เราจะรู้ว่ามาถึงห้องอาหารจีน แชงพาเลซ (Shang Palace) เมื่อได้พบกับรูปปั้นพระสังกัจจายน์องค์ใหญ่ยิ้มแย้มเบิกบาน และที่หน้าประตูยังมีลายฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นภาษาจีนเขียนไว้ว่า “Living in the Lost Heaven” ซึ่งก็หมายถึงชื่อ Shangri-la ดินแดนที่งดงามราวสรวงสวรรค์ จากบทประพันธ์เรื่อง The Lost Horizon นั่นเอง เรามาเยือนแชงพาเลซคราวนี้ เพราะจะมาลิ้มรสอาหารจีนระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว จากฝีมือของ เชฟม๊ก กิ๊ด คว่อง (Mok Kit Keung) Executive Chinese Chef จาก โรงแรมแชงกรี-ล่า สิงคโปร์ ซึ่งก่อนหน้านี้เชฟเคยประจำอยู่ที่ห้องอาหารแชงพาเลซ ที่ฮ่องกง ซึ่งเชฟได้คว้าดาวมิชลิน 2 ดวงมาได้นั่นเอง และเพียงระยะเวลาสั้นๆ ระหว่างวันที่ 6-12 มิถุนายนนี้ เชฟจะมาประจำที่ห้องอาหารแห่งนี้ ให้ชาวไทยได้ลิ้มรสอาหารจีนชั้นยอดกันแบบใกล้ๆ ไม่ต้องบินไปไหน

เมนูที่สร้างชื่อให้เชฟและเราจะได้ลิ้มลองกันเป็น “อาหารกวางตุ้งแนวโมเดิร์น” สามารถสั่งเป็นแบบ a la carte มาทานร่วมกันได้ตามสไตล์อาหารจีน สำหรับออร์เดิร์ฟ เราได้ลองเมนู หมูเอบิริโกย่างบาร์บีคิวซอสน้ำผึ้ง ใช้เนื้อหมูพันธุ์เอบิริโกจากเสปนที่เนื้อนุ่มละมุน ภายนอกฉาบน้ำผึ้งย่างจนหอมหวาน ส่วนใครชอบเห็ดหอม ต้องลองสั่ง เห็ดหอมทอด ซึ่งไม่ได้ทอดกรอบแบบบ้านเรา แต่จะทอดจนภายนอกแห้งแต่ภายในยังมีความจุ๊ยซี่และมีรสชาติของซอสเกรวี่ในเนื้อเห็ดอย่างเต็มปากเต็มคำ เป็นจานเรียกน้ำย่อยที่ทานได้เพลินทีเดียว อีกจานที่ขอแนะนำคือ ขานกกระทาทอดกระเทียมกรอบ จานนี้ใช้มือหยิบขึ้นมาทานได้เลยเพื่อความอรรถรส เมื่อกัดผ่านแป้งบางกรอบลงไปจะได้สัมผัสกับเนื้อนกกระทานุ่มชุ่มฉ่ำอยู่ภายใน และมีกระเทียมสับเจียวกรอบมาให้กินแกล้มด้วย

ขยับมาที่เมนูซุป ซุปไก่ตุ๋นรังนกพิเศษ เสิร์ฟมาในลูกมะพร้าวขนาดเล็ก น้ำซุปหอมหวานด้วยเนื้อไก่ตุ๋น เห็ดมัตซึตาเกะ และเนื้อหอยสังฆ์ นอกจากนี้ยังสัมผัสได้ถึงความหอมหวานละมุนบางเบาของน้ำมะพร้าว เพราะเชฟใช้น้ำมะพร้าวเป็นส่วนผสมของซุปด้วย จึงได้เสิร์ฟในมะพร้าวทั้งลูกที่ยังมีเนื้ออยู่นั่นเอง

มาถึงจานหลักที่เรียกได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ของเชฟม๊ก เมื่อเชฟบินมาถึงที่ มีหรือที่เราจะพลาด กับเมนู ปลาค็อดเจี๋ยนไข่ขาวและกังป๋วย ซึ่งเชฟเล่าว่าวันหนึ่งๆ เมนูนี้ขายได้เป็นพันจานเลยทีเดียว เนื้อปลาค็อดชิ้นสวยปรุงรสนำไปอบจนสุกกำลังดี วางบนไข่ขาวที่ผัดกับกังป๋วยจนฟูนุ่ม ราดด้วยซอสบัลซามิคเข้มข้นเพื่อตัดรสกัน เสิร์ฟกับเหล่าดอกไม้ทานได้ที่สวยงาม จะเห็นว่าอาหารจีนของเชฟนั้นไม่หนักและไม่มันเหมือนอาหารจีนที่เรามักคิดกัน นี่ก็เป็นอีกจานเบาๆ ที่ทานได้จนหมดไม่รู้ตัว

มาที่จานผักกันบ้าง จานนี้ทั้งหน้าตาและสีสันต่างจากจานผักในอาหารจีนทั่วไป กับเมนู มะเขือเทศสอดไส้เห็ดมอเรล สีแดงสดใสของมะเขือเทศที่นำไปเคี่ยวทั้งลูกจนได้รสหวานและโกจิเบอร์รี่รสหวานอมเปรี้ยว ตัดกับสีเขียวของผักโขมที่สอดไส้อยู่ภายใน ด้านบนทอปด้วยเยื่อไผ่และเห็ดมอเรล เป็นจานผักที่มีรสหวานสดชื่นตัดกับรสเข้มข้นที่แทรกอยู่ในเยื่อไผ่และเห็ดมอเรลได้ดีทีเดียว ปิดท้ายจานหลักด้วยเมนู เส้นหมี่ผัดสิงคโปร์ โรยหน้าด้วยเนื้อปูและแฮมยูนนาน ซึ่งผัดได้กำลังดี ไม่แห้งเกินไป ได้รสนุ่มละมุนของเส้นและไข่ที่ไม่เลี่ยนน้ำมันแม้แต่น้อย

กินคาวแล้วไม่กินหวานคงไม่ได้ เซ็ทของหวานที่เราได้ลิ้มลองในวันนี้เสิร์ฟมาในจานที่รูปทรงคล้ายจานสีของศิลปิน คงจะเปรียบของหวานแต่ละจานเป็นสีสันต่างๆ ที่แต่งแต้มมื้อนี้ให้สมบูรณ์กระมัง ซาลาเปาแตงโม ทำออกมาได้น่ารักและอร่อย และสาคูขนุนถ้วยเล็กๆ ก็ซดได้ลื่นคอ ทานขนมคู่กับชาร้อนๆ เป็นการปิดท้ายมื้ออย่างสมบูรณ์

เมนูอร่อยจากฝีมือของเชฟม๊ก ราคาเริ่มต้นที่จานละ 380++บาท ถึง 8,880++บาท ติดต่อสำรองที่นั่งได้ที่ ห้องอาหารแชงพาเลซ โทร.0-2236-7777, 0-2236-9952 หรืออีเมล restaurants.slbk@shangri-la.com รีบหน่อยเพราะเชฟจะประจำการอยู่แค่ระหว่างวันที่ 6 – 12 มิถุนายน 2561 นี้เท่านั้น

Tag: , มิชลินสตาร์, อาหารจีน,