เมื่อทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายการเดินทางก็เป็นโอกาสให้นักกินชาวไทยได้กระทบไหล่เชฟระดับโลกอีกครั้ง เชฟเมาโร โคราเกรคโค (Mauro Colagreco) เชฟระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว ผู้ก่อตั้งร้านอาหาร Mirazur ระดับสามดาวมิชลินที่ฝรั่งเศส และเชฟผู้ร่วมก่อตั้งห้องอาหาร Côte by Mauro Colagreco ที่โรงแรม Capella Bangkok กลับมาเยือนห้องอาหาร Côte อีกครั้งในรอบหนึ่งปีครึ่งเพื่อแสดงความยินดีกับทีมเชฟและทีมงานที่สามารถคว้าดาวมิชลินมาครองในปี 2022 และยังถือโอกาสมอบประสบการณ์อาหารสุดพิเศษแบบ “Carte Blanche” หรือเมนูที่เชฟจะเป็นผู้รังสรรค์รายการอาหารทั้งหมดขึ้นโดยที่แขกจะไม่รู้มาก่อนว่าจะได้ลิ้มลองอะไรบ้าง รวมทั้งพบปะแฟนๆ และนักกินในไทยให้สมกับที่รอคอยกันมานาน
ในอีเวนต์พิเศษนี้ เชฟเมาโร และ เชฟดาวิเด การาวาเกลีย (Davide Garavaglia) Chef de Cuisine แห่งห้องอาหาร Côte ได้รังสรรค์ 9 คอร์สเมนู Carte Blanche ในคอนเซ็ปต์ของห้องอาหาร ‘Riviera to River’ ที่จะดึงเอารสชาติแบบเมดิเตอเรเนียนริเวียร่าผสมผสานกับอิทธิพลจากวัตถุดิบของไทย เมนูที่รังสรรค์ขึ้นจากวัตถุดิบชั้นเลิศในฤดูกาล รวมทั้งเมนูซิกเนเจอร์ของเชฟเมาโร ด้วยปรัชญาการทำอาหารของเชฟที่ให้ความเคารพกับการเลือกสรรวัตถุดิบตามฤดูกาลและความยั่งยืน
G&C มีโอกาสได้ลิ้มลองเทสติ้งเมนูบางส่วนซึ่งมอบความแปลกใหม่และประทับใจในทุกจาน เริ่มต้นด้วย Amuse Bouche 5 เมนูที่เล่นระดับกับรสชาติและรสสัมผัสที่แตกต่าง เริ่มด้วยชิปส์ปลาดิบและพอนสุเพิร์ลรสเปรี้ยวสดชื่น ถัดมาเป็นทาร์ตชีสพาร์เมซานโรยหน้าปลาไอซ์ฟิชญี่ปุ่นรสนุ่มนวล ต่อด้วยเจลลีหอยแมลงภู่แบบฝรั่งเศสที่ให้รสชาติและกลิ่นอายของท้องทะเลเต็มปากเต็มคำ ต่อมาเป็นมาการองเห็ดชิตาเกะสอดไส้แบล็คพุดดิ้ง ครีมชีส และแอปเปิลเขียวสไลซ์บางที่มีทั้งความหวาน นุ่ม กรอบ และสดชื่น ปิดท้ายด้วยขนมปังขิงอบกรอบรูปใบไม้ มูสตับห่าน โรยด้วยผงซินนามอนที่ให้รสหอมหวานติดปลายลิ้น จานนี้เป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ของเชฟเมาโร
เรายังได้ลิ้มลอง Sharing Bread ขนมปังตำรับซิกเนเจอร์ซึ่งเป็นสูตรจากคุณย่าของเชฟเมาโร สื่อถึงความสุขจากการแบ่งปันขนมปังอุ่นๆ ร่วมกันบนโต๊ะอาหาร เสิร์ฟกับน้ำมันมะกอกสูตรของเชฟที่อินฟิวส์กับขิงและเลมอนให้กลิ่นและรสที่โดดเด่น
เข้าสู่เมนูในคอร์ส เริ่มด้วยจานเรียกน้ำย่อยที่สวยงามและสดชื่น Crab / Turnip / Burgamot เนื้อปูรสหวานละมุน เทอร์นิปฝานบางและเทอร์นิปทรงกลมที่ไล่ระดับความสุกเพื่อสร้างเท็กซ์เจอร์ความกรอบและนุ่มที่แตกต่าง โรยหน้าด้วยเนื้อพัลป์สีชมพูและเหลืองสดใสของมะนาว Finger Lime
จานต่อมา Langoustine / Tomato / Pollen กุ้งแลงกุสตีนเนื้อหวานตัดรสกับมะเขือเทศที่นำมาปรุงเป็นทั้งซอสและแบบซันดรายส์ทอปบนเนื้อกุ้งเพิ่มรสหวานละมุน โรยหน้าด้วยโมเล่ สไปซ์ เป็นอีกจานที่ได้ความอร่อยของเนื้อกุ้งเต็มคำและผสานรสชาติต่างๆ ได้อย่างลงตัวและสดชื่นมาก
สำหรับจานปลา Monkfish / Zucchini / Pistachio / Saffron เชฟเลือกมังก์ฟิชที่เนื้อแน่นย่างพอหอมกลิ่นสโมคบางเบา เสิร์ฟกับทรัมเป็ตซุกกีนีที่หวานอร่อย ส่วนดอกซุกกินีนำมาสอดไส้มูสมังก์ฟิชและซุกกินีกินได้ทั้งคำ ราดด้วยซอสแซฟฟรอนสีเหลืองสดใส อีมัลชั่นถั่วพิสตาชิโล ตกแต่งด้วยใบโหระพาที่ปลูกในสวนของโรงแรม เป็นอีกจานที่ให้รสกลมกล่อมสมดุล แม้แต่คนที่ไม่ค่อยถูกกับซุกกินีอย่างเรายังเอร็ดอร่อยไปกับซุกกินีในจานนี้ได้อย่างเพลินเพลิน
จานหลัก BBQ ‘Iberico’ Pork / Squid / ‘Pil Pil’ Sauce จับคู่เนื้อหมูอิเบริโคกับหมึก ความแน่นและนุ่มของเนื้อหมูกับความสดหวานและนุ่มแต่เด้งดึ๋งของหมึกเป็นคอมบิเนชั่นที่อร่อยอย่างเหลือเชื่อ โรยหน้าด้วย Pork jus เห็ดนางรม และซอส Pil Pil ซอสดั้งเดิมจากแคว้นบาสก์ซึ่งเชฟเลือกใช้ไขมันจากกระดูกปลามาเป็นส่วนประกอบจนได้รสชาติอันเข้มข้นและคอลลาเจนเต็มเปี่ยม
ปิดท้ายด้วยของหวาน Mascarpone / Coriander Ice Cream / Pop Corn Powder คอมบิเนชั่นของชีสมาสคาโปนเนื้อนวลครีมมี่ ตัดกับความเย็นและกลิ่นรสอันเป็นเอกลักษณ์ของไอศกรีมผักชี โรยหน้าด้วยผงป๊อบคอร์นรสซอลเต็ดคาราเมลเคี้ยวกรุบๆ ที่ทำให้นึกว่ากำลังกินป๊อบคอร์นอยู่จริงๆ
เรียกความประทับใจได้ในทุกจานจากความแปลกใหม่และสร้างสรรค์ในการเลือกใช้วัตถุดิบอันหลากหลาย ราวกับจะพาผู้ที่ลิ้มลองออกเดินทางข้ามโลกจากริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังชายฝั่งริเวียร่าเลยทีเดียว
อีเวนต์พิเศษนี้จัดขึ้นเพียง 4 วัน ระหว่างวันที่ 27 เมษายน - 1 พฤษภาคม 2565 ใครที่พลาดโอกาสนี้ไปไม่ต้องเสียใจ เพราะจากการตอบรับในครั้งนี้ แว่วๆ ว่าทาง Capella Bangkok มีแผนจะเชิญเชฟมาจัดอีเวนต์ในบ้านเราให้บ่อยขึ้นอย่างแน่นอน ติดตามรอฟังข่าวดีได้ที่ www.capellahotels.com/bangkok
Tag:
มิชลินสตาร์, อาหารเมดิเตอร์เรเนียน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น