ผ่านไปหนึ่งทศวรรษก็ได้เวลาที่ส้มตำเด้อจะปรับโฉมใหม่เอาใจลูกค้า คุณธัช - ธัชชัย นาคพันธุ์ ซีอีโอ เล่าว่าการปรับโฉมครั้งนี้ เป็นการรีโนเวทร้านใหม่ตั้งแต่ห้องครัวจนถึงบรรยากาศร้านที่ยังคงความเป็นอีสานร่วมสมัย มีความสนุกสนานและสีสันสดใสตามคอนเซ็ปต์ของส้มตำเด้อ โดยได้คุณโอ - ศรัณย์ เย็นปัญญา ดีไซน์เนอร์ มาตีโจทย์และตกผลึกเป็นคอนเซ็ปต์ศิลปะรถบรรทุกที่สวยงามลงตัวในทุกองค์ประกอบ
จุดเด่นสุดต้องยกให้กับแชนเดอเลียร์เหนือศรีษะที่รวมเอากระจกมองข้างและไฟแต่งรถบรรทุกหลากหลายแบบมาติดทีละชิ้นจนกลายเป็นแชนเดอเลียร์อลังการสวยงามจนใครๆ ก็อยากสนุกกับการหามุมถ่ายภาพให้สะท้อนเงาตัวเองบนกระจก และองค์ประกอบอื่นๆ ที่เติมเต็มคอนเซ็ปต์ศิลปะรถบรรทุก ได้แก่ ภาพวาดวิถีชีวิตชนบท แผ่นสแตนเลสลายไม้ขัดที่เห็นกันเจนตาบริเวณโครงไม้ท้ายรถบรรทุก วลีประจำท้ายรถ “อย่าแซงทางโค้ง หรือภาพวาดสมัยก่อนซึ่งต้องมีผ้าข้าวม้าเป็นส่วนประกอบก็ถูกตกแต่งให้ร่วมสมัยและมีความสนุกสนานมากขึ้น โดยดีไซน์เนอร์ใช้ผ้าขาวม้าตัดต่อขึงเป็นผืนผ้า วาดรูปทับซ้อนเข้าไป และใส่ไฟแอลอีดีเพิ่ม หรืออย่างภาพวาดชนบทไทยมีกระต๊อบ ทุ่งนา ก็ใส่ความเป็นป๊อปอาร์ตโดยวาดผลมะเขือเทศใหญ่ๆ และดอกไม้ดอกใหญ่ทับซ้อนลงไป กลายเป็นศิลปะชิ้นใหม่ที่สวยงามยิ่งขึ้น หรือแม้แต่ไฟตกแต่งหน้าร้านก็เป็นโคมไฟหลากสีที่นิยมติดท้ายรถบรรทุกเช่นกัน ได้อารมณ์เชิญชวนให้อยากแวะเวียนมานั่งกินดื่มไม่น้อย
ส่วนเมนูอร่อยนั้น คุณธัชตั้งใจจะเพิ่มเติมความหลากหลายของอาหารให้มากขึ้น จึงทำครัวใหม่โดยเพิ่มเติมอุปกรณ์ครัวอย่างเตาว็อก ทำให้ส้มตำเด้อโฉมใหม่มีเมนูอาหารจานผัดอร่อยๆ เสิร์ฟลูกค้า ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนเตาย่างใหม่เป็นเตาถ่านไฟแรงๆ ทางร้านจึงมีเมนูย่างที่หอมอร่อยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคอหมูย่าง หมูตกครก หรือเมนูเนื้อ อย่างเสืออีสานวากิวย่าง ที่ใช้เนื้อเสือร้องไห้ หรือเนื้อส่วนบริสเก็ตจากฟาร์มจัสมินวากิวจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นวากิวไทยคุณภาพดีและมีไขมันแทรกที่ดี เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่วขม และเป็นจานที่ขายดีมาก
เมนูทอดอย่างข้าวโพดทอด ก็เป็นจานกินเล่นที่ถูกใจสาวออฟฟิศ รวมทั้งคอหมูทอด ที่เนื้อนุ่มอร่อย ส่วนสะโพกไก่ทอดเด้อ เป็นเมนูดั้งเดิมที่ยังคงไว้
สำหรับเมนูส้มตำก็ปรับให้หลากหลายมากขึ้น ทั้งส้มตำไทย ส้มตำลาว เพิ่มเติมวัตถุดิบให้มีวาไรตี้มากขึ้น อาทิ ตำมาม่าหมูทอด ตำมาม่าไก่ทอด ตำปลาทูทอด ตำหอยแครง หรือตำซั่วข้าวปุ้นแครงนา ที่ใส่ขนมจีน หอยแครง หอยนาซึ่งก็คือหอยเชอร์รี ได้รสชาติหนึบๆ ใครชอบหอยแครงมีตำหอยแครงใส่กะปิมะม่วงเปรี้ยว หรือตำกุ้งสดเอาใจสายแข็งชอบของดิบ
อีกเมนูแนะนำที่เพิ่มขึ้นใหม่คือ ก้อย ซึ่งเป็นอาหารอีสานที่ไม่ค่อยมีขายในร้านอาหาร คุณธัชบอกว่าเป็นเมนูที่อร่อยมากจึงอยากให้คนกรุงเทพได้รู้จัก จานนี้ใช้เนื้อวากิวสไลซ์บางปรุงกับเลือดเป็นก้อยคั่วเสืออีสานวากิว อีกจานเป็นก้อยคั่วขมจะเป็นเนื้อสับใช้เนื้อส่วนเดียวกันแต่ใส่ดีวัวจึงมีรสขมน้อยๆ เมนูต้มๆ แนะนำอ่อมเนื้อลายสะดุ้ง ส่วนเมนูผัดต้องผัดมาม่าล้างตู้เย็น ที่ครบเครื่องทุกอย่างโปะหน้าด้วยไข่ดาวฟู
ปิดท้ายด้วยขนมหวานล้างปากอย่าง สาคูต้นมะพร้าวอ่อน เป็นสาคูต้นจากพัทลุง ที่ทำวันต่อวัน หรือเมนูเย็นฉ่ำอย่างเฉาก๊วยนมสด และจ้ำบ๊ะปั่น
เครื่องดื่มดับความเผ็ดร้อน แนะนำ เหล้าถังปั่น ที่สามารถสั่งแบบไม่มีแอลกอฮอล์ได้เช่นกัน หรือจะเป็นปีโป้บีทาเก้น น้ำส้มจี๊ดซ่า และส้มจี๊ดชาไทย ก็ลงตัวกับอาหารทุกจาน และไม่ว่าจะนั่งกินหรือดื่มชิลก็มีดนตรีที่มิกซ์ขึ้นเป็นพิเศษระหว่างไทยป๊อปและลูกทุ่งหมอลำ หรือเพลงในเพลย์ลิสต์ของร้านให้ได้ฟังกันเพลินๆ ตลอดวัน
ติดตามความอร่อยกันที่ ถนนศาลาแดง สีลม ตั้งแต่ 11.00-23.00 น. โทร. 0-2632-4499 หรือ FB : Somtum Der BKK ส้มตำเด้อ
Tag:
ร้านอาหารอีสาน, ศาลาแดง, ส้มตำ, ส้มตำเด้อ, อาหารอีสาน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น