เพราะจังหวัดฟุกุโอกะเต็มไปด้วยวัตถุดิบรสเลิศรอให้ทุกคนได้ค้นพบอีกมากมาย อีกทั้งยังเป็นการฉลองความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องของกรุงเทพฯ และฟุกุโอกะครบรอบ 15 ปี เชฟโนริฮิสะ มาเอดะ เชฟหัวหน้าห้องอาหารญี่ปุ่นคินูบายทาคากิ (KINU BY TAKAGI) โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ จึงพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวัตถุดิบที่ดีที่สุดจากจังหวัดฟุกุโอกะที่พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2566
สำหรับครั้งนี้ เชฟมาเอดะได้รังสรรค์คอร์สสุดพิถีพิถันจากวัตถุดิบของฟุกุโอกะให้คนรักอาหารญี่ปุ่นได้ลิ้มลองหลายคอร์สด้วยกัน อาทิ Kaki-Namasu เมนูที่กินเพื่อความโชคดีช่วงต้นปี โดยเชฟใช้ลูกพลับพันธุ์ฟูยุที่ปลูกในฟุกุโอกะที่เต็มไปด้วยความหอมหวานซึ่งเก็บเกี่ยวระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ หั่นเป็นเส้นยาวๆ เคล้ากับผักดองรสเปรี้ยวสดชื่น เนื้อปูหิมะ และหอยเชลล์ ราดด้วยซอสเจลลี่ยูซุ (เชฟใส่ขึ้นฉ่ายของไทยเข้าไปด้วย) เป็นเมนูที่เต็มไปด้วยรสเปรี้ยวหวานสดชื่น
อีกหนึ่งวัตถุดิบที่ชาวฟุกุโอกะภาคภูมิใจคือหอยนางรมฮิโตตซูบุจากทะเลบูเซ็น 1 ในคอร์สเมนูไฮไลต์ของมื้อค่ำ นอกจากหอยนางรมจะตัวโต เนื้อแน่น ยังมีรสเข้มข้น เพราะได้รับการเลี้ยงในน้ำในทะเลบูเซ็นไม่มีคลื่นสูงและมีแพลงตอนอยู่จำนวนมาก เมื่อนำมาปรุงอาหาร เนื้อหอยจะแน่นฟูไม่ยุบตัว ครั้งนี้เชฟมาเอดะเสิร์ฟแบบร้อนและเย็น ทั้งหอยนางรมฮิโตตซูบุและชิราโกะห่อด้วยเต้าหู้แล้วทอดแบบดีปฟรายส์ ราดซอสดอกเก๊กฮวย เสิร์ฟคู่กับหอยนางรมฮิโตตซูบุลวกที่เนื้อจะมีความแน่นกรอบ ตัดรสด้วยคาเวียร์
และที่มาพร้อมเนื้อสัมผัสนุ่มนวลละลายในปากคือเนื้อฮากาตะวากิว ที่ถูกเลี้ยงด้วยฟางข้าวจากข้าวที่ปลูกในฟุกุโอกะและธัญพืชนานาชนิด อีกทั้งยังถูกเลี้ยงในพื้นที่ที่ดี อากาศปลอดโปร่ง ส่งผลให้เนื้อวัวมีความนุ่มอร่อยและชั้นไขมันลายหินอ่อนสวยงาม กลิ่นและรสชัดเจน โดยเชฟนำมาย่างด้วยเตาถ่านให้สุกแบบมีเดียมแรร์ราดด้วยซอสเทอริยากิ เสิร์ฟพร้อมผงไข่แดง สไลซ์แบล็กทรัฟเฟิลกลิ่นหอมจรุงปิดท้าย เป็นจานที่มีสเน่ห์มากทีเดียว
และนี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ลองชิมสาหร่ายอะริอะเกะ สุดยอดสาหร่ายของดินแดนอุทัยจากทะเลอะริอะเกะ ความพิเศษอยู่ที่ช่วงเวลาน้ำขึ้นและน้ำลงจะมีความแตกต่างมากกว่า 6 เมตร อีกทั้งยังเก็บในตอนกลางคืนซึ่งเป็นช่วงที่สาหร่ายกักเก็บแสงแดดและสารอาหารไว้อย่างเต็มที่จึงมีรสชาติกลมกล่อมเป็นพิเศษ (ได้รับความนิยมขนาดที่ผลิตมากกว่า 2 พันล้านแผ่นต่อปี) โดยเชฟนำสาหร่ายมาย่างให้มีความกรอบเล็กๆ จากนั้นนำมาท็อปบนข้าวญี่ปุ่นร่วมกับอิคุระ ปลาดิบ และไข่ออนเซ็น เมื่อกินด้วยกันแล้วลงตัวที่สุด
นอกจากนี้ยังมีคอร์สเมนูสุดพิถีพิถันจาก KINU BY TAKAGI อีกหลายคอร์ส อาทิ ซาชิมิสดใหม่จากเชฟ หอยเป๋าฮื้อนึ่งราดซอสจากตับของหอยเป๋าฮื้อ ซุปมิโสะขาวจากตระกูลเก่าแก่ของเกียวโต
ปิดท้ายด้วยผลไม้ขึ้นชื่อเจ้าของยอดขายอันดับ 1 ในญี่ปุ่นติดต่อกันมากกว่า 15 ปีอย่างสตรอเบอร์รี่พันธุ์อะมะโอ สีแดงสด ลูกอวบฉ่ำ และเต็มไปด้วยความหอมหวาน เชฟนำมาทำเป็นสตรอว์เบอร์รี่ 5 แบบใน 1 คอร์ส ทั้งสตรอว์เบอร์รี่สด สตรอว์เบอร์รี่ซอร์เบต์ ทำเป็นเจลลี่ สตรอว์เบอร์รี่เชื่อม และทำเป็นซอสอุ่นๆ ที่ราดลงบนแผ่นช็อกโกแลต ก่อนที่เชฟจะโชว์ฝีมือการทำไดฟุกุสตรอว์เบอร์รี่ให้เราได้เห็นกันใกล้ๆ จบท้ายมื้อ
The Taste of Fukuoka ให้บริการตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2566 ห้องอาหารญี่ปุ่น คินูบายทาคากิ (Kinu by Takagi) เปิดให้บริการวันพุธ - วันอาทิตย์ สามารถรองรับแขกได้ 10 ท่าน ต่อมื้ออาหาร
- มื้อกลางวันให้บริการห้าคอร์ส ราคา 4,000++ บาท ต่อท่าน เริ่มเสิร์ฟอาหารเวลา 12.00 น.
- มื้อค่ำให้บริการสิบคอร์ส ราคา 8,000++ บาท ต่อท่าน เริ่มเสิร์ฟอาหารเวลา 18.00 น.
กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้า และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ห้องอาหารญี่ปุ่นคินูบายทาคากิ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โทร 0 2659 9000 หรือ อีเมล mobkk-kinubytakagi@mohg.com
Tag:
คินูบายทาคากิ, ฟุกุโอกะ, โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ, ไคเซกิ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น