ซัมเมอร์นี้! หากใครกำลังหาสถานที่คลายร้อน ปักหมุด SEA LIFE Bangkok ไว้เลย กับการผจญภัยสำรวจความมหัศจรรย์แห่ง “Rainforest” ป่าดิบชื้นใจกลางเมือง พร้อมชมโฉม 9 สัตว์แปลก! ที่สยามพารากอน

Rainforest เป็นป่าอันร่มรื่นและเขียวชอุ่มตลอดทั้งปี เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมาก ทำให้ต้นไม้ไม่มีการผลัดใบเพื่อลดการคายน้ำ อีกทั้งยังเป็นบ้านหลังใหญ่ของพันธุ์ไม้และสัตว์กว่าพันชนิด โดยทางอควาเรียมได้ปรับโฉมพื้นที่ใหม่ เพื่อจำลองโครงสร้างป่าอันสลับซับซ้อน จำแนกที่อยู่อาศัยของต้นไม้และสัตว์ป่าตามระดับชั้นความสูงของพื้นที่ป่า อีกทั้งยังสร้างบรรยากาศโดยรอบด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด กลิ่นไอธรรมชาติ หมอก ไอน้ำ และสัตว์ป่าสุดหายาก

ทาง SEA LIFE ได้แบ่งพื้นที่ของป่าออกเป็น 4 โซนแบบย่อยๆ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ส่วนของยอดไม้ไล่ไปจนถึงผืนดินและใต้ผืนน้ำ ซึ่งแต่ละระดับก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป อาทิ ‘Tree Top’ พื้นที่จำลองชั้นเรือนยอดไม้ (Canopy) เป็นระดับชั้นยอดไม้ที่ขึ้นสูงที่สุดเพื่อแข่งกันรับแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นจุดเด่นของป่าดิบชื้น มีหมอกและไอน้ำจำลองสภาพอากาศตลอดทางเดิน โดยในโซนนี้ทุกคนจะได้พบกับสัตว์ที่อาศัยอยู่บนต้นไม้อย่าง มดตะขอเบ็ด (Fish Hook Ant) มดพันธุ์หายากที่มักอาศัยอยู่บริเวณต้นไม้แห้งๆ ซึ่งมดชนิดนี้มีจุดเด่นคือตะขอ 2 คู่ ที่เอาไว้จับเหยื่อและป้องกันตัว

ตะกวดต้นไม้ (Tree Monitor) เป็นตะกวดลำตัวแบนยาว เพศผู้จะมีหงอนเพื่อใช้ดึงดูดตัวเมีย มีทั้งสีเขียวสดใส และสีออกเหลือบน้ำเงินถึงดำ กบลูกศรพิษสีส้ม (Orange Dart Frog) และ กบลูกศรพิษสีทอง (Golden Dart Frog) อย่าหลงใหลในความน่ารักปนสีสันฉูดฉาดของกบไซส์มินิชนิดนี้ เพราะเพียงแค่สัมผัสโดนอาจส่งผลให้ถึงแก่ชีวิตได้ โดยเฉพาะกบลูกศรพิษสีทองที่ถูกจัดให้เป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก

โซนที่ 2 ‘Cave’ ถ้ำจำลองลักษณะหินงอกหินย้อย ที่เป็นแหล่งหลบภัยและที่พักอาศัยของแมลงแปลกๆ มากมายทั้ง แมลงสาบมาดากัสการ์ (Hissing Cockroach) ด้วยขนาดที่ใหญ่กว่าแมลงสาบสายพันธุ์อื่นๆ บินไม่ได้และไม่มีพิษ จึงกลายเป็นสัตว์สายพันธุ์ใหม่ล่าสุดที่กำลังครองใจหมู่คนรักแมลง แมงป่องช้าง (Asian Forest Scorpion) แมงป่องที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีนิสัยก้าวร้าว ชอบอาศัยในที่มืด แมงมุมนกยูง (Peacock Tarantula) แมงมุมยอดนักเต้นขนาดจิ๋ว มีหลากสีสัน ตัวผู้สามารถแพนหางที่ก้นออกมาคล้ายนกยูง เพื่อดึงดูดตัวเมีย

โซนที่ 3 ‘Tree Trunk’ ชั้นใต้เรือนยอด (Understory) นำเสนอระบบนิเวศในช่วงกลางลำต้นและกิ่งไม้ ซึ่งเป็นชั้นที่เหมาะสำหรับการซ่อนตัวของสัตว์ตัวเล็กๆ เช่น กิ้งก่าชายน้ำ (Sailfin Dragon) หนึ่งในกิ้งก่าพันธุ์หายาก ที่มีสีสันสวยงามจึงมักถูกมนุษย์ล่าเป็นประจำ ชอบอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำเป็นพิเศษ และ เต่าเสือดาว (Leopard Tortoise) เต่าบกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีจุดเด่นเป็นกระดองที่มีลายจุดสีดำคล้ายเสือดาว

และโซนสุดท้าย Ground Level หรือ ชั้นพื้นป่า (Forest Floor) ที่รวมไปถึงแหล่งน้ำต่างๆ เป็นพื้นที่อนุบาลต้นไม้ที่เพิ่งเกิด มี Living Wall กำแพงต้นไม้ที่จะนำเสนอพันธุ์ไม้ป่าที่อุดมสมบูรณ์ ตัวชูโรงของโซนนี้ ได้แก่ งูเหลือม (Reticulated Python) งูไซส์เบิ้มที่มาพร้อมลูกเล่นอินเตอร์แอคทีฟอย่าง Laser Eyes จออินฟาเรดจำลองภาพจากสายตางูที่สามารถจับรังสีความร้อนได้นั่นเอง

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม “Keeper’s Talk…เรื่องเล่าจากคนดูแลสัตว์” ของเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่จะมามอบความรู้และเปิดให้ชมความน่ารักของสัตว์เลื้อยคลานหลากหลายชนิดแบบไม่มีกระจกกั้น! ของทุกๆ วัน วันละ 3 12:15, 14:15 และ 16:15 น. อีกทั้งตลอดทางเดินยังสามารถรับชมความงดงามใต้ท้องทะเล Ocean World และความน่ารักของเหล่าสรรพสัตว์ได้อีกด้วย

ข้อมูล

• พิกัด : โซน Rainforest ที่ชั้น B1-2 ณ SEA LIFE Bangkok Ocean World สยามพารากอน
• เวลาทำการ : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00 - 20.00 น. (เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 19.00 น.)
• เว็บไซต์ : https://www.visitsealife.com/bangkok/

Tag: ซีไลฟ์ แบงคอก, สยามพารากอน, สัตว์