เผลอแป๊บเดียว Restaurant Stage (สตาซ) ร้านอาหารสไตล์แคชชวลไฟน์ไดน์นิ่งสุดชิคแห่งย่าน เอกมัย ก็พาเราออกเดินทางลิ้มรสวัตถุดิบและรสชาติที่หลากหลายผ่านเมนูอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัยจนมาถึง Stage Menu 10.0 เทสติ้งเมนูใหม่ล่าสุดที่รังสรรค์โดย เชฟเจย์ - สายนิสา แสงสิงแก้ว Chef Patron ร่วมกับ Head Chef คนใหม่ เชฟอาร์ม – นนทบุตร จันทร์สว่าง ออกมาเป็นเหล่าเมนูที่น่าลิ้มลองด้วยรูปลักษณ์และสีสันชวนกินตั้งแต่อะมูสบุสไปจนถึงของหวาน และยังคงเน้นย้ำในคุณภาพและความโดดเด่นของวัตถุดิบที่คัดสรรมาจากทั่วโลก ผสานกับเทคนิคการปรุงอันซับซ้อนเพื่อดึงความอร่อยของวัตถุดิบอย่างน่าประทับใจ

Stage Menu 10.0 มีความเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การไล่เรียงอาหารแต่ละคอร์สมีความละเมียดละไมไปกับการไต่ระดับของรสชาติของอาหารแต่ละจานซึ่งมีความชัดเจนแต่ก็กลมกล่อมและการนำเสนอที่เรียบง่ายสง่างาม เริ่มจาก Welcome Bites ประกอบด้วยอะมูสบุช 3 อย่างที่ชวนให้ตื่นตาด้วยสีสันสดใสและรสชาติที่แตกต่างกัน คำแรก มูสตับเป็ด บนแป้งพายบางกรอบใส่เชอร์รีเจลและซันดรายเชอร์รี ทอปด้วยเจลลีมูลไวน์หอมหวาน ตามด้วย อิคุระเคียวร์ เสิร์ฟกับฮันนี่ครีม ทอปด้วยเกสรผึ้ง ประกบด้วยบิสกิตกรอบเค็มมันเคี้ยวเพลิน และเจลแอปเปิลแกรนนีสมิธดอง ใส่เซเลอรี ประดับด้วยครีมดิลล์ ให้รสสดชื่น

เข้าสู่จานเรียกน้ำย่อยด้วยวัตถุดิบเด่นในฤดูกาล White Asparagus / Hollandaise / Parmesan / Truffle หรือ ทาร์ตหน่อไม้ฝรั่งขาว ตัวทาร์ตทำจากอัลมอนด์ ทอปด้วยหน่อไม้ฝรั่งขาวจากฝรั่งเศสแล้วนำไปอบ เสิร์ฟกับฮอลันเดสซอสรสเข้มข้น ประดับด้วยพาร์เมซานชิปรูปใบไม้กรุบกรอบและทรัฟเฟิลฝานบาง

ตามด้วยจานเด่นตลอดกาลของร้านสตาซที่อัปเกรดเวอร์ชั่นให้อร่อยขึ้น Caviar Box Version 2 ภายใต้ชั้นของออสเซตรา คาเวียร์ (Oscietra Caviar) อัดแน่นไปด้วยความหวานฉ่ำของบาฟุนอุนิและครีมเฟนเนล ตัดรสด้วยเซเลอรีดองและเจลลีที่ทำจากเปลือกล็อบสเตอร์และปู เป็นความอร่อยของสุดยอดวัตถุดิบที่ประสานกันอย่างลงตัว

จานต่อมา Wild-caught Tiger Prawn / Endive / Mustard เนื้อกุ้งลายเสือจากธรรมชาติย่างถ่านบิโจตัน เสิร์ฟกับผักเอนไดว์ ทอปด้วยมัสตาร์ดกรอบ ราดซอสเบอร์บล็อง

พักครึ่งด้วย Bread & Butter / Speck ขนมปังโรลเนื้อนุ่มแสนอร่อยเสิร์ฟกับเนยมะเขือเทศและพริกหวาน แตงกวาดองกรอบกรุบรสเปรี้ยวหวานพอดี กินกับเนื้อเป็ดเคียวร์ฝานบางที่แม้จะบางแต่ก็มีรสชาติอัดแน่นเค็มๆ หอมๆ นุ่มหนึบ กินด้วยกันทั้งหมดเพลิดเพลินมาก

ต่อมาเป็น Turbot / Japanese Pumpkin / Roasted Chili & Pink Pepper เราหลงรักเนื้อปลาเทอร์บอตจากฝรั่งเศสที่ปรุงได้อย่างเหนือชั้นกับสัมผัสที่นุ่มละมุนแต่ยังมีความเด้งและชุ่มฉ่ำ เสริมรสด้วยซอสพริกแดงย่างและพิงค์เปบเปอร์คอร์นให้รสเปรี้ยวและเผ็ดนิดๆ ทอปด้วยน้ำมันเมล็ดฟักทองย่าง ตัดรสด้วยฟักทองญี่ปุ่นบดที่หวานแต่แอบสไปซี่เพราะมีแรงบันดาลใจมาจากเมนูผัดฟักทองใส่ผงกะหรี่ของคุณแม่ของเชฟอาร์ม

ตามด้วย Ragù de Canard ราวิโอลีคำเล็กสอดไส้เนื้อเป็ดกงฟีราดด้วยพิงค์ซอส มีทอปปิ้งเคียงเป็นหอมและกระเทียมเจียวกรอบๆ ช่วยเสริมทั้งรสชาติและสัมผัสได้อย่างลงตัวมาก

คอร์สพาเราเข้าสู่จานหลักซึ่งมีให้เลือกระหว่าง Stanbroke Wagyu Tenderloin / Eggplant Black Garlic / Nori Burnt Leek เนื้อวัวออสเตรเลียนวากิวส่วนเทนเดอร์ลอยน์เนียนนุ่ม เสิร์ฟกับมูสกระเทียมดำและมะเขือ และต้นหอมพันด้วยสาหร่ายเบิร์นไฟหอมๆ และ Klongphai Chicken / Truffle / Wild Mushroom เนื้อไก่คลองไผ่ ไก่ออร์แกนิกละมุนลิ้น เสิร์ฟกับเห็ดป่าปรุงรส เห็ดมอเรล และเห็ดทรัฟเฟิล

ปิดท้ายด้วยของหวาน Millefeuille ในแบบของสตาซ ทำเป็นมิลเฟยชิ้นเล็กพอดีคำ 2 รสชาติ วานิลลาและโกโก้ เสิร์ฟกับไอศกรีมวานิลลาและซอสเจลเบอร์รี และตามธรรมเนียมของร้านสตาซ ยังมี Dessert Trolley รถเข็นขนมหวานโฮมเมดอีกร่วมสิบรายการมาให้เลือกลิ้มชิมกันได้ตามอัธยาศัย แต่ขอเตือนว่าชิ้นไม่เล็กนะคะ เลือกที่ใช่มากินคู่กับชาร้อนๆ สักแก้วกำลังดี

เทสติ้งเมนูใหม่นี้สร้างความประทับใจให้กับเราได้ในทุกจาน และยังมีกลิ่นอายของอาหารคอมฟอร์ตที่มอบความสบายใจสบายลิ้นด้วยการปรุงอย่างพิถีพิถัน ลงลึกในรายละเอียดแต่ไม่มากหรือน้อยเกินไป ชวนให้อยากกลับไปกินได้บ่อยครั้ง

Restaurant Stage ได้รับการแนะนำในคู่มือมิชลินไกด์ประเทศไทย 2020-2022 มาลิ้มลองเมนูใหม่กันได้ที่ถนนเอกมัย (ระหว่างซอยเอกมัย 19 และเอกมัย 21) เปิดให้บริการทุกวัน มื้อกลางวัน เวลา 12:00 - 14:30 น. มื้อค่ำ เวลา 18:00 - 00:00 น. (เปิดรับจองโต๊ะรอบสุดท้ายถึงเวลา 20:30 น.) เลือกลิ้มลองได้ทั้งแบบ 6 คอร์ส ราคา 2,900++ บาท หรือ ‘STAGE Experience 10.0’ 10 คอร์ส ราคา 4,900++ บาท เพิ่มไวน์แพร์ริ่ง 3 แก้ว 1,700++ บาท / 6 แก้ว 3,200++ บาท สำรองที่นั่งที่ โทร. 02-002-5253 และ 083-623-4444

Tag: มิชลินไกด์ ประเทศไทย, อาหารฝรั่งเศส, เอกมัย