อิกนีฟ แบงคอก เทคโอเวอร์ เดอะเลานจ์ (IGNIV Bangkok Take Over The Lounge) พร้อมสร้างปรากฎการณ์ความอร่อยรูปแบบใหม่ในบรรยากาศอันผ่อนคลายบริเวณ The Lounge ชั้น 1 โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ (The St. Regis Bangkok) ซึ่งแปลงโฉมให้นั่งสบายยิ่งขึ้นและเว้นระยะห่างอย่างปลอดภัย ร่วมกับการเสิร์ฟเมนูพิเศษจาก IGNIV Bangkok ร้านไฟน์ไดนิ่งของเซเลบริตี้เชฟชื่อดัง เชฟแอนเดรียส คามินาดา (Andreas Caminada) ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป
เมนูพิเศษของ IGNIV Take Over The Lounge ดูแลอย่างพิถีพิถันโดยหัวหน้าเชฟเดวิด ฮาร์ดวิก (David Hartwig) และ เชฟอาเน่ รีน (Arne Riehn) ผู้ช่วยหัวหน้าเชฟและขนมหวาน พร้อมด้วยทีมงานร้าน IGNIV Bangkok ไม่ว่าจะเป็นเมนูของว่าง อาหารคาว และขนมหวานสไตล์ยุโรปหลากหลายสัญชาติ ทั้งตำรับสวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย และเยอรมัน
คุณเคลาส์ General Manager, St. Regis Bangkok และเชฟอาเน่
เริ่มต้นด้วยของว่างคำเล็กซิกเนเจอร์ 4 Savoury Bites (500 บาท) ประกอบด้วย Crab Salad สลัดเนื้อปูเสิร์ฟบนมะนาวย่างโรยหน้าไข่ปลาเทราต์ เวลากินบีบมะนาวนิดแล้วกินแต่ส่วนสลัดเนื้อปูได้รสสดชื่นจากท้องทะเล Tartlets มูสต้นกระเทียมโรยหน้าด้วยต้นหอมจีนทอด Daikon ไชเท้าฝานบางม้วนสอดไส้อะโวคาโด ท็อปด้วยเจลส้มคาราแมนซี่ Macadamia ถั่วแมคคาเดเมียหุ้มฟัวกราส์และผงบีทรูตโกลเด้นหวานมัน
อิ่มท้องขึ้นอีกนิดด้วยเมนู Savoury Snack อาทิ Swiss Pretzel – Gruyere – Ham (500 บาท) แซนด์วิชขนมปังเพร็ตเซลเนื้อหนึบสอดไส้ชีสกรูแยร์และแฮม จานง่ายๆ ที่อร่อยไม่ธรรมดา Veal Taretare – Pickle – Potato (600 บาท) ทาทาร์เนื้อลูกวัวเสิร์ฟกับผักต่างๆ ดองรสเปรี้ยวหวาน เสิร์ฟกับมันฝรั่งที่นำไปบดเป็น jus ก่อนนำไปแผ่แล้วทอดอีกครั้งได้สัมผัสบางกรอบ
Paprika – Tomatillo – Tomato (400 บาท) จานเบาๆ ที่ได้ความอร่อยหวานของมะเขือเทศและพริกหวานราดด้วยซอสปาปริกาสีแสดและน้ำมันต้นหอมจีนสีเขียวใส และ Hamachi – Daikon – Ceviche (700 บาท) เซวิเช่เนื้อปลาฮามาจิ ผิวด้านนอกโรยพริกไทยนาบกระทะ เสิร์ฟกับหอมแดงและไชเท้าดอง
สำหรับของหวานนั้น เราสามารถเลือกได้อย่างจุใจจากรถเข็นที่บรรทุกบรรดาเค้ก (200 บาท) พาย (130 บาท) และทาร์ต (250 บาท) รวมทั้งขนมชิ้นเล็กอย่างคาเนเล่ที่ทำสดใหม่ทุกวันและใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของไทยเป็นส่วนประกอบ อาทิ Engadiner Nusstorte (Swiss Nut Cake) ทาร์ตถั่ววอลนัตสูตรดั้งเดิมของสวิสฯ บ้านเกิดของเชฟแอนเดรียส หวานกรุบกรอบ Fig Tart ทาร์ตลูกมะเดื่อสดอัดแน่นๆ เต็มชิ้น และพลาดไม่ได้กับ Sacher Torte เค้กช็อกโกแลตสอดไส้ชั้นของแยมแอปริคอตตำรับออสเตรียแท้ๆ (เพราะเป็นบ้านเกิดของเชฟอาเน่) ซึ่งใช้โกโก้จากประจวบคีรีขันธ์
เชฟอาเน่และรถเข็นที่อัดแน่นด้วยขนมหวานหลากสัญชาติ
พร้อมเสริมความอร่อยให้กับบรรดาขนมหวานไปอีกขั้นด้วย ไอศกรีมวานิลลา (200 บาท) และ ครีมชานทิลลี (80 บาท) ที่สามารถสั่งมากินคู่กับเค้กและพายต่างๆ ได้ด้วย บอกเลยว่าเข้ากันสุดๆ
เครื่องดื่มสำหรับจิบคู่กับอาหารมีหลากหลาย สำหรับสายสุขภาพขอแนะนำ คอมบูชา (220 บาท) น้ำผลไม้ออร์แกนิก หรือ น้ำผลไม้สกัดเย็น (240 บาท) เพิ่มความสดชื่นคล่องคอ หรือหากต้องการจิบอะไรอุ่นๆ อาจเลือกสั่งชาออร์แกนิก Chaidim Tea (220 บาท) ที่มีเบลนด์ให้เลือก อาทิ ชาเปปเปอร์มินต์ ชาตะไคร้ใบเตยอัญชัน หรือกาแฟหอมกลมกล่อมจาก D’ARK COFFEE เราแนะนำ IGNIV Drip Coffee (350 บาท) กาแฟดริปอาราบิก้าสำหรับแชร์ได้ 2 คน ซึ่งพนักงานจะมาดริปให้สดๆ ที่โต๊ะเลย
ชวนเพื่อนฝูงมาแฮงเอาต์และลิ้มรสความอร่อยทั้งหมดนี้ภายใต้บรรยากาศชิลๆ ของ The Lounge ได้ตั้งแต่ 8.00 – 20.00 น. โดยเมนูแบบเต็มรูปแบบเริ่มให้บริการเวลา 12.00 – 18.00 น. จะเป็นมื้อสาย มื้อเที่ยง หรือมื้ออาหารว่างยามบ่ายก็ลงตัว สำรองที่นั่งที่โทร. 02-207-7822
Tag:
ไฟน์ ไดน์นิ่ง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น