฟคู่ไวน์จาก Alois Lageder)
- โทร 02 649 8366
Tag:
, อาหารท้องถิ่น, ไวน์,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น