ทัวร์เอื้องหลวง การบินไทย เปิดประสบการณ์ดินเนอร์มื้อพิเศษ Mythical Taste of Thailand ชวนลิ้มรส ‘โภชนวรรณคดี’ ชุดสำหรับอาหารไทยจากแรงบันดาลใจในเรื่องราวของวรรณคดีไทยชั้นครู “พระอภัยมณี” ประพันธ์โดย สุนทรภู่ สุดยอดกวีเอกของไทย ตีความและรังสรรค์เมนูโดย เชฟโบ - ดวงพร ทรงวิศวะ แห่งร้าน โบ.ลาน

นับเป็นโอกาสหายากมากๆ ที่เราจะได้ลิ้มรสอาหารที่เคยอ่านเจอในวรรณคดี ยิ่งใครที่เป็นนักอ่านจะต้องฟินเวอร์ไปกับอาหารมื้อนี้ ซึ่งแต่ละเมนูถอดมาจากบางช่วงบางตอนของเรื่อง พระอภัยมณี ตอนอภิเษกหัสไชย ซึ่งได้กล่าวถึงอาหารและเครื่องดื่มไว้มากมายหลากหลายชนิด รังสรรค์ขึ้นเป็นสำรับอาหารไทยชวนลิ้มลองโดยเชฟโบ ซึ่งทุ่มเวลาในการศึกษาและคัดเลือกแต่ละเมนูกว่าจะได้มาเป็นสำรับชุดนี้ ร่วมกับคุณกิตติพงษ์ สารสมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้าและการตลาด การบินไทย และคัดสรรไวน์ แพร์ริ่ง โดยคุณยุ้ย - สริยา กัมปนาทแสนยากร Wine Educator ให้สอดคล้องกับยุคสมัยของสุนทรภู่อีกด้วย

สำรับสุดพิเศษนี้เริ่มต้นด้วย เริ่มแรกระเริงรส รวมออร์เดิร์ฟอาหารไทยที่ปรากฏในวรรณคดี ซึ่งสะท้อนความหลากหลายของวัฒนธรรมในสมัยนั้น ได้แก่ พล่าเนื้อดิบ ได้แรงบันดาลใจจากการกินอาหารของเผ่ายักษ์ ม้าอ้วน ของว่างแบบจีนที่คล้ายกับขนมจีบ ข้าวจี่แจ่ว ของว่างของชาวไทยอีสาน เป็ดพะโล้ กินกับน้ำจิ้มน้ำส้มสายชู ได้อิทธิพลจากชาวจีน ลุดตี่แกงเทศ หรือโรตีราดแกงกะหรี่ อาหารที่ได้รับอิทธิพลจากชาวอินเดีย จับคู่แพร์ริ่งกับแชมเปญโรเซ่ อ้างอิงจาก “น้ำชัยบาน” เครื่องดื่มสำหรับเฉลิมฉลองชัยชนะซึ่งคุณยุ้ยตีความว่าหมายถึงแชมเปญ ซึ่งมีการผลิตครั้งแรกในปี 1752 และเมื่อถึงยุคสมัยของสุนทรภู่ซึ่งเป็นยุคล่าอานานิคมของอังกฤษและมีการติดต่อค้าขายกับนานาชาติ แชมเปญจึงมีโอกาสเดินทางมาถึงเมืองไทยด้วยนั่นเอง

ต่อมาเป็น จานเดี่ยวจานเดียว เชฟโบรังสรรค์เป็น ข้าวยำหลากหลายพันธุ์ ที่ใช้ข้าวไทยหลายชนิดเป็นส่วนประกอบ มีที่มาจากบทบรรยายถึงเกาะแก้วพิศดารซึ่งมีธัญพืชโดยเฉพาะข้าวหลากหลายชนิดเจริญงอกงามอยู่ทั่วไป สะท้อนถึงความหลากหลายทางชีวภาพและความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินไทยในสมัยนั้น จากการตีความว่าเกาะแก้วพิศดารน่าจะอยู่ในทะเลฝั่งอันดามัน เชฟจึงปรุงขึ้นเป็นข้าวยำแบบอันดามัน แพร์ริ่งกับไวน์ขาวสายพันธุ์ Riesling จากเยอรมนี รสสดชื่นเข้ากับอาหารที่เผ็ดร้อนขึ้นมาจานนี้

เข้าสู่ สำรับใหญ่ ประกอบด้วยกับข้าว 5 อย่าง ได้แก่ ยำมะม่วงกุ้งย่างแลโหระพา น้ำยำใส่กะทิขลุกขลิกให้รสละมุนหอมกลิ่นใบโหระพาขึ้นจมูก แกงพะแนงไก่ถอดกระดูก เชฟนำเนื้อไก่ไปหมักกับเครื่องแกงพะแนงแล้วย่างจนหอมก่อนนำมาราดซอสพะแนง หมูต้มเค็มใส่มะระจีน ตำรับของ มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ ตั้งเตาเคี่ยวข้ามคืนจนเข้าเนื้ออย่างดี

แกงเทโพ หมูสามชั้นย่าง ใส่เนื้อปลาสละเพิ่มรสเค็มมันตามตำรับของท่านผู้หญิงเปลี่ยน และ ต้มส้ม ปลาทะเลอันดามัน รสกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิจากสโสธร หรือข้าวกล้องงอกอินทรีย์จากศรีสะเกษ แพร์ริ่งกับไวน์แดงสายพันธุ์ Pinot Noir จากแคว้นเบอร์กันดี ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งบอดี้ไม่หนักและไม่มีแทนนินมากนัก เข้ากันได้ดีกับอาหารไทย

ตามด้วยสำรับของหวาน ได้แก่ เปลือกส้มโอเชื่อม ขนมนมเนย หรือคุกกี้หอมมันเนยแบบฝรั่ง ลูกหยี ขนมโก๋ และขนมหม้อแกง แพร์ริ่งกับไวน์หวานจากหมู่เกาะมาเดรา ประเทศโปรตุเกส และชาร้อนซึ่งทางร้านเบลนด์เอง

ปิดท้ายด้วยการลิ้มรส เหล้าอาหนี หรือเหล้าจีนที่ดองกับโป๊ยกั๊ก มีสีใสและกลิ่นหอมฉุน เมื่อใส่น้ำลงไปจะกลายเป็นสีขาวขุ่น ใส่เมล็ดกาแฟลงไปเคี้ยวเวลาดื่มเพิ่มกลิ่นกาแฟและความมันเพลิดเพลิน เป็นการจบมื้ออาหารที่ทำให้เราได้เข้าไปท่องในยุคสมัยของวรรณคดีอย่างแท้จริง

ดินเนอร์มื้อพิเศษนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “The Experience” ของการบินไทย ซึ่งต้องการนำเสนอประสบการณ์ผ่านอายตนะ 6 ได้แก่ การมองเห็น ลิ้มรส การดมกลิ่น การได้ยิน การสัมผัส และการสัมผัสจากใจ เพื่อมอบแก่ลูกค้ารอยัล ออร์คิด พลัส จัดขึ้นทั้งหมด 3 รอบ ในวันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน, อาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม และอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ที่เดอะฟู้ดทรรศน์ บางกอก (โบ.ลาน) ราคา 4,900 บาทต่อท่าน (ไวน์ แพร์ริ่ง เพิ่มท่านละ 2,500 บาท) สำรองที่นั่งที่ Line OA : @roh.tg

สมาชิก รอยัล ออร์คิด พลัส รับโบนัสไมล์สะสมเพิ่ม 1,000 ไมล์ และรับเพิ่มอีก 1,000 ไมล์ หากชำระผ่านบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด

Tag: การบินไทย, อาหารไทย