ภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวที่นักเดินทางจากทั่วโลกใฝ่ฝันจะมาเยือนสักครั้ง ด้วยความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของวัฒนธรรมการกิน-ดื่มอันน่าหลงใหลและกำลังเป็นที่น่าจับตามองยิ่งขึ้นเมื่อ 5 บาร์ชั้นนำรังสรรค์คอกเทลซิกเนเจอร์สุดพิเศษที่แสดงถึงตัวตนของเมืองไข่มุกอันดามันแห่งนี้
ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) เล็งเห็นศักยภาพของการเติบโตอย่างต่อเนื่องจึงจัดกิจกรรม ดิอาจิโอ รีเสิร์ฟ เวิลด์ คลาส ภูเก็ต บาร์ ฮอปปิ้ง ขึ้น โดยมีบาร์และร้านอาหารชื่อดัง 5 แห่งเข้าร่วม ได้แก่ Joe’s Downstairs, ตู้กับข้าว, Dibuka, Dibuk House และ Catch Beach Club ซึ่งไฮไลท์คือการรังสรรค์เครื่องดื่มแก้วพิเศษจากฝีมือเวิลด์คลาสบาร์เทนเดอร์ระดับท็อปของภูเก็ตจากแต่ละร้าน
Joe’s Dowstairs ร้านสีขาวริมทะเลที่มีวิวพระอาทิตย์ตกให้นั่งชมพร้อมจิบเครื่องดื่มเย็นๆ อย่าง Honeycomb แก้วนี้ถอดรหัสจากความหอมหวานคล้ายน้ำผึ้งของ Gold Label Reserve ผสานด้วยกลิ่นวานิลลา น้ำผึ้ง น้ำแอปเปิ้ล และเลมอน ได้รสชาติเปรี้ยวนำ จิบแล้วต้องกัดรังผึ้งตามเพื่อดึงความหวานของน้ำผึ้งออกมา รับรองว่าถูกใจสาวๆ แน่นอน ตามด้วย Joe Smile อีกสักแก้ว ทางร้านใช้ Tropical Fruit ล้วนๆ ทำเป็นแท่งไอศกรีม ตกแต่งมาในแก้วคอกเทล กินแล้วได้ความสดชื่น ยิ้มระรื่นแน่นอน
ตู้กับข้าว ร้านอาหารที่มีบาร์ซ่อนไว้หลังร้าน คุณตูนนำเสนอ Moscow Mule คลาสสิกคอกเทลที่มีประวัติอันน่าสนใจ แต่ปรับเปลี่ยนส่วนผสมใหม่ เริ่มจากวอดก้าเลือกเป็น Ketel One ปรับจากจิงเจอร์เบียร์เป็นน้ำเชื่อมขิงสดโฮมเมดที่ใช้น้ำผึ้งผสมให้ความหวาน ทอปด้วยจิงเจอร์เอล แก้วนี้ได้รสชาติเปรี้ยวนำจากน้ำมะนาว ได้กลิ่นและรสเผ็ดของขิงสด เสิร์ฟในแก้วสีทองแดงมีหูจับสวยงามตามแบบต้นฉบับ
Dibuka (ดีบุกก้า) ร้านอาหารในธีมเหมืองแร่ คุณโจ๊กได้แรงบันดาลใจจากคอกเทลคลาสสิก Old Fashioned เน้นความเข้มและดิบตามสไตล์ร้าน ใช้วิสกี้ Bulleit Rye และเพิ่มเติมรายละเอียดด้วยโจทย์ที่ตั้งต้นจากการเน้นใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด อย่างน้ำเชื่อม IPA ที่ใช้เบียร์ใกล้หมดอายุต้มทำเป็นไซรัป หรือเปลือกส้มที่เหลือจากการนำเนื้อส้มไปใช้เอามาอบแห้ง ได้เป็นคอกเทลชื่อ My Captain รสชาติเข้มตามสไตล์ Spirit Forward
DibukHouse (ดีบุกเฮ้าส์) เป็นบาร์คอกเทลที่ดึงดูดเหล่านักดื่มได้เป็นอย่างดี ใครเป็นสายดื่มต้องมาลอง Last Living Survived คอกเทลแก้วนี้ผ่านการคิดจากชั่วข้ามคืนในวันแข่งขันเวิล์ดคลาส 2017 ทีเด็ดอยู่ที่ชาไทยต้มกับใบมะกรูดและมิ้นต์ เรียกได้ว่าเป็นความท้าทายที่ต้องนำความไม่ค่อยเข้ากันของชาไทยกับใบมะกรูดมาผสมผสานให้ดีที่สุด ซึ่งรสชาติที่ได้ก็ไม่ผิดหวังเลย มีความเปรี้ยวนำและกลิ่นมิ้นต์บางๆ หน้าตาสวยเก๋ไม่เบา
The Catch Beach Bar เสนอคอกเทลซิกเนเจอร์สไตล์ทรอปิคอลที่ดึงเอาสัปปะรดภูเก็ตมาใช้ เติมความเป็นไทยของใบมะกรูด มีพริกแห้งทอด ส่วนผสมเป็นจิน เลมอนแชโลว์ น้ำมะนาว น้ำสับปะรดสด และไข่ขาวซึ่งทำให้เครื่องดื่มนุ่มขึ้นและรสชาติรวมตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ได้กลิ่นใบมะกรูดชัดผสานความเผ็ดของพริกแห้งในปาก
การได้มาสัมผัสบาร์ฮอปปิงครั้งนี้ทำให้เห็นถึงความพร้อมของเมืองไข่มุกอันดามันว่านอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อาหารอร่อย ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นงดงามแล้ว ยังเป็นอีกจุดหมายสำหรับสีสันยามค่ำคืนที่นักท่องราตรีต้องรีบมาสัมผัสด้วยตนเองด่วนๆ
Tag:
, ค็อกเทล, บาร์ ฮอปปิ้ง, ภูเก็ต,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น