โดยลิสต์ของปีนี้ เป็นการรวบรวมร้านอาหารทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 8 จังหวัดทั่วประเทศไทย ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ภูเก็ต พังงา นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี และอุดรธานี
การเฟ้นหา ร้านอร่อยราคาประหยัด ได้ออกมาเป็นรายชื่อทั้งหมด 189 ร้าน ประกอบไปด้วยร้านน้องใหม่ของมิชลินไกด์ทั้งหมด 53 ร้าน โดยมีอีก 6 ร้านที่ปรากฏในคู่มือ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย มาก่อน แล้วเลื่อนขั้นมาได้รางวัล บิบ กูร์มองด์ เป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน
ร้านที่น่าไปลิ้มลองร้านแรกยกให้ สามล้อ (Samlor) ร้านอาหารของ เชฟโจ-ณพล จันทรเกตุ ผู้ก่อตั้งร้าน 80/20 ร้านมิชลินสตาร์ 1 ดาว ที่ควงคู่มากับเชฟรุ่นน้อง เชฟบอม-ปิยะพงษ์ มิ่งงาม กับเมนูสตรีทฟู้ดที่เราคุ้นเคยอย่างข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู และข้าวหมูแดงที่ไม่ธรรมดา ส่วนมื้อเย็นแปลงร่างเป็นบาร์พร้อมเสิร์ฟกับแกล้มรสชาติไทยๆ ในรูปแบบอินเตอร์ ที่หัวมุมถนนแยกสี่พระยา กรุงเทพฯ
ร้านในอุดรฯ ที่น่าไปตามรอย ได้แก่ มาดามพาเท่ห์ ร้านอาหารเช้าขวัญใจคนท้องถิ่นอย่างมาดาม พาเท่ห์ 2515 (Madam Patehh 2515) ร้านสวยบนถนนประจักษ์ฯ ที่ผสมผสานอาหารไทย เวียดนาม ฝรั่งเศส จีน และลาวเอาไว้ด้วยกัน
บินขึ้นเหนือมาต่อร้าน มาเด สโลว์ฟิช ถึงแม้ว่าตัวร้านจะตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่ แต่ที่นี่เน้นเสิร์ฟอาหารทะเลจากกลุ่มชาวประมงในจังหวัดชุมพร ความโดดเด่นอยู่ที่ความสดของอาหารทะเลและเทคนิคการปรุงแบบเรียบง่าย เพื่อชูรสชาติวัตถุดิบจากธรรมชาติให้มากที่สุด ต้องมาลองเท่านั้น
ข้ามมาที่จังหวัดภูเก็ตกันบ้างกับ จรัส (Jaras) ร้านสวยและหรูหรา ด้วยบรรยากาศที่ย้อนไปในสมัยสุโขทัย แต่นำเสนออาหารไทยสมัยใหม่โดยเน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและพืชผักจากสวนเล็กๆ ของร้าน แนะนำให้เติมเต็มมื้ออาหารด้วยไวน์แพร์ริ่งเพื่อประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น
รอลุ้นกันว่าจะมีร้านไหนในเมืองไทยกลายเป็นร้านติดดาวบ้างกับการประกาศรางวัลร้านอาหาร MICHELIN Star และการเปิดตัวมิชลินไกด์เล่มใหม่ ในวันพฤหัสที่ 24 พฤศจิกายน นี้ เวลา 10.00 น. สามารถติดตามได้ที่ช่องทาง MICHELIN Guide Asia Youtube Channel
นับถอยหลังรอได้เลย
ดูรายชื่อร้านทั้งหมดได้ที่ Facebook : Michelin Guide
Tag:
มิชลินไกด์, รวมร้านอร่อย, ร้านอาหาร
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น