เป็นอีก 1 แห่งที่ได้ชื่อว่าข้าวแช่ดีงามไม่แพ้ที่ไหน หญิงใหญ่จึงขันอาสาไปชิมข้าวแช่ชาววังของห้องอาหารปทุมมาศ โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพ ดับอุณหภูมิของเดือนเมษาที่ร้อนจนชวนจิตใจร้อนรุ่มเสียหน่อย
ข้าวแช่ของที่นี่ตั้งชื่อได้เพราะพริ้งว่าข้าวแช่หอมเย็นต้นตำรับชาววัง (ฟังแล้วเคลิ้มเล็กน้อย ทั้งหอมทั้งเย็น) ความพิเศษคือข้าวแช่มีให้เลือก 2 แบบคือข้าวขาว และข้าวไรซ์เบอร์รี่ ซึ่งเรียกว่าเป็นกิมมิคของเดอะ สุโกศล ก็ว่าได้ เพราะส่วนตัวคุณมาริสา สุโกศล คลุกคลีอยู่กับงานด้านสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว จึงรับซื้อข้าวเกษตรอินทรีย์จากชาวนาของจังหวัดอำนาจเจริญโดยตรง
ส่วนเครื่องเคียงนี่ขอบอกว่าเป็นทีเด็ด ทั้งลูกกะปิทอด หอมแดงชุบแป้งทอด พริกหยวกสอดไส้ หมูฝอยหรือเนื้อฝอยผัดหวาน ปลาช่อนทอดผัดหวาน ไชโป๊วผัดไข่ แม้ไม่ได้จัดเสิร์ฟมาแบบอลังการแต่ได้ชิมแล้วชอบมาก เพราะซึ่งทั้งหมดเป็นฝีมือของเชฟแม่หนุ่ย เชฟคนเก่งที่ทำข้าวแช่มาหลายสิบปี เครื่องเคียงของแม่หนุ่ยขอใช้คำว่า 'มีรสมีชาติ' อย่างพริกหยวกสอดไส้ นอกจากนุ่มมากเพราะใส่ไข่เยอะเป็นพิเศษแล้ว ยังหอมกลิ่นพริกไทย ส่วนลูกกะปิ ที่นี่ปั้นลูกเล็ก กินง่าย ไม่ได้ใส่แค่กระชาย หอม และกะปิ แต่ใส่ทั้งข่า ตะไคร้ กระเทียม และเนื้อปลา เคี้ยวปุ๊บจะได้กลิ่นกระชายอวลไปทั่วทั้งปาก
อีกอย่างที่เป็นไฮไลต์ คือหอมแดงชุบแป้งทอด ที่ขอขีดเส้นใต้ไว้ตรงนี้ว่าควรมาลองชิมเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่แค่หอมทอดยัดไส้ไข่เค็มแบบที่เห็นกันทั่วไป แต่ใส่อย่างอื่นลงด้วย ซึ่งหญิงเองคันปากอยากบอก แต่เชฟแม่หนุ่ยขอให้เก็บไว้เป็นความลับ ใครอยากรู้ขอให้มาลองชิมด้วยตัวเอง
ส่วนข้าว ด้วยความที่เป็นข้าวเกษตรอินทรีย์ เชฟแม่หนุ่ยบอกกับเราว่าทำค่อนข้างยาก หากต้มไม่ดีจะดิบไปหรือไม่ก็สุกเกิน จึงต้องพิถีพิถันหนักหน่อย ซึ่งเราชิมแล้วชอบมากเพราะข้าวมีความกรุบกำลังดี หอมกลิ่นใบเตยและควันเทียน ตักข้าวเข้าปากแล้วชื่นใจหายร้อน เพลินจนกินหมดทั้งข้าวขาวและข้าวไรซ์เบอร์รี่ (เขิน)
ชาว G&C ที่อยากลองชิมข้าวแช่ของที่นี่ แวะมาได้ตลอดเดือนเมษายน ราคาเบาๆ ชุดละ 490 บาท และเฉพาะวันที่ 13 และ 14 เมษายนนี้ จะมีบุฟเฟต์ข้าวแช่ที่ห้องอาหารปทุมมาศให้กินกันอย่างจุใจอีกด้วย
ห้องอาหารปทุมมาศ โทร. 0-2247-0123 ต่อ 1810, www.sukosolhotels.com, www.facebook.com/TheSukosolBangkok
Tag:
, ข้าวแช่, อาหารชาววัง, อาหารไทย,
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น