Cross Culture Weekend กิจกรรมสุดพิเศษจากโรงแรม ดับเบิ้ลยู กรุงเทพ ที่เชิญชวนพันธมิตรจากหลากหลายประเทศมารังสรรค์ความอร่อยร่วมกัน ทั้งงานอาร์ต อาหาร และเครื่องดื่ม โดยครั้งแรกเป็น Vietnam Edition ซึ่งจับมือกับเชฟ Peter Cuong Franklin เชฟชาวเวียดนาม- อเมริกัน จากร้าน Anan Saigon ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว และติดอันดับที่ 48 ของร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย (Asia’s 50 Best Restaurants) งานนี้เชฟ Peter Cuong Franklin บินตรงจากเวียดนามมาเสิร์ฟความอร่อยกันที่ห้องอาหารพาย เดอะ เฮ้าส์ ออน สาทร โรงแรมดับเบิ้ลยู กรุงเทพ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา
เชฟ Peter Cuong Franklin เตรียม Complementary ให้แขกที่มาเยือนได้อร่อยกรุบกรอบกับ ปลาทอดสมุนไพรเหล้ารัมเวียดนาม ที่มาพร้อมซอสพริกเวียดนาม เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยรสชาติกลมกล่อมที่เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มที่บาร์สาทร ภายในงานเท่านั้น พร้อมด้วย 5 เมนูอร่อย ณ ห้องอาหารพาย เริ่มด้วย ปอเปี๊ยะฟัวกราส์ ซึ่งเป็นอาหารเวียดนามคลาสสิกที่เชฟนำเสนอในรูปแบบใหม่ โดยใช้แผ่นแป้งเวียดนามทอดกรอบและไม่อมน้ำมัน สอดไส้หมูและฟัวกราส์ เคียงด้วยมะม่วงบรูเลเนื้อหวานให้กินพร้อมกันในคำเดียว เพื่อรสชาติที่ครบรส โดยเฉพาะมะม่วงที่ช่วยตัดความมันเลี่ยนของฟัวกราส์ได้ดี
ตามด้วยสลัดแป้งเวียดนาม เมนูสตรีทฟู้ดเวียดนามที่เชฟภูมิใจนำเสนอให้มีความสนุกสนานขึ้นโดยจัดเสิร์ฟในกล่องกระดาษได้ฟีลลิงอาหารริมทาง เชฟเล่าว่าเมนูนี้มีที่มาจากแผ่นแป้งเวียดนามที่แตกหักซึ่งชาวเวียดนามก็ไม่ได้ทิ้ง แต่นำมาสร้างสรรค์เป็นของกินเล่นหลังเลิกเรียนให้กับเด็กๆ ได้รับประทานกัน เชฟจึงอยากให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับความสนุกของเมนูนี้ ที่มีรสชาติหวาน เปรี้ยว เค็ม และมีความมันจากรสสัมผัสของถั่ว คล้ายอาหารไทยแต่ก็แตกต่างกันที่ระดับความเผ็ดและปริมาณสมุนไพรที่เชฟใส่ลงไป แม้จะมีรสชาติใกล้เคียงกับอาหารไทยแต่ก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่าง
บั๋นหมี่ปาเต๊ะ บั๋นหมี่ไซส์มินิ พันด้วยเนื้อวากิว A5 ไส้ในเป็นปาเต้และไข่หอยเม่น เสิร์ฟพร้อมมันบด และผักดองที่ช่วยล้างปากได้อีกด้วย
ต่อด้วยก๋วยเตี๋ยวฮอยอันเกาเหลา เมนูซึ่งได้รับอิทธิพลจากจีน อินเดีย และญี่ปุ่น รสชาติคล้ายราเมนหรืออุด้งผสมผสานกัน ตัวเส้นมีความสู้ฟันนิดๆ ก่อนรับประทานให้คลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน นอกจากเครื่องเครามากกมายแล้ว ยังมีผักสดอย่างสะระแหน่และต้นอ่อนทานตะวันที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นซึ่งเชฟเล่าว่าเป็นสไตล์ของอาหารเวียดนามที่นิยมใส่สมุนไพรสดลงในก๋วยเตี๋ยวผัดต่างๆ
และ ปลาคอดสไตล์ฮานอย เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เชฟชื่นชอบมาก ใช้ปลาคอตดำนำเสนอในเวอร์ชันที่ทันสมัย เสิร์ฟในซอสครีมที่ทำจากผักชีฝรั่งเนื้อเบาและโฟมขมิ้น เนื้อปลามีความหอมมัน ชุ่มชื้น และไม่แห้ง เส้นที่เสิร์ฟในจานคล้ายเส้นขนมจีนของไทยแต่ขนาดเล็ก เส้นบาง และเหนียวนุ่ม เป็นจานปลาเนื้อนุ่มที่ได้กลิ่นหอมสดชื่นของซอสผักชีฝรั่งที่อร่อยติดใจ
อิ่มท้องจากห้องอาหารพายแล้ว ต้องชิลกันต่อที่บาร์ สาทร เพื่อดื่มด่ำเครื่องดื่มสุดพิเศษจากบาร์เทนเดอร์ชื่อดังในเวียดนามที่มาร่วมสร้างความตื่นตาตื่นใจกันอย่างเต็มพิกัด โดยสลับเปลี่ยนมิกโซโลจิสต์จากบาร์เลื่องชื่อต่างกันไปในแต่ละวัน อาทิ Finn Le จากบาร์ Nhau Nhau ซึ่งได้รับรางวัล 50 Best Discovery ด้วยค็อกเทลที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และเมนูสุดพิเศษอย่าง Worm Shot ที่เสิร์ฟด้วงมะพร้าวพร้อมกับเครื่องดื่มที่ไม่เหมือนใคร Liam Duong จากบาร์ Hybrid Saigon และ Vu Ngoc จากบาร์ Enigma Saigon ซึ่งได้รับการจัดอันดับเป็นบาร์ที่ดีที่สุดในเอเชียลำดับที่ 96 ด้วยการผสมผสานระหว่างองค์ประกอบดั้งเดิมและร่วมสมัย Jimmy Nguyen จากบาร์ Drinking & Healing Saigon และ Lucci Nguyen จากบาร์ Use Hanoi ที่ได้รับการยกย่องในการใช้เทคนิคที่ยอดเยี่ยมและการสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่ พร้อมกับการผสมผสานวัตถุดิบที่ใส่ใจต่อสุขภาพ
ขณะที่งานอาร์ตจัดแสดงความภูมิใจของคนเอเชียที่มีต่อ “ข้าว” และเรื่องราวความมหัศจรรย์ของเลขยกกำลังจากนิทาน “เมล็ดข้าวบนกระดานหมากรุก” ที่ Tran Quang Dai ศิลปินชาวเวียดนามชื่นชอบ และเป็นแรงบันดาลใจการจัดแสดงในครั้งนี้
แม้ว่า Cross Culture Weekend – Vietnam Edition จะจบลงแล้ว แต่ เดอะ เฮ้าส์ ออน สาทร ยังคงเตรียมพร้อมสำหรับ edition ถัดไป ซึ่งคงต้องมาลุ้นกันว่าจะเป็นการ Cross Culture กับประเทศอะไรกันต่อไป เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมกับ edition ถัดไปในเร็ววันนี้
สามารถติดตามข้อมูลและข่าวสารของ W Bangkok ที่ Facebook : W Bangkok หรือ https://bit.ly/WBangkokHWS
Tag:
W Bangkok, อาหารเวียดนาม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น