ยกระดับประสบการณ์การกินอาหารให้อิ่มเอมทุกประสาทสัมผัสไปกับ Immersive Experience Fine Dining โปรเจ็คต์พิเศษโดย ARTLICIOUS x Le Lapin Bangkok นำเสนอมื้ออาหารไทยรูปแบบใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ละครประกอบมื้ออาหาร “ร้อยรสบุพเพสันนิวาส” (The Taste of Bhuppae Sanniwat) สร้างสรรค์เมนูโดย เชฟแก้ว-ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร และ เชฟผึ้ง-ปุญญเนตร ธนัพประภัศร์ จากรายการ Master Chef Thailand Season 1 และ 2 สอดผสานไปกับการแสดงแสงสีเสียงที่ตระการตาโดย บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์อย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน
ร้าน ARTLICIOUS ร้านอาหารน้องใหม่ที่มุ่งนำเสนอประสบการณ์ Immersive Experience Fine Dining แห่งเดียวในประเทศไทย และ Le Lapin Bangkok ผู้มอบ Experience Dining ด้วยเทคนิคอนิเมชั่นนำเสนอในมื้ออาหาร ร่วมกันออกแบบคอร์สเมนูอาหารไทยที่ผสมผสานทั้งตำรับดั้งเดิมและเมนูอินโนเวทีฟ ด้วยแรงบันดาลใจจากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส อาทิ หมูโสร่ง หรุ่ม ม้าฮ่อ แกงเหงาหงอด กุ้งแม่น้ำเผา มะม่วงน้ำปลาหวาน และดอกปาริชาติ
คอร์สอาหารถูกเล่าผ่านเรื่องราวของ “ออแก้ว” หญิงสาวผู้หลงใหลการทำอาหารโดยไม่เกรงกลัวที่จะนำสิ่งใหม่ๆ เข้ามาผสมผสานกับวัฒนธรรมดั้งเดิม และชายหนุ่มจากยุคอดีตผู้หัวแข็งและรักมั่น แต่ละบทถ่ายทอดด้วยอาหารไทยตามขนบที่สอดแทรกความคิดสร้างสรรค์ลงไป เริ่มจากเมนูเครื่องว่าง เมื่อแรกพบ ประกอบด้วย หมูโสร่ง หรุ่ม และม้าฮ่อบัวหลวง จานนี้ต้องฉีดน้ำหอมกินได้กลิ่นบัวหลวงลงไปเพิ่มความหอมละมุนชวนกิน
ตามด้วยเครื่องจิ้ม เพียงสบตา เป็น หลนปูม้า ที่รสชาติของหลนซ่อนอยู่ในตัวข้าวเกรียบบางกรอบ ให้เราได้ลิ้มรสท่ามกลางเสียงและภาพของคลื่นที่ซัดสาดชวนผ่อนคลาย จากนั้นเป็นชามแกง สายลมเจ้าเอย หรือก็คือ แกงเหงาหงอด ที่ใช้เนื้อปลาหิมะนุ่มละมุน ราดด้วยน้ำแกงที่มีส่วนผสมของพริกชี้ฟ้า กะปิ กระชาย และโหระพา หอมสมุนไพร
เข้าสู่จานหลัก หวนรำลึก เป็นเมนู กุ้งเผา ของดีจังหวัดอยุธยา เสิร์ฟกับน้ำจิ้มสองแบบคือซอสแกงคั่วและน้ำจิ้มซีฟู้ด ตามด้วย คะนึงหา เมนู กระทะร้อน ให้เราย่างเนื้อบนกระทะหมูกระทะขนาดพิเศษ ภายใต้บรรยากาศของหมู่ดาวและแสงพร่างพราวของหิ่งห้อยนัยร้อยนับพัน
คั่นด้วยขนมหวานสำหรับเคลียร์ลิ้น สลักจิตร เป็นการเสิร์ฟ มะม่วงน้ำปลาหวาน ทั้งแบบดั้งเดิมและแบบตีความขึ้นใหม่เคียงคู่กัน เป็นจานที่ทั้งสวยงาม สดชื่น และอร่อยลิ้น
ปิดท้ายด้วย กรุ่นกลิ่นไอรัก ที่มีต้นแบบจาก ดอกปาริชาติ จานนี้เสิร์ฟท่ามกลางมวลหมู่ดอกไม้ที่บานพรึ่บไปทั้งห้อง ตรงหน้าคือดอกปาริชาติแสนสวยที่รวมความอร่อยของลิ้นจี่ กุหลาบ และราสป์เบอร์รีเอาไว้ รสหอมหวานเช่นกันกับตอนจบของเรื่องราวของออแก้ว เป็นการปิดฉากมื้ออาหารอันน่าเพลิดเพลินได้อย่างลงตัว
Immersive Experience Fine Dining ร้อยรสบุพเพสันนิวาส เปิดให้ลิ้มลองผ่านการจำหน่ายบัตร โดยเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน - 20 ธันวาคม 2566 ให้บริการวันละ 1 รอบ (เวลา 17.00–19.00น.) ณ ร้าน ARTLICIOUS (อาคาร Index Creative Village ชั้น 5) ซอยปรีดีพนมยงค์ 42 สุขุมวิท 71 จำหน่ายบัตรที่ https://artliciousbkk.com ในราคา 6,500 บาท/ท่าน (ราคานี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แล้ว) สอบถามเพิ่มเติมที่โทร 092-662-0446 LINE OA : @artlicious หรืออีเมล Artlicious@index-creative.com
Tag:
อาหารไทย, ไฟน์ไดนิง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น