Banyan Tree และ Sanpellegrino มอบประสบการณ์การล่องเรือ Saffron cruise ชมวิวริมเจ้าพระยา พร้อมดื่มด่ำรสชาติอาหารถึง 8 คอร์ส โดยฝีมือเชฟหญิงมืออาชีพที่งาน 8-Hand women in Gastronomy เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567
เชฟเรณู เลือกเสิร์ฟออร์เดิร์ฟเป็นเมี่ยงเผาแสร้งว่ากุ้ง ปลากะพงกรอบฟู สลัดกุ้งแม่น้ำย่างถ่าน ราดซอสสมุนไพรรสเปรี้ยว เสิร์ฟกับใบพลูในถ้วยทรงสามเหลี่ยม กินแล้วได้รสชาติคล้ายยำปลาดุกฟู ซ้อนด้วยถ้วยใส่ข้าวคั่วหอมๆ
เชฟส้มเสิร์ฟบิสกิตไส้สับปะรดที่เนื้อนิ่ม ไม่เหนียวในชื่อเมนู Kopai River
Ricotta Cheese จากเชฟซาช่า ชีสราดด้วยน้ำยาป่า ท็อปด้วยบ๊วยหั่นเป็นชิ้นให้ตัดรสนมของชีส
เมนูนี้ เชฟซากิตั้งใจสร้างสรรค์ขนมครกของไทยในรูปแบบใหม่ คือทำเป็นเนื้อสัมผัสแบบ sabayon และปิดท้ายด้วยคาเวียร์บนเนื้อครีมมะพร้าว คงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของขนมครกไว้ได้ดี ตกแต่งด้วยหินล้อมรอบขนมครก
Isaan Carpaccio ของเซฟซาช่า ดัดแปลงเมนูภาคอีสานอย่างลาบก้อย ปั้นเนื้อวากิวเป็นทรงวงรี โรยทรัฟเฟิลดำวางคู่กับซอสบีทรูทผสมมะขามแดงสีสวย รสชาติอมเปรี้ยว สำหรับคนไม่กินเนื้อเชฟก็จะเปลี่ยนเนื้อเป็นเห็ดให้
อีกเมนูของเชฟส้มคือ Duo of Oyster Kiss & Fish Bite เป็นคอร์สที่เสิร์ฟ 2 ส่วนพร้อมกัน ส่วนแรกคือหอยนางรมสดและแป้งหอยทอดกับถั่วงอก อีกส่วนคือปลาคอดย่างของญี่ปุ่นบนข้าวสมุนไพร
ข้าวซอยเป็ดฉบับบันยัน โดยเชฟเรณู เลือกนำส่วนอกเป็ดมาหมักและย่าง ประกบด้วยหมี่กรอบด้านบน และใต้เป็ดคือหมี่ภูเก็ต เวลาราดน้ำข้าวซอยแล้วรสชาติเข้ากันดีทุกอย่าง
จบคอร์สด้วยพาร์เฟต์ฝรั่งจากเชฟซากิ ให้ความรู้สึกสดชื่นด้วยฝรั่งอัดแข็งเป็นก้อนกลม ก่อนที่จะปิดด้วยเมอแรงค์กระเจี๊ยบแผ่นกลม เป็นของหวานที่แปลกใหม่ แต่อร่อยมาก
ทั้งนี้ บางเมนูก็จะจับคู่กับสาเก ซึ่งแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสาเกอย่างคุณนาโอโกะ ช่วยชูรสชาติอาหารได้ดีขึ้น
เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่อิ่มอร่อย และสุนทรีย์มาก เพราะนอกจากจะได้กินอาหารคุณภาพดีถึง 8 คอร์สแล้ว ยังได้ฟังนักร้องเสียงทรงพลังร้องเพลงให้ฟังระหว่างมื้อ (หนึ่งในนั้นมีคุณแก้ม วิชญาณีด้วย) และยังเป็นงานที่ได้ร่วมสมทบทุนช่วยเหลือมูลนิธิบ้านกึ่งวิถีหญิงอีกด้วยอีกด้วย
Tag:
บันยันทรี, วันสตรีสากล
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น